นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องวาระแห่งชาติในสายตาประชาชนที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งแก้ไข โดยสำรวจจากประชาชน 2,809 ตัวอย่าง
จากการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจต่อประวัติและผลงานของแกนนำพรรคพลังประชาชนที่มีโอกาสจะเป็นนายกรัฐมนตรีแตกต่างกันไป โดยร้อยละ 58.6 สนใจนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ร้อยละ 51.2 สนใจนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และร้อยละ 48.3 สนใจ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในขณะที่ร้อยละ 41.5 ไม่สนใจใครเลย
อย่างไรก็ตามผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 ไม่คิดจะแสดงตนคัดค้านแกนนำพรรคพลังประชาชนในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป กรณีพรรคพลังประชาชนเสนอคนหนึ่งคนใดในแกนนำทั้งสาม
ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.6 ระบุความซื่อสัตย์สุจริต รองลงมาคือร้อยละ 72.7 ระบุสามารถแก้ปัญหา (บริหาร) ความขัดแย้งได้ดี ร้อยละ 70.9 ระบุรักชาติและประชาชนอย่างเท่าเทียมไม่แบ่งแยก ร้อยละ 70.5 ระบุรวดเร็วฉับไวแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 69.1 ระบุมีจริยธรรมทางการเมืองร้อยละ 67.3 ระบุมีความโอบอ้อมอารี ร้อยละ 64.4 ระบุมีความอดทน อดกลั้น ร้อยละ 57.9 ระบุเสียสละ และเพียงร้อยละ 20.2 ระบุมีฐานะร่ำรวย
สำหรับวาระแห่งชาติที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งแก้ไข ผลสำรวจพบว่า ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ (ความรักความสามัคคีของคนในชาติ) มีสูงถึง ร้อยละ84.7 อันดับสองได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ร้อยละ 78.2 และที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อยู่ที่ร้อยละ 74.1 เป็นต้น
นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.5 อยากให้เร่งรณรงค์เอกลักษณ์และคุณลักษณ์พึงประสงค์ของความเป็นคนไทยในเรื่องความรักความสามัคคีของคนในชาติ มากที่สุด รองลงมาคือ ร้อยละ 81.9 ระบุเรื่องความรักชาติ ร้อยละ 77.6 ระบุความเอื้ออาทร เกื้อกูล มีน้ำใจต่อกัน ร้อยละ 73.1 ระบุการให้อภัยต่อกัน ร้อยละ 70.6 ระบุความมีสติสัมปชัญญะ รู้จักยับยั้งชั่งใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ในสถานการณ์การเมืองล่าสุด ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.9 เริ่มมีความหวังที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 37.1 มีความกลัวต่อเหตุการณ์ข้างหน้าของประเทศ
จากการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจต่อประวัติและผลงานของแกนนำพรรคพลังประชาชนที่มีโอกาสจะเป็นนายกรัฐมนตรีแตกต่างกันไป โดยร้อยละ 58.6 สนใจนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ร้อยละ 51.2 สนใจนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และร้อยละ 48.3 สนใจ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในขณะที่ร้อยละ 41.5 ไม่สนใจใครเลย
อย่างไรก็ตามผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 ไม่คิดจะแสดงตนคัดค้านแกนนำพรรคพลังประชาชนในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป กรณีพรรคพลังประชาชนเสนอคนหนึ่งคนใดในแกนนำทั้งสาม
ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.6 ระบุความซื่อสัตย์สุจริต รองลงมาคือร้อยละ 72.7 ระบุสามารถแก้ปัญหา (บริหาร) ความขัดแย้งได้ดี ร้อยละ 70.9 ระบุรักชาติและประชาชนอย่างเท่าเทียมไม่แบ่งแยก ร้อยละ 70.5 ระบุรวดเร็วฉับไวแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 69.1 ระบุมีจริยธรรมทางการเมืองร้อยละ 67.3 ระบุมีความโอบอ้อมอารี ร้อยละ 64.4 ระบุมีความอดทน อดกลั้น ร้อยละ 57.9 ระบุเสียสละ และเพียงร้อยละ 20.2 ระบุมีฐานะร่ำรวย
สำหรับวาระแห่งชาติที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งแก้ไข ผลสำรวจพบว่า ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ (ความรักความสามัคคีของคนในชาติ) มีสูงถึง ร้อยละ84.7 อันดับสองได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ร้อยละ 78.2 และที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อยู่ที่ร้อยละ 74.1 เป็นต้น
นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.5 อยากให้เร่งรณรงค์เอกลักษณ์และคุณลักษณ์พึงประสงค์ของความเป็นคนไทยในเรื่องความรักความสามัคคีของคนในชาติ มากที่สุด รองลงมาคือ ร้อยละ 81.9 ระบุเรื่องความรักชาติ ร้อยละ 77.6 ระบุความเอื้ออาทร เกื้อกูล มีน้ำใจต่อกัน ร้อยละ 73.1 ระบุการให้อภัยต่อกัน ร้อยละ 70.6 ระบุความมีสติสัมปชัญญะ รู้จักยับยั้งชั่งใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ในสถานการณ์การเมืองล่าสุด ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.9 เริ่มมีความหวังที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 37.1 มีความกลัวต่อเหตุการณ์ข้างหน้าของประเทศ