ตาก – หอการค้า-สภาอุตสาหกรรมตาก จี้รัฐบาล “สมชาย 1” ปัดฝุ่นเขตเศรษฐกิจชายแดนแม่สอด เร่งฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว ย้ำทีมเศรษฐกิจต้องมือถึง เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กำลังลุกลามไปทั่ว เผยเฉพาะแม่สอดปีหน้าเชื่อออเดอร์ ตปท.หาย 50%แน่ ด้านผู้นำ อปท.เสนอรัฐบาลใหม่เปิดช่ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าสู่การบริหารในรูปแบบพิเศษรองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 26 ของไทย ว่า ที่ผ่านมาหลายเดือนเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวซบเซามานานแล้ว นายกฯคนใหม่จึงควรเร่งปรับภาพลักษณ์เดิมๆออกไป สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกลับคืนมาเมืองไทย โดยหอการค้าจังหวัดตากต้องการให้รัฐบาลใหม่ได้สนใจเศรษฐกิจ-การค้าชายแดนและการท่องเที่ยว แม่สอด-เมียวดี ฟื้นฟูนโยบายการประกาศเขตเศรษฐกิจชายแดนแม่สอด ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 กลับคืนมาใหม่และเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
นายชัยยุทธ เสณีตันติกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องเร่งดำเนินการ หลังแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเรียบร้อย คือ การส่งเสริมการลงทุน การส่งเสริมโครงการความร่วมมือคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่ง ชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี และการปลูกพืชพลังงานทดแทน ซึ่งในพื้นที่มีการลงทุนเกี่ยวกับโรงงานเอทานอล
ในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดตาก ในช่วงนี้มีการทำตามออเดอร์ปกติจนถึงสิ้นปีนี้ แต่ในช่วงปี 2552 เป็นต้นไปอาจจะกระทบถึง 50% เพราะออรเดอร์ส่วนใหญ่มาจากอเมริกา ที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ รัฐบาล “สมชาย1” ควรทำการเมืองให้สงบนิ่ง เมื่อการเมืองสงบก็จะส่งเสริมการลงทุนได้ดี นักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศจะมีความมั่นใจในการจะกลับมาลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือการเร่งฟื้นธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้และเงินสะพัดได้อย่างมหาศาลโดยไม่ต้องลงทุน
“การตั้ง ครม.ชุดใหม่นั้น ครม.ด้านเศรษฐกิจ ควรเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทั้ง รมว.คลัง-พาณิชย์-อุตสาหกรรม-เกษตร จะต้องทำงานเข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายนอกหรือคนภายใน ต้องมีคุณสมบัติที่เชื่อถือได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าว
ด้านนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด เทศบาลเมืองแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ในฐานะผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จังหวัดตาก กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยากให้นายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขความขัดแย้งและปัญหาภายในประเทศโดยเร็วที่สุด และสร้างความสามัคคีและปรองดองให้คนในชาติมาเป็นใจหนึ่งใจเดียวกัน นำความคิดเห็นของคนไทยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นคนส่วนใหญ่และส่วนน้อยมาแก้ไขและนำไปสู่การหาทางออกวิกฤตของประเทศชาติ และที่สำคัญอีกประการคือการเร่งฟื้นฟูและนำเศรษฐกิจที่มั่นคงแข็งแรงกลับมาสู่เมืองไทย สร้างเศรษฐกิจไทยเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศโดยเร็ว
นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด กล่าวต่อว่า สำหรับ อปท. อยากจะให้นายกรัฐมนตรี - ครม.ชุดใหม่ ได้ให้ความสำคัญกับท้องถิ่นให้มากขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปแบบท้องถิ่นที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง ให้เป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ท้องถิ่นใดที่มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ-การเจริญเติบโตทางการค้า-การท่องเที่ยวและการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเป็นเมืองลักษณะพิเศษทางเศรษฐกิจ ก็ให้พัฒนายกฐานะให้เป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่การเมืองและพัฒนาประเทศชาติ
“สถานการณ์โลกในยุคปัจจุบัน ท้องถิ่น มีความสำคัญและเป็นจุดเริ่มในการพัฒนาประเทศ อยากจะให้ผู้นำประเทศไทยคนใหม่ ให้ความสำคัญที่จะให้ท้องถิ่นและประชาชนส่วนใหญ่ในท้องถิ่นได้แสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริง ร่วมกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและฝ่าวิกฤตของประเทศชาติ สุดท้ายขอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้เปิดโอกาสอย่างกว้างขวางและเต็มที่ให้ผู้นำท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นรวมทั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในการร่วมกับรัฐบาลสร้างความเจริญให้กับประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ-สังคม-การพัฒนาเมือง”
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 26 ของไทย ว่า ที่ผ่านมาหลายเดือนเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวซบเซามานานแล้ว นายกฯคนใหม่จึงควรเร่งปรับภาพลักษณ์เดิมๆออกไป สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกลับคืนมาเมืองไทย โดยหอการค้าจังหวัดตากต้องการให้รัฐบาลใหม่ได้สนใจเศรษฐกิจ-การค้าชายแดนและการท่องเที่ยว แม่สอด-เมียวดี ฟื้นฟูนโยบายการประกาศเขตเศรษฐกิจชายแดนแม่สอด ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 กลับคืนมาใหม่และเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
นายชัยยุทธ เสณีตันติกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องเร่งดำเนินการ หลังแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเรียบร้อย คือ การส่งเสริมการลงทุน การส่งเสริมโครงการความร่วมมือคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่ง ชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี และการปลูกพืชพลังงานทดแทน ซึ่งในพื้นที่มีการลงทุนเกี่ยวกับโรงงานเอทานอล
ในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดตาก ในช่วงนี้มีการทำตามออเดอร์ปกติจนถึงสิ้นปีนี้ แต่ในช่วงปี 2552 เป็นต้นไปอาจจะกระทบถึง 50% เพราะออรเดอร์ส่วนใหญ่มาจากอเมริกา ที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ รัฐบาล “สมชาย1” ควรทำการเมืองให้สงบนิ่ง เมื่อการเมืองสงบก็จะส่งเสริมการลงทุนได้ดี นักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศจะมีความมั่นใจในการจะกลับมาลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือการเร่งฟื้นธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้และเงินสะพัดได้อย่างมหาศาลโดยไม่ต้องลงทุน
“การตั้ง ครม.ชุดใหม่นั้น ครม.ด้านเศรษฐกิจ ควรเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทั้ง รมว.คลัง-พาณิชย์-อุตสาหกรรม-เกษตร จะต้องทำงานเข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายนอกหรือคนภายใน ต้องมีคุณสมบัติที่เชื่อถือได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าว
ด้านนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด เทศบาลเมืองแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ในฐานะผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จังหวัดตาก กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยากให้นายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขความขัดแย้งและปัญหาภายในประเทศโดยเร็วที่สุด และสร้างความสามัคคีและปรองดองให้คนในชาติมาเป็นใจหนึ่งใจเดียวกัน นำความคิดเห็นของคนไทยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นคนส่วนใหญ่และส่วนน้อยมาแก้ไขและนำไปสู่การหาทางออกวิกฤตของประเทศชาติ และที่สำคัญอีกประการคือการเร่งฟื้นฟูและนำเศรษฐกิจที่มั่นคงแข็งแรงกลับมาสู่เมืองไทย สร้างเศรษฐกิจไทยเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศโดยเร็ว
นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด กล่าวต่อว่า สำหรับ อปท. อยากจะให้นายกรัฐมนตรี - ครม.ชุดใหม่ ได้ให้ความสำคัญกับท้องถิ่นให้มากขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปแบบท้องถิ่นที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง ให้เป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ท้องถิ่นใดที่มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ-การเจริญเติบโตทางการค้า-การท่องเที่ยวและการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเป็นเมืองลักษณะพิเศษทางเศรษฐกิจ ก็ให้พัฒนายกฐานะให้เป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่การเมืองและพัฒนาประเทศชาติ
“สถานการณ์โลกในยุคปัจจุบัน ท้องถิ่น มีความสำคัญและเป็นจุดเริ่มในการพัฒนาประเทศ อยากจะให้ผู้นำประเทศไทยคนใหม่ ให้ความสำคัญที่จะให้ท้องถิ่นและประชาชนส่วนใหญ่ในท้องถิ่นได้แสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริง ร่วมกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและฝ่าวิกฤตของประเทศชาติ สุดท้ายขอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้เปิดโอกาสอย่างกว้างขวางและเต็มที่ให้ผู้นำท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นรวมทั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในการร่วมกับรัฐบาลสร้างความเจริญให้กับประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ-สังคม-การพัฒนาเมือง”
