เป็นอันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคได้พร้อมใจกันหนุนให้คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความขัดแย้ง ความแตกแยกภายในและในท่ามกลางวิกฤตอันใหญ่หลวงของชาติบ้านเมือง
ชะตากรรมของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นับแต่นี้ไปจะเป็นประการใด จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจจับตา
เพราะไม่ทันไร นักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ร่ายเรียงเรื่องราวและความผิดที่มีการกล่าวหาคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นภริยาออกมามากมาย นับได้หลายหน้ากระดาษ
และข้อหาเหล่านั้นแม้ข้อใดข้อหนึ่งเป็นความผิดขึ้นมาจริง ๆ ชะตากรรมคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และครอบครัวคงดับดิ้นไปเมื่อนั้น
ชะตากรรมคนเราจะเป็นประการใด กรรมอันมีมาแต่หนหลังย่อมยังให้ชะตากรรมข้างหน้าเป็นประการนั้น นี่เป็นไปตามหลักกฎแห่งกรรม ที่ไม่มีใครหน้าไหนไม่ว่าจะยิ่งใหญ่หรือยากไร้อย่างไร ล้วนไม่อาจหลีกลี้หนีพ้นจากกฎแห่งกรรมนี้ไปได้เลย
ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า คนเรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว
ความแต่หนหลังของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นอย่างไร? เป็นเรื่องที่สังคมไทยยังรู้ไม่กระจ่างนัก จึงควรที่จะกล่าวเล่าขานพอเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนทั้งปวง
คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พื้นเพเดิมเป็นคนภาคใต้ เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ามาเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่กรุงเทพฯ โดยสำนักอยู่ที่คณะ 2 วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร สำนักเดียวกับนายไพศาล พืชมงคล
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นศิษย์เอกของท่านเจ้าคุณพระราชธรรมภาณี หรือที่เรียกว่าท่านเจ้าคุณเล็ก ส่วนไพศาล พืชมงคล สำนักอยู่คณะ 1 เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธินายก หรือท่านเจ้าคุณใหญ่ หรือที่พวกวงการพระเครื่องนิยมเรียกขานว่าหลวงปู่นาค
คณะ 1 วัดระฆังในยุคนั้นเป็นคณะหลักที่ทำพระสมเด็จ เพราะท่านเจ้าคุณใหญ่เป็นพระมหาเถระที่เรืองวิทยาคม มีผู้คนที่มีจิตศรัทธาและนิยมนับถือพระสมเด็จวัดระฆังเข้าหาเป็นจำนวนมาก คึกคักคลาคล่ำราวกับตลาดนัดย่อยๆ
ศิษย์วัดระฆังคณะ 1 จึงรับสภาพชีวิตในวัดติดตัวมาแทบทุกคน คือสนใจในเรื่องเวทมนตร์ของขลังและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งการฝึกฝนอบรมจิต แต่ไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะคุ้นเคยกับสังคมเปิดที่ต้อนรับคนทั้งปวง เอื้ออาทรต่อคนทั้งปวงแม้กระทั่งคนบ้าและหมาจรจัด
ส่วนศิษย์วัดระฆังคณะ 2 นั้นรับสภาพชีวิตในวัดติดตัวมาต่างกัน เพราะท่านเจ้าคุณเล็กท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ ละเอียด รอบคอบ สุขุม เคร่งครัด ตรงกันข้ามกับท่านเจ้าคุณใหญ่ที่มักถือว่า “อะไรก็ได้” หรือ “มันเป็นอย่างนั้นแหละ”
จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็สอบเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในคณะนิติศาสตร์ เพราะเหตุที่สอบเข้าธรรมศาสตร์ในปี 2509 จึงมีชื่อรุ่นนิติศาสตร์รุ่นนี้ว่า “นิติ 09”
ชาวนิติศาสตร์ 09 มีจำนวนมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา และจบการศึกษามากที่สุดมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา คือมีจำนวนร่วม 600 คน จึงบางทีมีการกล่าวขานถึงชาวนิติศาสตร์รุ่นนี้ว่าเป็นรุ่นปล่อยผี
เนื่องเพราะพวกที่สอบตกค้างคามาหลายปีดีดัก ก็ได้รับการผ่อนปรนจนจบการศึกษาพร้อม ๆ กัน
ชาวนิติศาสตร์ 09 เมื่อมีจำนวนมากก็แยกย้ายไปทำมาหากินในแทบทุกที่ทุกทาง โดยเฉพาะในวงการศาล อัยการ ตำรวจ ทนายความ นายทหารพระธรรมนูญ นิติกร แม้กระทั่งนักธุรกิจ
ชาวนิติศาสตร์ 09 เป็นรุ่นที่มีความสามัคคีรักใคร่ผูกพันกันค่อนข้างเหนียวแน่นเพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามาก และถือเหล่าถือคณะแน่นหนา เนื่องจากในยุคนั้นคณะนิติศาสตร์กับคณะรัฐศาสตร์มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นยกพวกทุบตีกันเป็นประจำ
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จบธรรมศาสตร์แล้วสองปีต่อมาก็สำเร็จเป็นเนติบัณฑิต และได้สอบเป็นผู้พิพากษา และรับราชการเป็นผู้พิพากษาเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนจากนายอุระ หวังอ้อมกลาง อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแนะนำต่อนายสุทัศน์ เงินหมื่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้นให้โยกไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชีวิตของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงเข้าสู่วงจรทางการบริหารและวงการเมืองตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีภริยาเป็นพยาบาล เป็นนักการเมืองที่เลื่องชื่อลือชาของภาคเหนือ และเป็นน้องสาวสุดที่รักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
เดิมทีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่ได้มีภริยาเป็นพยาบาล แต่ต่อมาก็เจริญรอยตามไพศาล พืชมงคล ด้วยเหตุผลที่ว่าคนเราเกิดมาเป็นชายทั้งทีควรจะตายก่อนเมีย เพราะถ้าเมียตายก่อน ทั้งตัวเองและลูกหลานจะลำบาก และเมื่อจะตายก่อนเมียแล้วก็ควรจะตายให้สบาย มีคนดูแลรักษาพยาบาล คอยดูใจยามใกล้จะตาย ซึ่งไม่มีอาชีพไหนดีเท่ากับอาชีพพยาบาล ซึ่งต่อมาเชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ เพื่อนร่วมรุ่นก็เจริญรอยตามอีกคนหนึ่ง
แต่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ คงไม่ได้เชื่อเหตุผลดังกล่าวเพียงอย่างเดียว เพราะเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นั้นไม่เพียงแต่เป็นพยาบาล หากเป็นน้องสาวของนักธุรกิจใหญ่ในขณะนั้น แม้ว่าขณะนั้นยังไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองมากมายก็ตามที เพราะเหตุผลนี้จึงทำให้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พลิกฐานะจากข้าราชการที่มีพื้นฐานมาจากความเป็นเด็กวัดสู่ฐานะใหม่ที่อยู่ดีมีสุขมากขึ้น
ก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นี่แหละคอยอุปถัมภ์ค้ำชูและเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายคนสำคัญ โดยมีมือไม้ระดับเก๋าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนิติ 09 เช่น วิชัย ทองแตง และจำลอง ครุฑขุนทด รวมทั้งเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นตำรวจอีกหลายคน ชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในยามยากลำบากจึงผ่านพ้นอันตรายและคุกตะรางอย่างสวัสดิภาพ
แล้วถามว่าพวกนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 ไปอยู่เสียที่ไหน? ก็ต้องตอบว่าในขณะนั้นนายตำรวจรุ่นที่ 26 ยังไม่ได้มีอำนาจวาสนาหรือบทบาทที่เพียงพอต่อการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือใดๆ ได้นั่นเอง
คดีซุกหุ้นภาคแรกก็สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นี่แหละที่ระดมเพื่อนร่วมรุ่นเข้าแก้ต่างช่วยเหลือจน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รอดพ้นคดีไปได้ แล้วก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงถือได้ว่าเป็นพลังสำคัญพลังหนึ่งในชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนผลักดันให้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างสง่างาม
แต่จากนั้นแล้วสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กลับติดปลักอยู่กับความหอมหวานอบอวลของอำนาจทางการเมือง ร่วมหอลงโรงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเป็นกำลังสำคัญในกิจการมากหลาย
ผิดกับเพื่อนร่วมรุ่นบางคน ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นกุนซือของหัวหน้าพรรคการเมืองคนหนึ่ง ครั้นหัวหน้าพรรคการเมืองนั้นบรรลุปณิธานของตนได้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ได้วางบทบาทกุนซือทางการเมืองลง แล้วไปหมกมุ่นฝักใฝ่อยู่กับเรื่องหมากรุกและการฝึกฝนอบรมจิต จนสามารถผลิตงานชิ้นสำคัญฝากไว้ในพระพุทธศาสนา รวมทั้งในวงวรรณกรรม ซึ่งเป็นหนังสือขนาดยาวมากแห่งยุคนี้
แต่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ หลังอุ้มชูผลักดัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วยังไม่ถอย ยังไม่หยุด และวันนี้ก็เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แบกประเทศไทยและเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวงไว้บนหัวของตัวเอง
ใครจะว่าเป็นบุญวาสนาก็ตามที แต่สภาพเช่นนี้ต่างอันใดเล่ากับสภาพคนโง่เขลาที่แบกภูเขาไว้บนหัวตัวเอง
ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ถูกยกชูขึ้นเป็นเจ้าแม่วังบัวบาน เป็นประธานกลุ่มภายใต้การจัดการของสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งใช้วิชาการเมืองชั้นครูจากสำนักสวนพลู ชูน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นใหญ่ ในขณะที่ตัวเองก็แอบแฝงขับเคลื่อนธุรกิจการเมืองร่วมกันอย่างแนบแน่น
เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จึงเกี่ยวข้องกับโครงการมากหลายของรัฐและธุรกิจการเมืองนัวเนียไปหมด ในที่สุดกลุ่มนี้ก็มั่งคั่งขึ้นเป็นอันมากจนก้าวสู่ลำดับที่ 8 ของวงการหุ้นเมืองไทย และในที่สุดก็ถูกกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. ว่าร่ำรวยผิดปกติบ้าง กระทำผิดบ้าง ในขณะที่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ถูก คตส. ตรวจสอบร่วมกับคนอื่นๆ มากมายหลายเรื่อง
ดูไปแล้วชะตากรรมของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในวันนี้นอกจากจะแบกประเทศไทยและปัญหาทั้งปวงเอาไว้บนหัวแล้ว ยังจะต้องเผชิญหน้ากับความระแวงแคลงใจจากนายหญิงซึ่งมักไม่ลงรอยกันตามวิสัยของน้องผัวกับพี่สะใภ้ ด้านหนึ่ง จากความหวาดระแวงของกลุ่มแก๊งสี่คนซึ่งกำลังสยายปีกทางการเมืองเหนือพรรคพลังประชาชนอยู่ในขณะนี้ด้านหนึ่ง จะต้องรับศึกใหญ่จากประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่มีพันธมิตรฯ เป็นแกนนำอีกด้านหนึ่ง
