ไอ.ซี.ซี. ชี้พิษเศรษฐกิจ การเมือง กระทบตลาดเสื้อผ้าผู้ชาย 1 หมื่นล้านบาทโตลดลง ผู้ประกอบการแห่ลด แลก แจก แถม ดันยอด "กีลาโรส" ปรับกลยุทธ์สวนกระแส ไม่ลดราคาเพื่อรักษายอดขาย พร้อมสร้างความแตกต่างชูซีเอสอาร์ หวังดันอิมเมจแบรนด์ เท 30 ล้านบาทครึ่งปีหลัง กวาดยอดขายสิ้นปีโต 18% ราว 400 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกพลาดเป้า
นายประพันธ์ จึงพัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการของผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายกีลาโรส บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์กีลาโรส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าผู้ชายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้ามูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดว่าเติบโต 10% ซึ่งเมื่อเทียบกับในช่วงภาวะเศรษฐกิจดีจะมีการเติบโต 20% เนื่องจากปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้า ส่วนผู้ประกอบการไม่ค่อยมีคอลเลกชันใหม่ๆออกมา โดยพบว่าแบรนด์นำเข้าชะลอการนำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด
ทั้งนี้ผลประกอบการครึ่งปีแรกของกีลาโรสต่ำกว่าเป้าหมายจากตั้งไว้ 18% เหลือเป็น 5-6% อย่างไรก็ตามในปีนี้กีลาโรสกำไรยังเติบโตเท่าตัว เนื่องจากบริษัทปรับกลยุทธ์การตลาด โดยไม่เน้นกลยุทธ์ราคามากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น กีลาโรส ลดราคา 10-15% เมื่อซื้อสินค้า 2 ชิ้น ส่วนคู่แข่งลด 30% ทั้งนี้เพื่อต้องการรักษายอดขาย นอกจากนี้ยังดำเนินตอกย้ำการทำซีเอสอาร์หรือการทำตลาดอย่างรับผิดชอบสังคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ล่าสุดจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด"ไอ เลิฟ ยู" สื่อในการบอกรักทุกเทศกาล เพื่อผลักดันภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเพื่อกระตุ้นผลประกอบการสิ้นปีเติบโต 18% หรือมีรายได้ 400 ล้านบาท บริษัทจะดำเนินการตลาดในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ การทำเซ็ตของขวัญ จัดกิจกรรมทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง จากปีที่ผ่านมาบริษัทหยุดการโฆษณา จากงบตลาด 20-30 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง
"ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ กีลาโรสปรับกลยุทธ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การลดต้นทุน การลดขนาดที่ไม่สร้างรายได้ ตลอดจนการมุ่งเน้นพัฒนาสินค้า นำเสนอนวัตกรรมใหม่ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจแล้ว ตลาดเสื้อผ้าผู้ชายได้รับผลกระทบน้อยกว่าเสื้อผ้าผู้หญิง เพราะมีการตัดสินใจซื้อง่ายกว่า ส่วนตลาดเสื้อผ้าเด็กไม่เติบโต"
สำหรับผลประกอบการกลุ่มเสื้อผ้าผู้ชายของไอ.ซี.ซี. ปีนี้เกิน 2,000 ล้านบาท โดยลาคอสเป็นแบรนด์เรือธงสร้างรายได้หลัก ตามด้วยแอร์โร และกีลาโรส โดยสินค้าที่สร้างรายได้ คือ กลุ่มเสื้อเชิ้ต 42-43% ขณะที่ยอดขายมาจากตลาดต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกัน แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดต่างจังหวัดยอดขายเติบโตดีกว่า
นายประพันธ์ จึงพัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการของผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายกีลาโรส บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์กีลาโรส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าผู้ชายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้ามูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดว่าเติบโต 10% ซึ่งเมื่อเทียบกับในช่วงภาวะเศรษฐกิจดีจะมีการเติบโต 20% เนื่องจากปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้า ส่วนผู้ประกอบการไม่ค่อยมีคอลเลกชันใหม่ๆออกมา โดยพบว่าแบรนด์นำเข้าชะลอการนำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด
ทั้งนี้ผลประกอบการครึ่งปีแรกของกีลาโรสต่ำกว่าเป้าหมายจากตั้งไว้ 18% เหลือเป็น 5-6% อย่างไรก็ตามในปีนี้กีลาโรสกำไรยังเติบโตเท่าตัว เนื่องจากบริษัทปรับกลยุทธ์การตลาด โดยไม่เน้นกลยุทธ์ราคามากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น กีลาโรส ลดราคา 10-15% เมื่อซื้อสินค้า 2 ชิ้น ส่วนคู่แข่งลด 30% ทั้งนี้เพื่อต้องการรักษายอดขาย นอกจากนี้ยังดำเนินตอกย้ำการทำซีเอสอาร์หรือการทำตลาดอย่างรับผิดชอบสังคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ล่าสุดจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด"ไอ เลิฟ ยู" สื่อในการบอกรักทุกเทศกาล เพื่อผลักดันภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเพื่อกระตุ้นผลประกอบการสิ้นปีเติบโต 18% หรือมีรายได้ 400 ล้านบาท บริษัทจะดำเนินการตลาดในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ การทำเซ็ตของขวัญ จัดกิจกรรมทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง จากปีที่ผ่านมาบริษัทหยุดการโฆษณา จากงบตลาด 20-30 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง
"ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ กีลาโรสปรับกลยุทธ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การลดต้นทุน การลดขนาดที่ไม่สร้างรายได้ ตลอดจนการมุ่งเน้นพัฒนาสินค้า นำเสนอนวัตกรรมใหม่ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจแล้ว ตลาดเสื้อผ้าผู้ชายได้รับผลกระทบน้อยกว่าเสื้อผ้าผู้หญิง เพราะมีการตัดสินใจซื้อง่ายกว่า ส่วนตลาดเสื้อผ้าเด็กไม่เติบโต"
สำหรับผลประกอบการกลุ่มเสื้อผ้าผู้ชายของไอ.ซี.ซี. ปีนี้เกิน 2,000 ล้านบาท โดยลาคอสเป็นแบรนด์เรือธงสร้างรายได้หลัก ตามด้วยแอร์โร และกีลาโรส โดยสินค้าที่สร้างรายได้ คือ กลุ่มเสื้อเชิ้ต 42-43% ขณะที่ยอดขายมาจากตลาดต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกัน แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดต่างจังหวัดยอดขายเติบโตดีกว่า
