ผู้จัดการรายวัน – เปิดผลสำรวจผู้บริหารเมืองไทย 520 ราย ระบุการแข่งขันธุรกิจรุนแรงท่ามกลางเศรษฐกิจไม่ดี ชูกุญแจแห่งความสำเร็จ งัดความรับผิดชอบองค์กรยั่งยืน จริยธรรมทางธุรกิจนำทาง พร้อมควงเทคโนโลยีควบคู่ความพอเพียง ชี้จุดอ่อนซีเอสอาร์ไทย ยังไม่มีบุคลากรคิดสานโครงการระยะยาว
วานนี้ (8 ส.ค.51) สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท มาร์เก็ตไว้ส์ จำกัด เปิดผลสำรวจโครงการ “Thailand Corporate Excellence Survey 2007” เปิดมุมมองด้านธุรกิจของผู้บริหาร จากการสำรวจ 1,000 บริษัทหรือองค์กรระดับแนวหน้า จากการส่งแบบสอบถาม 2,595 ราย และตอบกลับมา 520 ราย หรือประมาณ 20%
นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาร์เก็ตไวส์ จำกัด ได้กล่าวถึงผลสำรวจว่า การคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในประเทศไทยของผู้บริหารชั้นนำมี 2 ทิศทางที่น่าสนใจ โดยพบว่า สถานการณ์การแข่งขันมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก และอีกทิศทางหนึ่ง คือ ผลกระทบจากสถานการณ์และความมั่นคงทางการเมือง ซึ่งได้ทำการสำรวจในระหว่างการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่ผู้บริหารเอ่ยถึงในจำนวนที่ลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
** CSR กุญแจสู่ความสำเร็จ
ส่วนปัจจัยที่ควรได้รับการปรับปรุง พัฒนามากที่สุดเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คือ จริยธรรมทางธุรกิจ ความรับผิดชอบขององค์กร เพิ่มจาก 32% ในปี 2549 เป็น 40% ในปี 2550 สะท้อนให้เห็นว่าจากสภาพแวดล้อม สถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่นิ่งและคนไทยมีความแตกแยก เป็นส่วนผลักดันให้ผู้บริหารเน้นความมีจริยธรรมมากขึ้น ส่วนความรับผิดชอบองค์กร (CSR:Corporate Social Responsibility) เนื่องจากแนวโน้มความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรทั่วโลกมีมากขึ้น
**บอสไทยชูพอเพียง-เทคโนโลยี**
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ควรได้รับการปรับปรุง พัฒนามากที่สุดเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย จิตสำนึกด้านสภาพแวดล้อมก็เพิ่มขึ้นจาก 24% เป็น 30% และการผลิต และประสิทธิภาพในการดำเนินเงินเพิ่มจาก 26% เป็น 31% และการให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 7 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มจาก 13% เป็น 17% และปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ติดอันดับเข้ามาและผู้บริหารให้ความสำคัญ คือ ความพอเพียง เพิ่มจาก 9% เป็น 13%
นางดารณี กล่าวต่อว่า แนวโน้มการทำซีเอสอาร์มีการทำเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะผู้บริหารให้ความสำคัญ โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการทำประชาสัมพันธ์อย่างเดียว แต่ขณะนี้พบว่ามีการแบ่งแยกงบซีเอสอาร์อย่างชัดเจนและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามโครงการประเทศไทยยังขาดบุคลากรที่คิดทำโครงการซีเอสอาร์อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายปรีชา เชาวโชติช่วง ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) กล่าวเสริมว่า การทำธุรกิจเริ่มมีการเรียกร้องความเป็นธรรม จริยธรรมในสังคมมากขึ้น หากใครไม่มีตรงจุดนี้ สินค้าก็จะถูกต่อต้าน ปัจจุบันซีเอสอาร์ไม่ใช่พูดแค่การทำประชาสัมพันธ์อย่างเดียวแต่เป็นการทำอย่างยั่งยืน สังเกตุได้จากท่ามกลางเศรษฐกิจไม่มี องค์กรต่างๆ ตัดงบโฆษณาทันทีขณะที่งบซีเอสอาร์ยังมีอยู่ เพราะสมัยนี้การแข่งขันสูงสินค้าคู่แข่งสามารถตามทันกันหมด แต่เทรนด์ในต่างประเทศผู้บริโภคจะซื้อสินค้าที่มีการทำซีเอสอาร์ที่ดี
ล่าสุดสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงาน จัดงาน “Thailand Corporate Excellence Day” ประจำปี 2551 เพื่อมอบรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้องค์กรที่มีความเลิศด้านบริหารจัดการใน 9 สาขารางวัล ได้แก่ ความเป็นเลิศโดยรวมองค์กร บริหารทางการเงิน ด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล และล่าสุดได้เพิ่มรางวัลความเป็นเลิศการพัฒนาการบริการจัดการขององค์กรขึ้น และจัดงานสัมมนา” Taking Ordinary into the Extraordinary : Lessons for Growing People and Business” โดยปีนี้เชิญวิทยากร ดร.โจเซฟ เอ มิเชลลิ ในวันที่ 3 กันยายน นี้ คาดว่าจะมีผู้บริหารมาร่วมงานกว่า 400 คน