ที่สำคัญคือแรงกดดันจากรอบทิศที่ต่างก็ต้องการผลประโยชน์และอำนาจด้วยกันทั้งนั้น แต่แรงกดและแรงดันไหนๆ ก็คงไม่เท่าที่จะต้องรับจากผู้เป็นศรีภริยาตามวิสัยของคนกลัวเมีย เหล่านี้จะทำให้สูญสลายความเป็นตัวของตัวเอง แม้อาจสูญสิ้นความเป็นคนไปก็ได้
ในขณะที่คดีความมากหลายกำลังคุกคามทั้งตัวเองและผู้เป็นภริยา รวมไปถึงผู้คนในครอบครัวใกล้ตัวเข้าไปทุกที
ดูไปแล้วคล้ายๆ กับชะตากรรมของฮั่นสินขุนพลใหญ่ของพระเจ้าเล่าปัง
พระเจ้าเล่าปังมียอดคนฝ่ายบุ๋นคือเตียวเหลียงเป็นเสนาธิการใหญ่ มียอดคนฝ่ายบู๊คือฮั่นสินเป็นแม่ทัพใหญ่ สองคนนี้จัดว่าเป็นยอดคนและเป็นกำลังสำคัญขององค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่ทำให้การปราบดาภิเษกและสถาปนาราชวงศ์ฮั่นประสบความสำเร็จ
แต่พลันที่เล่าปังสถาปนาราชวงศ์ฮั่นแล้ว เตียวเหลียงไม่ยอมรับตำแหน่งใดๆ สละละวางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งปวง หลีกหนีปลีกวิเวกเข้าสู่ป่าเขา ถือพรตในลัทธิเต๋าตั้งแต่บัดนั้นจึงรอดพ้นจากอันตราย
ในขณะที่ฮั่นสินติดยึดในความหอมหวานแห่งอำนาจ และดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองใหญ่ มีอำนาจเสมอด้วยอุปราชในยุคนั้น
เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเล่าปัง ถึงกับพระราชทานอาญาสิทธิ์ให้จารึกว่ามีดทุกเล่ม ดาบทุกเล่มในแผ่นดินจีนไม่ประหารฮั่นสิน และตราบใดที่ฮั่นสินยังยืนบนแผ่นดินใต้แผ่นฟ้า จะไม่ถูกประหารเป็นอันขาด
แต่ในที่สุดฮั่นสินก็ถูกใส่ความ ถูกหวาดระแวง และถูกกล่าวหาว่าเป็นขบถต่อพระเจ้าเล่าปัง มีโทษหนักถึงต้องประหารชีวิต
ฮั่นสินถูกจับไปขังไว้บนชั้นสองของหอสูง ซึ่งเท้าไม่ถึงดิน มองไม่เห็นฟ้า และถูกฆ่าด้วยปังตอ ซึ่งไม่ใช่มีดหรือดาบ
ก็คอยดูชะตากรรมของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กันต่อไป!
ชะตากรรมของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นับแต่นี้ไปจะเป็นประการใด จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจจับตา
เพราะไม่ทันไร นักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ร่ายเรียงเรื่องราวและความผิดที่มีการกล่าวหาคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นภริยาออกมามากมาย นับได้หลายหน้ากระดาษ
และข้อหาเหล่านั้นแม้ข้อใดข้อหนึ่งเป็นความผิดขึ้นมาจริง ๆ ชะตากรรมคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และครอบครัวคงดับดิ้นไปเมื่อนั้น
ชะตากรรมคนเราจะเป็นประการใด กรรมอันมีมาแต่หนหลังย่อมยังให้ชะตากรรมข้างหน้าเป็นประการนั้น นี่เป็นไปตามหลักกฎแห่งกรรม ที่ไม่มีใครหน้าไหนไม่ว่าจะยิ่งใหญ่หรือยากไร้อย่างไร ล้วนไม่อาจหลีกลี้หนีพ้นจากกฎแห่งกรรมนี้ไปได้เลย
ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า คนเรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว
ความแต่หนหลังของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นอย่างไร? เป็นเรื่องที่สังคมไทยยังรู้ไม่กระจ่างนัก จึงควรที่จะกล่าวเล่าขานพอเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนทั้งปวง
คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พื้นเพเดิมเป็นคนภาคใต้ เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ามาเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่กรุงเทพฯ โดยสำนักอยู่ที่คณะ 2 วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร สำนักเดียวกับนายไพศาล พืชมงคล
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นศิษย์เอกของท่านเจ้าคุณพระราชธรรมภาณี หรือที่เรียกว่าท่านเจ้าคุณเล็ก ส่วนไพศาล พืชมงคล สำนักอยู่คณะ 1 เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธินายก หรือท่านเจ้าคุณใหญ่ หรือที่พวกวงการพระเครื่องนิยมเรียกขานว่าหลวงปู่นาค
คณะ 1 วัดระฆังในยุคนั้นเป็นคณะหลักที่ทำพระสมเด็จ เพราะท่านเจ้าคุณใหญ่เป็นพระมหาเถระที่เรืองวิทยาคม มีผู้คนที่มีจิตศรัทธาและนิยมนับถือพระสมเด็จวัดระฆังเข้าหาเป็นจำนวนมาก คึกคักคลาคล่ำราวกับตลาดนัดย่อยๆ
ศิษย์วัดระฆังคณะ 1 จึงรับสภาพชีวิตในวัดติดตัวมาแทบทุกคน คือสนใจในเรื่องเวทมนตร์ของขลังและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งการฝึกฝนอบรมจิต แต่ไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะคุ้นเคยกับสังคมเปิดที่ต้อนรับคนทั้งปวง เอื้ออาทรต่อคนทั้งปวงแม้กระทั่งคนบ้าและหมาจรจัด
ส่วนศิษย์วัดระฆังคณะ 2 นั้นรับสภาพชีวิตในวัดติดตัวมาต่างกัน เพราะท่านเจ้าคุณเล็กท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ ละเอียด รอบคอบ สุขุม เคร่งครัด ตรงกันข้ามกับท่านเจ้าคุณใหญ่ที่มักถือว่า “อะไรก็ได้” หรือ “มันเป็นอย่างนั้นแหละ”
จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็สอบเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในคณะนิติศาสตร์ เพราะเหตุที่สอบเข้าธรรมศาสตร์ในปี 2509 จึงมีชื่อรุ่นนิติศาสตร์รุ่นนี้ว่า “นิติ 09”
ชาวนิติศาสตร์ 09 มีจำนวนมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา และจบการศึกษามากที่สุดมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา คือมีจำนวนร่วม 600 คน จึงบางทีมีการกล่าวขานถึงชาวนิติศาสตร์รุ่นนี้ว่าเป็นรุ่นปล่อยผี
เนื่องเพราะพวกที่สอบตกค้างคามาหลายปีดีดัก ก็ได้รับการผ่อนปรนจนจบการศึกษาพร้อม ๆ กัน
ชาวนิติศาสตร์ 09 เมื่อมีจำนวนมากก็แยกย้ายไปทำมาหากินในแทบทุกที่ทุกทาง โดยเฉพาะในวงการศาล อัยการ ตำรวจ ทนายความ นายทหารพระธรรมนูญ นิติกร แม้กระทั่งนักธุรกิจ
ชาวนิติศาสตร์ 09 เป็นรุ่นที่มีความสามัคคีรักใคร่ผูกพันกันค่อนข้างเหนียวแน่นเพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามาก และถือเหล่าถือคณะแน่นหนา เนื่องจากในยุคนั้นคณะนิติศาสตร์กับคณะรัฐศาสตร์มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นยกพวกทุบตีกันเป็นประจำ
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จบธรรมศาสตร์แล้วสองปีต่อมาก็สำเร็จเป็นเนติบัณฑิต และได้สอบเป็นผู้พิพากษา และรับราชการเป็นผู้พิพากษาเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนจากนายอุระ หวังอ้อมกลาง อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแนะนำต่อนายสุทัศน์ เงินหมื่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้นให้โยกไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชีวิตของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงเข้าสู่วงจรทางการบริหารและวงการเมืองตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีภริยาเป็นพยาบาล เป็นนักการเมืองที่เลื่องชื่อลือชาของภาคเหนือ และเป็นน้องสาวสุดที่รักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
เดิมทีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่ได้มีภริยาเป็นพยาบาล แต่ต่อมาก็เจริญรอยตามไพศาล พืชมงคล ด้วยเหตุผลที่ว่าคนเราเกิดมาเป็นชายทั้งทีควรจะตายก่อนเมีย เพราะถ้าเมียตายก่อน ทั้งตัวเองและลูกหลานจะลำบาก และเมื่อจะตายก่อนเมียแล้วก็ควรจะตายให้สบาย มีคนดูแลรักษาพยาบาล คอยดูใจยามใกล้จะตาย ซึ่งไม่มีอาชีพไหนดีเท่ากับอาชีพพยาบาล ซึ่งต่อมาเชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ เพื่อนร่วมรุ่นก็เจริญรอยตามอีกคนหนึ่ง
แต่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ คงไม่ได้เชื่อเหตุผลดังกล่าวเพียงอย่างเดียว เพราะเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นั้นไม่เพียงแต่เป็นพยาบาล หากเป็นน้องสาวของนักธุรกิจใหญ่ในขณะนั้น แม้ว่าขณะนั้นยังไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองมากมายก็ตามที เพราะเหตุผลนี้จึงทำให้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พลิกฐานะจากข้าราชการที่มีพื้นฐานมาจากความเป็นเด็กวัดสู่ฐานะใหม่ที่อยู่ดีมีสุขมากขึ้น
ก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นี่แหละคอยอุปถัมภ์ค้ำชูและเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายคนสำคัญ โดยมีมือไม้ระดับเก๋าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนิติ 09 เช่น วิชัย ทองแตง และจำลอง ครุฑขุนทด รวมทั้งเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นตำรวจอีกหลายคน ชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในยามยากลำบากจึงผ่านพ้นอันตรายและคุกตะรางอย่างสวัสดิภาพ
แล้วถามว่าพวกนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 ไปอยู่เสียที่ไหน? ก็ต้องตอบว่าในขณะนั้นนายตำรวจรุ่นที่ 26 ยังไม่ได้มีอำนาจวาสนาหรือบทบาทที่เพียงพอต่อการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือใดๆ ได้นั่นเอง
คดีซุกหุ้นภาคแรกก็สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นี่แหละที่ระดมเพื่อนร่วมรุ่นเข้าแก้ต่างช่วยเหลือจน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รอดพ้นคดีไปได้ แล้วก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงถือได้ว่าเป็นพลังสำคัญพลังหนึ่งในชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนผลักดันให้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างสง่างาม
แต่จากนั้นแล้วสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กลับติดปลักอยู่กับความหอมหวานอบอวลของอำนาจทางการเมือง ร่วมหอลงโรงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเป็นกำลังสำคัญในกิจการมากหลาย
ผิดกับเพื่อนร่วมรุ่นบางคน ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นกุนซือของหัวหน้าพรรคการเมืองคนหนึ่ง ครั้นหัวหน้าพรรคการเมืองนั้นบรรลุปณิธานของตนได้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ได้วางบทบาทกุนซือทางการเมืองลง แล้วไปหมกมุ่นฝักใฝ่อยู่กับเรื่องหมากรุกและการฝึกฝนอบรมจิต จนสามารถผลิตงานชิ้นสำคัญฝากไว้ในพระพุทธศาสนา รวมทั้งในวงวรรณกรรม ซึ่งเป็นหนังสือขนาดยาวมากแห่งยุคนี้
แต่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ หลังอุ้มชูผลักดัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วยังไม่ถอย ยังไม่หยุด และวันนี้ก็เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แบกประเทศไทยและเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวงไว้บนหัวของตัวเอง
