ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- คาดผลผลิตมันฯโคราช แหล่งเพาะปลูกใหญ่สุดของไทย ทะลักสู่ตลาดฤดูกาลผลิต 51/52 พุ่งเฉียด 10 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1 ล้านตัน เหตุเกษตรกรแห่ปลูกกว่า 1 แสนราย รวมพื้นที่ 2.2 ล้านไร่ มั่นใจไม่ล้นตลาดเหตุโรงงาน 19 แห่งโคราชต้องการสูง คาดราคายังดีอยู่ในระดับ 1.80-2.00 บาท/กก. จากต้นทุนผลิต 1.40 บาท/กก. เผยเร่งส่งเสริมเกษตรกรเพิ่มผลผลิตต่อไร่และลดต้นทุนการผลิตในพื้นที่เป้าหมาย 7 อำเภอ ที่ปลูกมันฯมากกว่า 1 แสนไร่
นายสุพงศ์ สินธุรัตน์ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์และแนวโน้มราคามันสำปะหลังฤดูกาลผลิตปี 2551/2552 ของ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมันฯใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ว่า ล่าสุดจากการสำรวจพบว่า จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในปี 2551 จำนวน 29 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ เกษตรกร 100,968 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูก 2,209,170 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 5.44 หรือ 114,507 ไร่ คาดจะมีพื้นที่เก็บเกี่ยวประมาณ 2,107,554 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 4,318 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2550/51 ร้อยละ 3.52 หรือ 147 กิโลกรัม/ไร่ ดังนั้นได้ผลผลิตรวมประมาณ 9,100,159 ตัน/ปี เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามีผลผลิตออกสู่ตลาด 8 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านตัน
มันสำปะหลังปีนี้ มีทุนการผลิตเพิ่มขึ้นมาเป็นเฉลี่ยประมาณ 1.40 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากราคาปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น ปุ๋ย น้ำมัน และแรงงาน แต่เนื่องจากราคามันสำปะหลังปีที่ผ่านมามีราคาดีจึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกมันฯ กันมากขึ้น
นายสุพงศ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดนครราชสีมามีโรงงานอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง จำนวน 19 แห่ง ต้องการวัตถุดิบมันสำปะหลัง ประมาณ 30,000 ตัน/วัน หรือ 10 ล้านตัน/ปี คาดว่าราคารับซื้อปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.80 - 2.00 บาท/กิโลกรัม ซึ่งราคาจะลดลงจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อยเนื่องจากผลผลิตมีมากขึ้น แต่ยังเป็นราคาที่ถือว่าอยู่ในระดับคุ้มค่ากับการลงทุนและหากโรงงานเอทานอล สามารถเปิดรับซื้อมันสำปะหลังได้ทันในช่วงเก็บเกี่ยวหรือในช่วงต้นปี 2552 จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกรในการจำหน่ายและเกิดผลกระทบเชิงบวกด้านราคาขายด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการที่มันสำปะหลังของ จ.นครราชสีมา ในปี 2551/2552 จะมีผลผลิตรวมประมาณ 9.1 ล้านตัน/ปี ถือว่าปริมาณเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือร้อยละ 3.52 แต่โรงงานใน จ.นครราชสีมามีความต้องการประมาณ 10 ล้านตัน/ปี และอยู่ในปริมาณความต้องการของตลาดที่สามารถรับซื้อได้ ส่วนราคาคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 1.80 - 2.00 บาท/กิโลกรัม นั้น เป็นราคาที่เกษตรกรสามารถรับได้และมีกำไร เนื่องจากต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.40 บาท/กิโลกรัม
นายสุพงศ์ กล่าวอีกว่า ในด้านการส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง สำนักงานเกษตรจังหวัดยังเน้นไปที่การถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร เพื่อให้เพิ่มผลผลิตต่อหน่วยและพัฒนาคุณภาพมันสำปะหลังให้สูงขึ้น โดยเน้นหนักในพื้นที่ 7 อำเภอที่มีพื้นที่เพาะปลูกเกิน 100,000 ไร่ ซึ่งต้องมีความรู้มากกว่าเกษตรกรในอำเภออื่น ได้แก่ ครบุรี, เสิงสาง, สีคิ้ว, ด่านขุนทด ,หนองบุญมาก, ปักธงชัยและ สูงเนิน
ส่วนอำเภอที่เหลือได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนตามปกติ มีการรณรงค์และส่งเสริมให้มีการเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยให้สูงขึ้น มุ่งเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก 150 กิโลกรัม/ไร่/ปี จากเดิมเฉลี่ย 4.1 ตัน/ไร่/ปี และ ส่งเสริมให้มีการลดต้นทุนการผลิตด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เป้าหมายลดต้นทุนให้เหลือกิโลกรัมละ 1.30 บาท