วานนี้ (8 ส.ค.51) สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท มาร์เก็ตไว้ส์ จำกัด เปิดผลสำรวจโครงการ “Thailand Corporate Excellence Survey 2007” เปิดมุมมองด้านธุรกิจของผู้บริหาร จากการสำรวจ 1,000 บริษัทหรือองค์กรระดับแนวหน้า จากการส่งแบบสอบถาม 2,595 ราย และตอบกลับมา 520 ราย หรือประมาณ 20%
นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาร์เก็ตไวส์ จำกัด ได้กล่าวถึงผลสำรวจว่า การคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในประเทศไทยของผู้บริหารชั้นนำมี 2 ทิศทางที่น่าสนใจ โดยพบว่า สถานการณ์การแข่งขันมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก และอีกทิศทางหนึ่ง คือ ผลกระทบจากสถานการณ์และความมั่นคงทางการเมือง ซึ่งได้ทำการสำรวจในระหว่างการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่ผู้บริหารเอ่ยถึงในจำนวนที่ลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
** CSR กุญแจสู่ความสำเร็จ
ส่วนปัจจัยที่ควรได้รับการปรับปรุง พัฒนามากที่สุดเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คือ จริยธรรมทางธุรกิจ ความรับผิดชอบขององค์กร เพิ่มจาก 32% ในปี 2549 เป็น 40% ในปี 2550 สะท้อนให้เห็นว่าจากสภาพแวดล้อม สถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่นิ่งและคนไทยมีความแตกแยก เป็นส่วนผลักดันให้ผู้บริหารเน้นความมีจริยธรรมมากขึ้น ส่วนความรับผิดชอบองค์กร (CSR:Corporate Social Responsibility) เนื่องจากแนวโน้มความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรทั่วโลกมีมากขึ้น
**บอสไทยชูพอเพียง-เทคโนโลยี**
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ควรได้รับการปรับปรุง พัฒนามากที่สุดเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย จิตสำนึกด้านสภาพแวดล้อมก็เพิ่มขึ้นจาก 24% เป็น 30% และการผลิต และประสิทธิภาพในการดำเนินเงินเพิ่มจาก 26% เป็น 31% และการให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 7 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มจาก 13% เป็น 17% และปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ติดอันดับเข้ามาและผู้บริหารให้ความสำคัญ คือ ความพอเพียง เพิ่มจาก 9% เป็น 13%
นางดารณี กล่าวต่อว่า แนวโน้มการทำซีเอสอาร์มีการทำเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะผู้บริหารให้ความสำคัญ โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการทำประชาสัมพันธ์อย่างเดียว แต่ขณะนี้พบว่ามีการแบ่งแยกงบซีเอสอาร์อย่างชัดเจนและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามโครงการประเทศไทยยังขาดบุคลากรที่คิดทำโครงการซีเอสอาร์อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายปรีชา เชาวโชติช่วง ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) กล่าวเสริมว่า การทำธุรกิจเริ่มมีการเรียกร้องความเป็นธรรม จริยธรรมในสังคมมากขึ้น หากใครไม่มีตรงจุดนี้ สินค้าก็จะถูกต่อต้าน ปัจจุบันซีเอสอาร์ไม่ใช่พูดแค่การทำประชาสัมพันธ์อย่างเดียวแต่เป็นการทำอย่างยั่งยืน สังเกตุได้จากท่ามกลางเศรษฐกิจไม่มี องค์กรต่างๆ ตัดงบโฆษณาทันทีขณะที่งบซีเอสอาร์ยังมีอยู่ เพราะสมัยนี้การแข่งขันสูงสินค้าคู่แข่งสามารถตามทันกันหมด แต่เทรนด์ในต่างประเทศผู้บริโภคจะซื้อสินค้าที่มีการทำซีเอสอาร์ที่ดี
ล่าสุดสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงาน จัดงาน “Thailand Corporate Excellence Day” ประจำปี 2551 เพื่อมอบรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้องค์กรที่มีความเลิศด้านบริหารจัดการใน 9 สาขารางวัล ได้แก่ ความเป็นเลิศโดยรวมองค์กร บริหารทางการเงิน ด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล และล่าสุดได้เพิ่มรางวัลความเป็นเลิศการพัฒนาการบริการจัดการขององค์กรขึ้น และจัดงานสัมมนา” Taking Ordinary into the Extraordinary : Lessons for Growing People and Business” โดยปีนี้เชิญวิทยากร ดร.โจเซฟ เอ มิเชลลิ ในวันที่ 3 กันยายน นี้ คาดว่าจะมีผู้บริหารมาร่วมงานกว่า 400 คน