ใครจะว่าเป็นบุญวาสนาก็ตามที แต่สภาพเช่นนี้ต่างอันใดเล่ากับสภาพคนโง่เขลาที่แบกภูเขาไว้บนหัวตัวเอง
ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ถูกยกชูขึ้นเป็นเจ้าแม่วังบัวบาน เป็นประธานกลุ่มภายใต้การจัดการของสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งใช้วิชาการเมืองชั้นครูจากสำนักสวนพลู ชูน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นใหญ่ ในขณะที่ตัวเองก็แอบแฝงขับเคลื่อนธุรกิจการเมืองร่วมกันอย่างแนบแน่น
เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จึงเกี่ยวข้องกับโครงการมากหลายของรัฐและธุรกิจการเมืองนัวเนียไปหมด ในที่สุดกลุ่มนี้ก็มั่งคั่งขึ้นเป็นอันมากจนก้าวสู่ลำดับที่ 8 ของวงการหุ้นเมืองไทย และในที่สุดก็ถูกกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. ว่าร่ำรวยผิดปกติบ้าง กระทำผิดบ้าง ในขณะที่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ถูก คตส. ตรวจสอบร่วมกับคนอื่นๆ มากมายหลายเรื่อง
ดูไปแล้วชะตากรรมของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในวันนี้นอกจากจะแบกประเทศไทยและปัญหาทั้งปวงเอาไว้บนหัวแล้ว ยังจะต้องเผชิญหน้ากับความระแวงแคลงใจจากนายหญิงซึ่งมักไม่ลงรอยกันตามวิสัยของน้องผัวกับพี่สะใภ้ ด้านหนึ่ง จากความหวาดระแวงของกลุ่มแก๊งสี่คนซึ่งกำลังสยายปีกทางการเมืองเหนือพรรคพลังประชาชนอยู่ในขณะนี้ด้านหนึ่ง จะต้องรับศึกใหญ่จากประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่มีพันธมิตรฯ เป็นแกนนำอีกด้านหนึ่ง
ที่สำคัญคือแรงกดดันจากรอบทิศที่ต่างก็ต้องการผลประโยชน์และอำนาจด้วยกันทั้งนั้น แต่แรงกดและแรงดันไหนๆ ก็คงไม่เท่าที่จะต้องรับจากผู้เป็นศรีภริยาตามวิสัยของคนกลัวเมีย เหล่านี้จะทำให้สูญสลายความเป็นตัวของตัวเอง แม้อาจสูญสิ้นความเป็นคนไปก็ได้
ในขณะที่คดีความมากหลายกำลังคุกคามทั้งตัวเองและผู้เป็นภริยา รวมไปถึงผู้คนในครอบครัวใกล้ตัวเข้าไปทุกที
ดูไปแล้วคล้ายๆ กับชะตากรรมของฮั่นสินขุนพลใหญ่ของพระเจ้าเล่าปัง
พระเจ้าเล่าปังมียอดคนฝ่ายบุ๋นคือเตียวเหลียงเป็นเสนาธิการใหญ่ มียอดคนฝ่ายบู๊คือฮั่นสินเป็นแม่ทัพใหญ่ สองคนนี้จัดว่าเป็นยอดคนและเป็นกำลังสำคัญขององค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่ทำให้การปราบดาภิเษกและสถาปนาราชวงศ์ฮั่นประสบความสำเร็จ
แต่พลันที่เล่าปังสถาปนาราชวงศ์ฮั่นแล้ว เตียวเหลียงไม่ยอมรับตำแหน่งใดๆ สละละวางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งปวง หลีกหนีปลีกวิเวกเข้าสู่ป่าเขา ถือพรตในลัทธิเต๋าตั้งแต่บัดนั้นจึงรอดพ้นจากอันตราย
ในขณะที่ฮั่นสินติดยึดในความหอมหวานแห่งอำนาจ และดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองใหญ่ มีอำนาจเสมอด้วยอุปราชในยุคนั้น
เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเล่าปัง ถึงกับพระราชทานอาญาสิทธิ์ให้จารึกว่ามีดทุกเล่ม ดาบทุกเล่มในแผ่นดินจีนไม่ประหารฮั่นสิน และตราบใดที่ฮั่นสินยังยืนบนแผ่นดินใต้แผ่นฟ้า จะไม่ถูกประหารเป็นอันขาด
แต่ในที่สุดฮั่นสินก็ถูกใส่ความ ถูกหวาดระแวง และถูกกล่าวหาว่าเป็นขบถต่อพระเจ้าเล่าปัง มีโทษหนักถึงต้องประหารชีวิต
ฮั่นสินถูกจับไปขังไว้บนชั้นสองของหอสูง ซึ่งเท้าไม่ถึงดิน มองไม่เห็นฟ้า และถูกฆ่าด้วยปังตอ ซึ่งไม่ใช่มีดหรือดาบ
ก็คอยดูชะตากรรมของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กันต่อไป!