ลอรีอัลยังมั่นใจตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลความงามยังมีอนาคต เติบโตได้ดี สวนทางเรื่องวุ่นวายทางการเมือง เผย 8 เดือนแรก ตลาดรวมโต 7% ขณะที่สามแบรนด์ของลอรีอัล คือ ลอรีอัลปารีส การ์นิเย่ เมย์เบลลีน เติบโตรวม 32% มากกว่าตลาดรวม 5 เท่า ไตรมาสสี่รุกหนักเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ต่อเนื่อง
นายจอน อาร์โนลด์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะยังอยู่ในช่วงของความไม่แน่นอนทางการเมือง ยังมีความวุ่นวายอยู่ แต่ในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะในตลาดระดับแมสยังไม่ได้รับผลกระทบเท่าใด ตลาดยังไปได้ดี
จากประสบการณ์ในการทำงานมาเกือบ 20 ปี พบว่า เวลาที่ผู้บริโภคมีเงินน้อยลง หรือสินค้ามีราคาแพงขึ้น ผู้บริโภคจะเริ่มชะลอการใช้จ่ายสินค้าที่ใหญ่ๆและมีราคาแพง เช่น บ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม ซึ่งยังมั่นใจว่าตลาดสุขภัณฑ์และความงามในไทยยังเติบโตได้อีกไกล
"ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงมาตลอดในช่วงหลายเดือน แต่ว่าตลาดนี้ก็ยังเติบโตสวนทางดัชนีความเชื่อมั่น อีกทั้งผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลผิวพรรณมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการดูแลแบบเฉพาะเจาะจง ผู้ชายก็ตื่นตัวเรื่องการดูแลผิวพรรณและสุขภาพด้วย ส่งผลให้ตลาดโดยรวมไปได้ดี" นายจอนกล่าว
ตลาดรวมผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม 8 เดือนแรกปี 2551 เติบโต 7% ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 23,000 ล้านบาท โดยเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยรวมโต 8% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาโตขึ้น 20% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในยามค่ำคืนเติบโตรวดเร็ว 45% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวผู้ชายโต 26%
ผลประกอบการช่วง 8 เดือนแรกปี 2551 ของแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่ดูแล 3 แบรนด์ คือ ลอรีอัลปารีส การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน โตโดยรวมสูงถึง 32% มากกว่าตลาดรวมกว่า 5 เท่า สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ของทั้งสามแบรนด์และการทำกิจกรรมตลาด โดยปีนี้ใช้งบการตลาดมากกว่าปีที่แล้ว 25% เช่น แบรนด์เมย์เบลลีน เปิดตัววอลุ่มเอ็กซ์เพรสมาสคาร่า แป้งแข็งเคลียร์สมูธ ส่งผลให้กลุ่มแป้งเติบโต 60% ส่วนลอรีอัลปารีสได้รับผลสำเร็จจากหลายกลุ่มเช่น กลุ่มดูแลผิวผู้ชายเติบโต 135%
ล่าสุดไตรมาสสี่เปิดตัวสินค้าใหม่ลอรีอัลเดอร์มาเจเนซิส เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอย เจาะกลุ่มอายุ 28 ปีขึ้นไป ซึ่งพัฒนามา 7 ปี โดยใช้งบการตลาดมากกว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ผ่านมาถึง 3 เท่า ด้วยกลยุทธ์ 360 องศา ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ พร้อมแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 1 ล้านชิ้น การจัดกิจกรรมกับผู้บริโภคโดยตรงในวันที่ 17 กันยายนที่สยามพารากอน เป็นต้น
"บริษัทฯ มั่นใจว่าสินค้าใหม่จะเป็นส่วนสำคัญ ผลักดันให้ยอดขายในแผนกนี้เติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งจากการเปิดตัวในยุโรปและอเมริกามียอดขายรวมกว่า 12 ล้านชิ้น ซึ่งในไทยใน 1 เดือนที่ทดลองวางตลาดพบว่ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 3% ในท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต"
นายจอน อาร์โนลด์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะยังอยู่ในช่วงของความไม่แน่นอนทางการเมือง ยังมีความวุ่นวายอยู่ แต่ในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะในตลาดระดับแมสยังไม่ได้รับผลกระทบเท่าใด ตลาดยังไปได้ดี
จากประสบการณ์ในการทำงานมาเกือบ 20 ปี พบว่า เวลาที่ผู้บริโภคมีเงินน้อยลง หรือสินค้ามีราคาแพงขึ้น ผู้บริโภคจะเริ่มชะลอการใช้จ่ายสินค้าที่ใหญ่ๆและมีราคาแพง เช่น บ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม ซึ่งยังมั่นใจว่าตลาดสุขภัณฑ์และความงามในไทยยังเติบโตได้อีกไกล
"ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงมาตลอดในช่วงหลายเดือน แต่ว่าตลาดนี้ก็ยังเติบโตสวนทางดัชนีความเชื่อมั่น อีกทั้งผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลผิวพรรณมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการดูแลแบบเฉพาะเจาะจง ผู้ชายก็ตื่นตัวเรื่องการดูแลผิวพรรณและสุขภาพด้วย ส่งผลให้ตลาดโดยรวมไปได้ดี" นายจอนกล่าว
ตลาดรวมผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม 8 เดือนแรกปี 2551 เติบโต 7% ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 23,000 ล้านบาท โดยเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยรวมโต 8% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาโตขึ้น 20% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในยามค่ำคืนเติบโตรวดเร็ว 45% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวผู้ชายโต 26%
ผลประกอบการช่วง 8 เดือนแรกปี 2551 ของแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่ดูแล 3 แบรนด์ คือ ลอรีอัลปารีส การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน โตโดยรวมสูงถึง 32% มากกว่าตลาดรวมกว่า 5 เท่า สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ของทั้งสามแบรนด์และการทำกิจกรรมตลาด โดยปีนี้ใช้งบการตลาดมากกว่าปีที่แล้ว 25% เช่น แบรนด์เมย์เบลลีน เปิดตัววอลุ่มเอ็กซ์เพรสมาสคาร่า แป้งแข็งเคลียร์สมูธ ส่งผลให้กลุ่มแป้งเติบโต 60% ส่วนลอรีอัลปารีสได้รับผลสำเร็จจากหลายกลุ่มเช่น กลุ่มดูแลผิวผู้ชายเติบโต 135%
ล่าสุดไตรมาสสี่เปิดตัวสินค้าใหม่ลอรีอัลเดอร์มาเจเนซิส เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอย เจาะกลุ่มอายุ 28 ปีขึ้นไป ซึ่งพัฒนามา 7 ปี โดยใช้งบการตลาดมากกว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ผ่านมาถึง 3 เท่า ด้วยกลยุทธ์ 360 องศา ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ พร้อมแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 1 ล้านชิ้น การจัดกิจกรรมกับผู้บริโภคโดยตรงในวันที่ 17 กันยายนที่สยามพารากอน เป็นต้น
"บริษัทฯ มั่นใจว่าสินค้าใหม่จะเป็นส่วนสำคัญ ผลักดันให้ยอดขายในแผนกนี้เติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งจากการเปิดตัวในยุโรปและอเมริกามียอดขายรวมกว่า 12 ล้านชิ้น ซึ่งในไทยใน 1 เดือนที่ทดลองวางตลาดพบว่ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 3% ในท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต"