"สนธิ"ลั่นสงครามครั้งสุดท้าย ต่อสู้เพื่อราชบังลังก์ แฉ"ทักษิณ-พจมาน"เริ่มแตกคอ เด็กในคาถาเริ่มก่อปัญหา พร้อมขอฉันทามติรับอำนาจสะสาง NBT เพื่อเป็นสื่อของประชาชน ลั่นตำแหน่งนายกฯไม่รับ "จำลอง"เบรกนักศึกษาเคลื่อนไปชุมนุมหน้ารัฐสภา เหตุนปช.จ้าง"เดนนรก”ดักลอบทำร้าย "สมศักดิ์” สับแหลกเหตุเลื่อนประชุมสภาฯ เพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว ตอกย้ำนักการเมืองหน้าโง่ไม่ได้คำนึงถึงชาติบ้านเมือง เปรียบพรรคร่วมเหมือนหมัดหมา ยันจะชุมนุมยืดเยื้อต่อไป "สำราญ"แกนนำฯ รุ่น 2 เตือนให้จับตา "5 วัน อันตราย" ภาคนักวิชาการ นักธุรกิจ และ พธม.ต่างจังหวัด เชื่อสภาฯล่มเหตุส.ส.เพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จี้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
การประชุมสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.)วานนี้(12) ต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย เมื่อการประชุมสภาฯเพื่อคัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องล่มลง แต่คงต้องจับตา "5วันอันตราย"คือตั้งแต่วันนี้(13)ถึงวันนัดประชุมวันพุธที่ 17 ก.ย.บทสรุปการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใคร
แต่ก่อนการประชุมสภาฯของช่วงเช้าวานนี้ ปรากฏว่า ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาจากการที่จะมีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาชุมนุมหน้ารัฐสภาเพื่อสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ขณะที่กลุ่มเยาวชนพันธมิตรฯ หรือ Yong PAD ได้ประกาศไว้ จะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภา เพื่อกดดันไม่ให้ ส.ส.เลือกนายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
แฉ นปช.จ้าง"ม็อบถ่อย”ลอบกัด นศ.!
ในช่วงเช้าวานนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) กล่าวว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มนปช.ได้เคลื่อนกำลังเข้ามาใน กทม. ส่งผลให้แกนนำนักศึกษาได้มาปรึกษากับแกนนำพันธมิตรฯว่า สมควรที่เคลื่อนกำลังไปสภาหรือไม่ แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนจึงปรึกษาหารือกัน และมีมติว่า จะไม่มีการเคลื่อนไปชุมนุมยังหน้ารัฐสภา โดยเน้นย้ำขอให้ผู้ชุมนุมและนักศึกษาห้ามไปรวมตัวที่หน้ารัฐสภา เพราะอาจจะเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล
"นอกจากนี้ ยังมีสายข่าวรายงานมาว่า กลุ่ม นปช.ได้มีการว่าจ้างชายฉกรรจ์จากจังหวัดใกล้เคียง ให้เข้ามาทำร้ายพันธมิตรฯ ที่จะเคลื่อนขบวนไปยังหน้ารัฐสภา และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาอาจจะนำเอาสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าแนวทางการชุมนุมของพันธมิตรฯ ยึดหลักสันติ อหิงสา จึงขอเตือนผู้ชุมนุมว่าอย่าหลงกลการยั่วยุจากกลุ่ม นปช. ซึ่งอาจจะนำไปสู่เหตุความรุนแรงได้” พล.ต.จำลอง กล่าว
ต้องล้างความชั่วร้ายในบ้านเมือง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯได้ขึ้นกล่าวบนเวทีฯว่า การเมืองที่ถึงทางตันตอนนี้ ก็เพราะพลังของกลุ่มพันธมิตรฯ และหากไม่มีพันธมิตรฯทางตันทางการเมืองไม่มี เพราะทุกๆอย่างไม่ถูกขัดขวาง หรือแม้แต่ที่ทหารได้ติดต่อไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษานายกรัฐมนตรี ให้ถอนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่กลับได้คำตอบมาว่า ทางพันธมิตรฯจะต้องออกจากทำเนียบ ถ้าอย่างนั้น เราไม่ถอย ถ้าจะมาปราบก็มาปราบได้เลย และทุกๆคนจะได้รู้ว่า "สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้กระทำ แสดงให้เห็นถึงความกระหายเลือด"
นายสนธิกล่าวยอมรับว่า การมีรัฐบาลแห่งชาตินั้น เป็นความฝันที่หลายๆคนฝันมา แต่เหตุที่เกิดไม่ได้ เพราะพรรคพลังประชาชนไม่เอา ทำให้ทุกๆคน วิ่งหาทางออก ซึ่งทางออกที่ดีที่สุด จะต้องคำนึงประชาชนเป็นหลัก
"ปัญหาความชั่วของบ้านเมืองคือปัญหา ไม่ใช่ปัญหาฝน ฝนตกก็เปียก แดดทำให้เราแห้ง แต่ความชั่วทำให้เราอยู่ไม่สุข เพราะฉะนั้นแล้ว เราต้องสู้กลับความชั่ว เพื่อให้เราอยู่เย็นเป็นสุข"
สงครามครั้งสุดท้ายสู้เพื่อ"ราชบังลังก์"
นายสนธิ วิเคราะห์ถึงการเมืองในขณะนี้ว่า นี้คือ สงครามครั้งสุดท้ายระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและราชบังลังก์ และการที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามผลักดันนายสมัคร สุนทรเวชขึ้นมานั้น คือ นั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะพยายามสร้างปัญหาให้บ้านเมืองปั่นป่วน เพราะนายสมัครทำงานแล้วเข้าตาพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากนายสมัครมีความอำมหิตเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
"ตอนนี้กลุ่มก๊วนสายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร คือ นายเนวิน ชิดชอบ และสายพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยมีนางเยาวพา วงศ์สวัดิ์ที่คุมภาคเหนือ ก็เริ่มมีปัญหากันแล้ว โดย 2 สายถกเถียงกัน แม้ว่าภาพข้างนอกดูเหมือนว่า ทั้งคู่จะรักกัน แต่จริงๆแล้ว มีปัญหา ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ผมไม่สนใจเรื่องส่วนตัว แต่ชาติต้องมาก่อน ด้วยเหตุนี้แล้ว เราถอยไม่ได้ เพราะเรามาไกล ไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว"นายสนธิกล่าวและชี้ว่า ขณะนี้กระบวนการทำงานของตุลาการภิวัฒน์ไม่ได้ผล เนื่องจากวันนี้ แม้สมาชิกในพรรคไทยรักไทย 111 คนจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว แต่วันนี้ นายเนวิน ชิดชอบ ยังคงยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แสดงว่ากฎหมายไม่มีความหมาย
หรือแม้แต่ที่ศาลฏีกา จะให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ห้ามยุ่งการเมือง แต่ปรากฎว่า นายยงยุทธยังเดินสายเจรจาทางการเมือง ซึ่งนี้ชัดเจน แต่ตำรวจกลับไม่ยอมไปจับนายยงยุทธ แสดงว่า บ้านเมืองนี้ไร้กฎหมายแล้ว
ฉันทามติมอบอำนาจ"สนธิ"จัดการ NBT
นายสนธิ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของพี่น้องๆกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันนี้ 111 วัน เหมือนกับการหล่อมเหล็ก เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราถูกหล่อมให้แกร่งแล้ว และควรมีประกาศนียบัตรความอึดให้แก่พี่น้องที่ร่วมชุมนุม เมื่อเวลาผ่านไป ผมยิ่งสดชื่น เราเดินทางมาถูกต้อง กำลังเดินไปสู่ชัยชนะแล้ว ขอแค่ให้เดินบนเส้นทางนี้ ที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ขอเพียงให้เราอึด พี่น้องพันธอึด
"ต่อให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ผม (สนธิ) ไม่มีวันไปเป็นรัฐมนตรี ไม่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากให้จัดระเบียบสื่อแล้ว โดยเฉพาะNBTแล้ว ผมรับ พี่น้องผมขอฉันทามติ ให้ผมควรจะรับเพื่อไปจัดการกับสื่อกับNBT ถ้าปรมมือดังๆ ผมจะรับ นอกนั้น ผมไม่รับอะไรทั้งสิ้น ขอรับแค่ความห่วงใยกับคนอายุ 60 ก็พอแล้ว"
"สมศักดิ์"จวกหมัดเลือกสูบนาย
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯเห็นว่า การเลื่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีไปเป็นสัปดาห์หน้า(วันพุธที่ 17 ) คงเป็นความขัดแย้งของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่จัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงทำให้ไม่สามารถคุมเสียง ส.ส.ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นแล้วว่า แท้จริงนักการเมืองจะทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ
"เชื่อว่า 3-4 วันนี้ คงจะมีการทบทวนการเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นได้จาก ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนเสียงแตก ก็เหมือนกับเป็นการเล่นเกม พร้อมเปรียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับหมัดเลือกนาย โดยเมื่อสุนัขใกล้ตายก็ไม่มีเลือดให้สูบ พอเลือดหมด หมัดเหล่านั้นก็จะทิ้งไปเพื่อหาสุนัขตัวใหม่"นายสมศักดิ์กล่าวและยืนยันว่า พันธมิตรฯจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อต่อไป เพื่อขอรอดูการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ในสัปดาห์หน้า
ตั้งรัฐบาลแห่งชาติลดความขัดแย้ง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่พรรคพลังประชาชน อาจใช้ไม้ตายสุดท้าย โดยการชิงยุบสภาหากตกลงกับพรรคร่วมในการกำหนดตัวนายกฯไม่ได้ ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนว่า นายสมัคร สุนทรเวช อ่อนใจ ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะนายสมัคร เป็นอะไหล่ของระบอบทักษิณ เมื่อหมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้งไป ดังนั้นปัญหาจากนี้ไปหากนายกฯ คนใหม่ยังอยู่ในกรอบของ 3 ส. คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะคลี่คลายความขัดแย้งลงได้เพราะความเป็นนอมินีนั้น หากพราะ 3 ส. มีความชัดเจนกว่านายสมัครเสียอีก
"การที่คิดว่าความหวาดระแวง แรงต้านของสังคมจะลดลงไปนั้น คงเป็นความเข้าใจผิด พันธมิตรฯ ก็คงจะยุติการเคลื่อนไหวไม่ได้ หากรัฐบาลยังมีภาพลักษ์เป็นนอมินี ดังนั้น 4-5 วันจากนี้ สภาต้องคิดให้มาก เพราะหากต้องสรรหารัฐบาลด้วยวิธีพิเศษ ตามที่ผู้นำฝ่ายค้านเสนอนั้น ก็คงจะต้องเก็บไปคิด เพราะเป็นโอกาศสุดท้ายที่สภาจะได้แก้ตัว "นายสุริยะใสกล่าว และเตือนว่า อำนาจในการยุบสภาของนายกฯรักษาการนั้น ไม่มีมาตราไหนในรัฐธรรมนูญให้อำนาจเอาไว้ ขอเตือนว่าการใช้วิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่า คงจะทำไม่ได้เพราะอำนาจยุบสภานั้น นายกฯจะต้องมาจากการเลือกของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ดังนั้นหากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เลือกวิธีนี้ก็จะมีการยื่นตีความตามมาอีก ยิ่งทำให้การเมืองไร้ระเบียบและความขัดแย้งก็จะยืดเยื้อออกไป
"4-5 วันหลังจากนี้ หวังว่าทุกพรรคจะคำนึงถึงประโยชน์ส่วนร่วมอย่างแท้จริง สภาล่มได้แต่ประเทศล่มจมไม่ได้ ดังนั้นในวันที่ 17 ก.ย. จะเป็นวันไถ่บาปได้ สำหรับจุดยืนของพันธมิตรฯนั้น ในช่าง 4-5 วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรพิเศษ แต่จะติดตามและตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรจะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้หรือไม่ นายสุริยะใสกล่าวว่า สองสูตรที่พอจะเป็นเปลวเทียนปลายอุโมงค์ คือรัฐบาลแบบพิเศษ ตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเคยเสนอ แต่ในทางปฏิบัติ การเอาขั้วที่ขัดแย้งทางการเมือง มาอยู่ ครม. ร่วมกันจะสามารถปฎิบัติงานได้หรือไม่ และวิธีที่สองคือ การเปลี่ยนขั่วการเมืองซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทราบว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ยังคิดเป็นนายกฯอยู่
"ถ้า 5 วันแล้วยังทำไม่ได้ จะเห็นได้ว่าเกื่อบ 40 เปอร์เซ็นต์ของเอแบ็กโพล เริ่มถวิลหาทางออกที่สาม ซึ่งตรงนี้น่ากลัว เพราะความชอบธรรมในการรัฐประหารจะกลับมา ดังนั้นตนจึงเห็นด้วยกับพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ระบุว่า สภาต้องแก้ปัญหาให้ได้"
จับตา"5 วัน"อันตราย
นายสำราญ รอดเพ็ชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวเช่นกันว่า การที่สภาล่มถือเป็นชัยชนะหนึ่งที่เกิดจากการกดดันของพันธมิตรฯ จนทำให้พรรคการเมืองไม่เลือกนายสมัคร และบอกผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้มีผู้เสนอแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือให้งดใช้บางมาตรา เพื่อผ่าทางตันของประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 171 ให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. โดยอาจงดใช้ 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งเปิดโอกาสให้คนกลางมาแก้ปัญหาขัดแย้ง และพันธมิตรฯพร้อมจะรับฟัง
นอกจากนี้ บนเวทีปราศรัยยังวิเคราะห์ว่า ทางออกปัญหาการเมืองมี 4 แนวทาง และหนึ่งในนั้นคือจะมีพลังพิเศษมาสร้างการเมือง และหลายคนไม่เห็นด้วย แต่พลังพิเศษที่เกิดขึ้นจะช่วยบริหารบ้านเมือง และคลี่คลายสถานการณ์เมืองได้ โดยขอให้จับตาดูพลังพิเศษในช่วง 5 วันอันตรายก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่
จับ นปช.รับค่าจ้างป่วนชุมนุม
สำหรับการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล การ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้จับชายที่มีท่าทางพิรุธน่าสงสัย จึงนำตัวมาสอบถามพร้อมหาอาหารให้รับประทาน ก่อนทราบภายหลังว่าชื่อ นายชูชัย อุ้มชู โดยนายชูชัย ยอมรับว่า ได้รับค่าจ้างจาก นปช.ให้มาแฝงตัวชุมนุมกับพันธมิตรฯ และเมื่อลงบันทึกเรียบร้อยแล้ว ทางการ์ดอาสาพันธมิตรฯ จึงปล่อยตัวนายชูชัย ไป
พธม.ตจว.ชี้"พปช."ตัวปัญหา
แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯกบินทร์บุรี-ปราจีนบุรี นายณัฐวุฒิ เชษฐวงค์รัตน์ เชื่อว่า เป็นเกมการเมืองของพรรคพลังประชาชน ที่ต้องการจะถอยไปตั้งหลักและหาแนวทางใหม่ หลังจากเกรงว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจไม่ใช่คนในพรรคของตนเอง โดยเชื่อว่าพปช.จะหาแนวทางใหม่เพื่อให้คนของคนในพรรคกลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และจะเป็นการดึงเกมสร้างความดื้อด้านให้ผู้ชุมนุมรักชาติที่ทำเนียบรัฐบาลและสะพานมัฆวานรังสรรค์เกิดความท้อแท้
"สมัคร"นั่งนายกฯ ความไม่สงบไม่เกิด
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย และประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า หากมีการโหวตให้นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี อีก หรือโหวตให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน เป็นนายกฯ ตนคิดว่าความวุ่นวายของบ้านเมืองก็ยังไม่จบและน่าจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากขณะนี้ ความคิดเห็นของคนสองกลุ่มเห็นไม่ตรงกัน และมีการคัดค้านในเรื่องของระบบ ไม่ใช่ในเรื่องของตัวบุคคลอย่างเดียว
"แม้ว่านายกรัฐมนตรีที่ได้รับการโหวตจะเป็นไปตามกฎหมาย แต่สังคมไม่ยอมรับ น่าจะมีกระแสต่อต้านและเห็นด้วย สถานการณ์วันนี้จึงเหมือนกับว่า การเมืองไทยตกอยู่ใน "หลุมดำ" ซึ่งเป็นวังวนที่จะหาทางออกมาลำบาก และหากเนิ่นนานไปก็จะเกิดความเสียหายในทุกๆ ด้าน"
จี้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นางสาวอลิสา พันธุศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาล ที่อ้างว่าหากพลิกขั้วการเมืองเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสียงจะไม่พอ ทั้งๆ ที่จำนวน ส.ส.ของพรรคร่วมก็มีมากพอ ถึงวันนี้ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส.ที่มีอยู่ควรกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของชาติได้แล้ว ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญอีกประการคือ รัฐบาลควรเร่งรีบการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก
พันธมิตรฯ มอบ"กระบี่ปราบอธรรม"สนธิ"
ด้านประชาชนชาวขอนแก่น ที่เป็นแนวร่วมพันธมิตรฯต่างเดินทางเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ข่าว ASTV จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพันธมิตรจากการเคหะขอนแก่น ได้นำกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า "กระบี่ปราบอธรรม" มาฝากผ่านศูนย์ข่าว ASTV เพื่อมอบให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ที่จะนำกองทัพธรรมะของพี่น้องประชาชน ปราบหมู่มารเหล่าอธรรม
“สันติ”ปัดสั่งเบรกเปิดเดินรถไฟใต้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผู้บริหาร ร.ฟ.ท. และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ร.ฟ.ท.จากความขัดแย้งกรณีที่สหภาพฯประกาศความพร้อมในการเปิดเดินรถไฟสายใต้ในวันที่ 12 ก.ย. หลังจากที่สหภาพฯ ร.ฟ.ท. ได้หารือร่วมกับฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนายยุทธนา ได้มอบหมายให้นายถวิล สามนคร รองผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เจรจาแทน และได้มีข้อตกลงเป็นบันทึกร่วมกัน โดยฝ่ายบริหารรับข้อเรียกร้องของสหภาพฯ 12 ข้อ แต่นายสันติให้ยับยั้งไว้ก่อน โดยระบุว่าต้องการให้มีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยก่อน เนื่องจากเส้นทางสายใต้มีการหยุดเดินรถมานาน
โดยนายสันติ ค่อนข้างไม่ค่อยพอใจกรณีที่มีการสอบถามว่า สาเหตุ ที่ยังไม่มีคำสั่งให้เปิดเดินรถไฟสายใต้ตามที่ตกลงกับสหภาพฯ เนื่องจากเกรงว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบมากขึ้นใช่หรือไม่ โดยยืนยันว่า ไม่เกี่ยว ไม่อยู่ในสมองเลย
หยุดเดินรถไฟเหตุรัฐบาลไม่ดูแล
นายเรียงศักดิ์ แขงขัน ประธานสหภาพฯ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเข้าใจสับสนว่าเกี่ยวกับพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ใช่การเคลื่อนไหวของสหภาพฯ เป็นผลมาจากข้อเรียกร้อง เมื่อวันที่ 31 ต.ค.50 ที่รัฐบาลสมัยนั้นได้รับไว้แต่ไม่มีการดำเนินการจนถึงรัฐบาลนี้ สหภาพฯได้นำข้อร้องเรียนเสนอกับนายสันติแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งปัญหาการขาดแคลนพนักงานขับรถทำให้พนักงานไม่สามารถหยุดงานได้ ปัญหางบประมาณสนับสนุนค้างจ่าย 26,000 ล้านบาท กรณีผลตอบแทนที่ดินเซ็นทรัลที่ไม่เหมาะสม กรณีที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ไข
กลัวคนใต้ขึ้นมาชุมนุมต้าน"หมัก"
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงขบวนรถไฟสายใต้ที่เพิ่งวิ่งออกจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเช้าวานนี้ (12 ) จำนวน 9 ขบวน เป็นขบวนท้องถิ่น หลังจากสร.ร.ฟ.ท. มีมติเปิดบริการรถไฟสายใต้ทุกขบวนวานนี้ (12) จากที่หยุดมาถึง 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. ตามมาตรการอารยะขัดขืนกับรัฐบาล ปรากฏว่าเมื่อรถไฟ 9 ขบวน แล่นออกจากสถานีไปได้ระยะหนึ่ง ได้รับแจ้งจากฝ่ายการเดินรถให้ระงับการเดินรถไฟทุกขบวนอย่างกะทันหัน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและไม่พอใจ
นายสาโรจน์ รักจันทร์ กรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ทางศูนย์การเดินรถภาคใต้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยออกเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเดินรถทุกขบวนในวันนี้ แต่หลังจากนั้นได้มีคำสั่งอย่างไม่เป็นทางการจากการรถไฟฯ อ้างว่ากระทรวงคมนาคมสั่งระงับการเดินรถ เนื่องจากไม่มีความพร้อม ซึ่งขัดกับความเป็นจริง เพราะทุกอย่างพร้อมให้บริการประชาชนแล้ว
"รัฐบาลกลัวว่า เมื่อรถไฟเปิดบริการตามปกติพี่น้องประชาชนภาคใต้จำนวนมาก จะแห่กันขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อไปประท้วงกรณีที่พรรคพลังประชาชนจะสนับสนุนให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถือเป็นความอัปยศ เพราะในขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลเองก็ได้ระดมคนจากภาคเหนือ ภาคอีสาน มาให้กำลังใจนายสมัครที่กรุงเทพฯ"
พร้อมกันนี้ยังได้มีการออกจดหมายเปิดผนึก โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า... พนักงาน ร.ฟ.ท.ได้เตรียมความพร้อมเปิดการเดินรถสายไต้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยทำการตรวจสอบรถจักร, ราง, ล้อเลื่อน และระบบอาณัติสัญญาณต่างๆ รวมถึงได้มีการประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน
จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า การกระทำของทรราชรักษาการรัฐบาลที่สั่งการให้ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ทำตามประสงค์ครั้งนี้ จึงเป็นไปเพื่อต้องการรักษาไว้ซึ่งอำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแม้แต่น้อย เนื่องจากได้ให้ ร.ฟ.ท.เปิดการเดินรถเป็นปกติเฉพาะสายตะวันออกเฉียงเหนือและสายเหนือเท่านั้น เพื่อให้มีการขนคนแต่เฉพาะที่สนับสนุนทรราชรักษาการรัฐบาลเข้าสู่กรุงเทพฯ ขณะที่พี่น้องประชาชนชาวใต้ที่ส่วนใหญ่สนับสนุน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลับบีบบังคับไม่ให้มีการเดินรถสายใต้ในเวลานี้ดังกล่าว
ยันเปิดครบทุกขบวน 15 ก.ย.
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การเปิดเดินรถไฟสายใต้จะเริ่มทยอยเปิดในจุดที่มีความพร้อม และคาดว่าจะครบเหมือนเดิมทั้ง 64 ขบวนในวันที่ 15 ก.ย. เพราะจำเป็นต้องตรวจความพร้อมของระบบรางและหัวรถจักร รวมถึงระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีเส้นทางผ่าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาถอดน็อตรางรถไฟและปัญหาก่อกวนจากผู้ไม่หวังดีในรูปแบบต่างๆ
การประชุมสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.)วานนี้(12) ต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย เมื่อการประชุมสภาฯเพื่อคัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องล่มลง แต่คงต้องจับตา "5วันอันตราย"คือตั้งแต่วันนี้(13)ถึงวันนัดประชุมวันพุธที่ 17 ก.ย.บทสรุปการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใคร
แต่ก่อนการประชุมสภาฯของช่วงเช้าวานนี้ ปรากฏว่า ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาจากการที่จะมีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาชุมนุมหน้ารัฐสภาเพื่อสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ขณะที่กลุ่มเยาวชนพันธมิตรฯ หรือ Yong PAD ได้ประกาศไว้ จะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภา เพื่อกดดันไม่ให้ ส.ส.เลือกนายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
แฉ นปช.จ้าง"ม็อบถ่อย”ลอบกัด นศ.!
ในช่วงเช้าวานนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) กล่าวว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มนปช.ได้เคลื่อนกำลังเข้ามาใน กทม. ส่งผลให้แกนนำนักศึกษาได้มาปรึกษากับแกนนำพันธมิตรฯว่า สมควรที่เคลื่อนกำลังไปสภาหรือไม่ แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนจึงปรึกษาหารือกัน และมีมติว่า จะไม่มีการเคลื่อนไปชุมนุมยังหน้ารัฐสภา โดยเน้นย้ำขอให้ผู้ชุมนุมและนักศึกษาห้ามไปรวมตัวที่หน้ารัฐสภา เพราะอาจจะเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล
"นอกจากนี้ ยังมีสายข่าวรายงานมาว่า กลุ่ม นปช.ได้มีการว่าจ้างชายฉกรรจ์จากจังหวัดใกล้เคียง ให้เข้ามาทำร้ายพันธมิตรฯ ที่จะเคลื่อนขบวนไปยังหน้ารัฐสภา และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาอาจจะนำเอาสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าแนวทางการชุมนุมของพันธมิตรฯ ยึดหลักสันติ อหิงสา จึงขอเตือนผู้ชุมนุมว่าอย่าหลงกลการยั่วยุจากกลุ่ม นปช. ซึ่งอาจจะนำไปสู่เหตุความรุนแรงได้” พล.ต.จำลอง กล่าว
ต้องล้างความชั่วร้ายในบ้านเมือง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯได้ขึ้นกล่าวบนเวทีฯว่า การเมืองที่ถึงทางตันตอนนี้ ก็เพราะพลังของกลุ่มพันธมิตรฯ และหากไม่มีพันธมิตรฯทางตันทางการเมืองไม่มี เพราะทุกๆอย่างไม่ถูกขัดขวาง หรือแม้แต่ที่ทหารได้ติดต่อไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษานายกรัฐมนตรี ให้ถอนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่กลับได้คำตอบมาว่า ทางพันธมิตรฯจะต้องออกจากทำเนียบ ถ้าอย่างนั้น เราไม่ถอย ถ้าจะมาปราบก็มาปราบได้เลย และทุกๆคนจะได้รู้ว่า "สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้กระทำ แสดงให้เห็นถึงความกระหายเลือด"
นายสนธิกล่าวยอมรับว่า การมีรัฐบาลแห่งชาตินั้น เป็นความฝันที่หลายๆคนฝันมา แต่เหตุที่เกิดไม่ได้ เพราะพรรคพลังประชาชนไม่เอา ทำให้ทุกๆคน วิ่งหาทางออก ซึ่งทางออกที่ดีที่สุด จะต้องคำนึงประชาชนเป็นหลัก
"ปัญหาความชั่วของบ้านเมืองคือปัญหา ไม่ใช่ปัญหาฝน ฝนตกก็เปียก แดดทำให้เราแห้ง แต่ความชั่วทำให้เราอยู่ไม่สุข เพราะฉะนั้นแล้ว เราต้องสู้กลับความชั่ว เพื่อให้เราอยู่เย็นเป็นสุข"
สงครามครั้งสุดท้ายสู้เพื่อ"ราชบังลังก์"
นายสนธิ วิเคราะห์ถึงการเมืองในขณะนี้ว่า นี้คือ สงครามครั้งสุดท้ายระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและราชบังลังก์ และการที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามผลักดันนายสมัคร สุนทรเวชขึ้นมานั้น คือ นั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะพยายามสร้างปัญหาให้บ้านเมืองปั่นป่วน เพราะนายสมัครทำงานแล้วเข้าตาพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากนายสมัครมีความอำมหิตเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
"ตอนนี้กลุ่มก๊วนสายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร คือ นายเนวิน ชิดชอบ และสายพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยมีนางเยาวพา วงศ์สวัดิ์ที่คุมภาคเหนือ ก็เริ่มมีปัญหากันแล้ว โดย 2 สายถกเถียงกัน แม้ว่าภาพข้างนอกดูเหมือนว่า ทั้งคู่จะรักกัน แต่จริงๆแล้ว มีปัญหา ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ผมไม่สนใจเรื่องส่วนตัว แต่ชาติต้องมาก่อน ด้วยเหตุนี้แล้ว เราถอยไม่ได้ เพราะเรามาไกล ไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว"นายสนธิกล่าวและชี้ว่า ขณะนี้กระบวนการทำงานของตุลาการภิวัฒน์ไม่ได้ผล เนื่องจากวันนี้ แม้สมาชิกในพรรคไทยรักไทย 111 คนจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว แต่วันนี้ นายเนวิน ชิดชอบ ยังคงยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แสดงว่ากฎหมายไม่มีความหมาย
หรือแม้แต่ที่ศาลฏีกา จะให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ห้ามยุ่งการเมือง แต่ปรากฎว่า นายยงยุทธยังเดินสายเจรจาทางการเมือง ซึ่งนี้ชัดเจน แต่ตำรวจกลับไม่ยอมไปจับนายยงยุทธ แสดงว่า บ้านเมืองนี้ไร้กฎหมายแล้ว
ฉันทามติมอบอำนาจ"สนธิ"จัดการ NBT
นายสนธิ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของพี่น้องๆกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันนี้ 111 วัน เหมือนกับการหล่อมเหล็ก เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราถูกหล่อมให้แกร่งแล้ว และควรมีประกาศนียบัตรความอึดให้แก่พี่น้องที่ร่วมชุมนุม เมื่อเวลาผ่านไป ผมยิ่งสดชื่น เราเดินทางมาถูกต้อง กำลังเดินไปสู่ชัยชนะแล้ว ขอแค่ให้เดินบนเส้นทางนี้ ที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ขอเพียงให้เราอึด พี่น้องพันธอึด
"ต่อให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ผม (สนธิ) ไม่มีวันไปเป็นรัฐมนตรี ไม่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากให้จัดระเบียบสื่อแล้ว โดยเฉพาะNBTแล้ว ผมรับ พี่น้องผมขอฉันทามติ ให้ผมควรจะรับเพื่อไปจัดการกับสื่อกับNBT ถ้าปรมมือดังๆ ผมจะรับ นอกนั้น ผมไม่รับอะไรทั้งสิ้น ขอรับแค่ความห่วงใยกับคนอายุ 60 ก็พอแล้ว"
"สมศักดิ์"จวกหมัดเลือกสูบนาย
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯเห็นว่า การเลื่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีไปเป็นสัปดาห์หน้า(วันพุธที่ 17 ) คงเป็นความขัดแย้งของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่จัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงทำให้ไม่สามารถคุมเสียง ส.ส.ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นแล้วว่า แท้จริงนักการเมืองจะทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ
"เชื่อว่า 3-4 วันนี้ คงจะมีการทบทวนการเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นได้จาก ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนเสียงแตก ก็เหมือนกับเป็นการเล่นเกม พร้อมเปรียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับหมัดเลือกนาย โดยเมื่อสุนัขใกล้ตายก็ไม่มีเลือดให้สูบ พอเลือดหมด หมัดเหล่านั้นก็จะทิ้งไปเพื่อหาสุนัขตัวใหม่"นายสมศักดิ์กล่าวและยืนยันว่า พันธมิตรฯจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อต่อไป เพื่อขอรอดูการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ในสัปดาห์หน้า
ตั้งรัฐบาลแห่งชาติลดความขัดแย้ง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่พรรคพลังประชาชน อาจใช้ไม้ตายสุดท้าย โดยการชิงยุบสภาหากตกลงกับพรรคร่วมในการกำหนดตัวนายกฯไม่ได้ ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนว่า นายสมัคร สุนทรเวช อ่อนใจ ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะนายสมัคร เป็นอะไหล่ของระบอบทักษิณ เมื่อหมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้งไป ดังนั้นปัญหาจากนี้ไปหากนายกฯ คนใหม่ยังอยู่ในกรอบของ 3 ส. คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะคลี่คลายความขัดแย้งลงได้เพราะความเป็นนอมินีนั้น หากพราะ 3 ส. มีความชัดเจนกว่านายสมัครเสียอีก
"การที่คิดว่าความหวาดระแวง แรงต้านของสังคมจะลดลงไปนั้น คงเป็นความเข้าใจผิด พันธมิตรฯ ก็คงจะยุติการเคลื่อนไหวไม่ได้ หากรัฐบาลยังมีภาพลักษ์เป็นนอมินี ดังนั้น 4-5 วันจากนี้ สภาต้องคิดให้มาก เพราะหากต้องสรรหารัฐบาลด้วยวิธีพิเศษ ตามที่ผู้นำฝ่ายค้านเสนอนั้น ก็คงจะต้องเก็บไปคิด เพราะเป็นโอกาศสุดท้ายที่สภาจะได้แก้ตัว "นายสุริยะใสกล่าว และเตือนว่า อำนาจในการยุบสภาของนายกฯรักษาการนั้น ไม่มีมาตราไหนในรัฐธรรมนูญให้อำนาจเอาไว้ ขอเตือนว่าการใช้วิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่า คงจะทำไม่ได้เพราะอำนาจยุบสภานั้น นายกฯจะต้องมาจากการเลือกของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ดังนั้นหากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เลือกวิธีนี้ก็จะมีการยื่นตีความตามมาอีก ยิ่งทำให้การเมืองไร้ระเบียบและความขัดแย้งก็จะยืดเยื้อออกไป
"4-5 วันหลังจากนี้ หวังว่าทุกพรรคจะคำนึงถึงประโยชน์ส่วนร่วมอย่างแท้จริง สภาล่มได้แต่ประเทศล่มจมไม่ได้ ดังนั้นในวันที่ 17 ก.ย. จะเป็นวันไถ่บาปได้ สำหรับจุดยืนของพันธมิตรฯนั้น ในช่าง 4-5 วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรพิเศษ แต่จะติดตามและตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรจะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้หรือไม่ นายสุริยะใสกล่าวว่า สองสูตรที่พอจะเป็นเปลวเทียนปลายอุโมงค์ คือรัฐบาลแบบพิเศษ ตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเคยเสนอ แต่ในทางปฏิบัติ การเอาขั้วที่ขัดแย้งทางการเมือง มาอยู่ ครม. ร่วมกันจะสามารถปฎิบัติงานได้หรือไม่ และวิธีที่สองคือ การเปลี่ยนขั่วการเมืองซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทราบว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ยังคิดเป็นนายกฯอยู่
"ถ้า 5 วันแล้วยังทำไม่ได้ จะเห็นได้ว่าเกื่อบ 40 เปอร์เซ็นต์ของเอแบ็กโพล เริ่มถวิลหาทางออกที่สาม ซึ่งตรงนี้น่ากลัว เพราะความชอบธรรมในการรัฐประหารจะกลับมา ดังนั้นตนจึงเห็นด้วยกับพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ระบุว่า สภาต้องแก้ปัญหาให้ได้"
จับตา"5 วัน"อันตราย
นายสำราญ รอดเพ็ชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวเช่นกันว่า การที่สภาล่มถือเป็นชัยชนะหนึ่งที่เกิดจากการกดดันของพันธมิตรฯ จนทำให้พรรคการเมืองไม่เลือกนายสมัคร และบอกผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้มีผู้เสนอแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือให้งดใช้บางมาตรา เพื่อผ่าทางตันของประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 171 ให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. โดยอาจงดใช้ 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งเปิดโอกาสให้คนกลางมาแก้ปัญหาขัดแย้ง และพันธมิตรฯพร้อมจะรับฟัง
นอกจากนี้ บนเวทีปราศรัยยังวิเคราะห์ว่า ทางออกปัญหาการเมืองมี 4 แนวทาง และหนึ่งในนั้นคือจะมีพลังพิเศษมาสร้างการเมือง และหลายคนไม่เห็นด้วย แต่พลังพิเศษที่เกิดขึ้นจะช่วยบริหารบ้านเมือง และคลี่คลายสถานการณ์เมืองได้ โดยขอให้จับตาดูพลังพิเศษในช่วง 5 วันอันตรายก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่
จับ นปช.รับค่าจ้างป่วนชุมนุม
สำหรับการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล การ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้จับชายที่มีท่าทางพิรุธน่าสงสัย จึงนำตัวมาสอบถามพร้อมหาอาหารให้รับประทาน ก่อนทราบภายหลังว่าชื่อ นายชูชัย อุ้มชู โดยนายชูชัย ยอมรับว่า ได้รับค่าจ้างจาก นปช.ให้มาแฝงตัวชุมนุมกับพันธมิตรฯ และเมื่อลงบันทึกเรียบร้อยแล้ว ทางการ์ดอาสาพันธมิตรฯ จึงปล่อยตัวนายชูชัย ไป
พธม.ตจว.ชี้"พปช."ตัวปัญหา
แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯกบินทร์บุรี-ปราจีนบุรี นายณัฐวุฒิ เชษฐวงค์รัตน์ เชื่อว่า เป็นเกมการเมืองของพรรคพลังประชาชน ที่ต้องการจะถอยไปตั้งหลักและหาแนวทางใหม่ หลังจากเกรงว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจไม่ใช่คนในพรรคของตนเอง โดยเชื่อว่าพปช.จะหาแนวทางใหม่เพื่อให้คนของคนในพรรคกลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และจะเป็นการดึงเกมสร้างความดื้อด้านให้ผู้ชุมนุมรักชาติที่ทำเนียบรัฐบาลและสะพานมัฆวานรังสรรค์เกิดความท้อแท้
"สมัคร"นั่งนายกฯ ความไม่สงบไม่เกิด
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย และประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า หากมีการโหวตให้นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี อีก หรือโหวตให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน เป็นนายกฯ ตนคิดว่าความวุ่นวายของบ้านเมืองก็ยังไม่จบและน่าจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากขณะนี้ ความคิดเห็นของคนสองกลุ่มเห็นไม่ตรงกัน และมีการคัดค้านในเรื่องของระบบ ไม่ใช่ในเรื่องของตัวบุคคลอย่างเดียว
"แม้ว่านายกรัฐมนตรีที่ได้รับการโหวตจะเป็นไปตามกฎหมาย แต่สังคมไม่ยอมรับ น่าจะมีกระแสต่อต้านและเห็นด้วย สถานการณ์วันนี้จึงเหมือนกับว่า การเมืองไทยตกอยู่ใน "หลุมดำ" ซึ่งเป็นวังวนที่จะหาทางออกมาลำบาก และหากเนิ่นนานไปก็จะเกิดความเสียหายในทุกๆ ด้าน"
จี้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นางสาวอลิสา พันธุศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาล ที่อ้างว่าหากพลิกขั้วการเมืองเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสียงจะไม่พอ ทั้งๆ ที่จำนวน ส.ส.ของพรรคร่วมก็มีมากพอ ถึงวันนี้ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส.ที่มีอยู่ควรกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของชาติได้แล้ว ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญอีกประการคือ รัฐบาลควรเร่งรีบการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก
พันธมิตรฯ มอบ"กระบี่ปราบอธรรม"สนธิ"
ด้านประชาชนชาวขอนแก่น ที่เป็นแนวร่วมพันธมิตรฯต่างเดินทางเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ข่าว ASTV จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพันธมิตรจากการเคหะขอนแก่น ได้นำกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า "กระบี่ปราบอธรรม" มาฝากผ่านศูนย์ข่าว ASTV เพื่อมอบให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ที่จะนำกองทัพธรรมะของพี่น้องประชาชน ปราบหมู่มารเหล่าอธรรม
“สันติ”ปัดสั่งเบรกเปิดเดินรถไฟใต้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผู้บริหาร ร.ฟ.ท. และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ร.ฟ.ท.จากความขัดแย้งกรณีที่สหภาพฯประกาศความพร้อมในการเปิดเดินรถไฟสายใต้ในวันที่ 12 ก.ย. หลังจากที่สหภาพฯ ร.ฟ.ท. ได้หารือร่วมกับฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนายยุทธนา ได้มอบหมายให้นายถวิล สามนคร รองผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เจรจาแทน และได้มีข้อตกลงเป็นบันทึกร่วมกัน โดยฝ่ายบริหารรับข้อเรียกร้องของสหภาพฯ 12 ข้อ แต่นายสันติให้ยับยั้งไว้ก่อน โดยระบุว่าต้องการให้มีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยก่อน เนื่องจากเส้นทางสายใต้มีการหยุดเดินรถมานาน
โดยนายสันติ ค่อนข้างไม่ค่อยพอใจกรณีที่มีการสอบถามว่า สาเหตุ ที่ยังไม่มีคำสั่งให้เปิดเดินรถไฟสายใต้ตามที่ตกลงกับสหภาพฯ เนื่องจากเกรงว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบมากขึ้นใช่หรือไม่ โดยยืนยันว่า ไม่เกี่ยว ไม่อยู่ในสมองเลย
หยุดเดินรถไฟเหตุรัฐบาลไม่ดูแล
นายเรียงศักดิ์ แขงขัน ประธานสหภาพฯ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเข้าใจสับสนว่าเกี่ยวกับพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ใช่การเคลื่อนไหวของสหภาพฯ เป็นผลมาจากข้อเรียกร้อง เมื่อวันที่ 31 ต.ค.50 ที่รัฐบาลสมัยนั้นได้รับไว้แต่ไม่มีการดำเนินการจนถึงรัฐบาลนี้ สหภาพฯได้นำข้อร้องเรียนเสนอกับนายสันติแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งปัญหาการขาดแคลนพนักงานขับรถทำให้พนักงานไม่สามารถหยุดงานได้ ปัญหางบประมาณสนับสนุนค้างจ่าย 26,000 ล้านบาท กรณีผลตอบแทนที่ดินเซ็นทรัลที่ไม่เหมาะสม กรณีที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ไข
กลัวคนใต้ขึ้นมาชุมนุมต้าน"หมัก"
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงขบวนรถไฟสายใต้ที่เพิ่งวิ่งออกจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเช้าวานนี้ (12 ) จำนวน 9 ขบวน เป็นขบวนท้องถิ่น หลังจากสร.ร.ฟ.ท. มีมติเปิดบริการรถไฟสายใต้ทุกขบวนวานนี้ (12) จากที่หยุดมาถึง 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. ตามมาตรการอารยะขัดขืนกับรัฐบาล ปรากฏว่าเมื่อรถไฟ 9 ขบวน แล่นออกจากสถานีไปได้ระยะหนึ่ง ได้รับแจ้งจากฝ่ายการเดินรถให้ระงับการเดินรถไฟทุกขบวนอย่างกะทันหัน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและไม่พอใจ
นายสาโรจน์ รักจันทร์ กรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ทางศูนย์การเดินรถภาคใต้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยออกเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเดินรถทุกขบวนในวันนี้ แต่หลังจากนั้นได้มีคำสั่งอย่างไม่เป็นทางการจากการรถไฟฯ อ้างว่ากระทรวงคมนาคมสั่งระงับการเดินรถ เนื่องจากไม่มีความพร้อม ซึ่งขัดกับความเป็นจริง เพราะทุกอย่างพร้อมให้บริการประชาชนแล้ว
"รัฐบาลกลัวว่า เมื่อรถไฟเปิดบริการตามปกติพี่น้องประชาชนภาคใต้จำนวนมาก จะแห่กันขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อไปประท้วงกรณีที่พรรคพลังประชาชนจะสนับสนุนให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถือเป็นความอัปยศ เพราะในขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลเองก็ได้ระดมคนจากภาคเหนือ ภาคอีสาน มาให้กำลังใจนายสมัครที่กรุงเทพฯ"
พร้อมกันนี้ยังได้มีการออกจดหมายเปิดผนึก โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า... พนักงาน ร.ฟ.ท.ได้เตรียมความพร้อมเปิดการเดินรถสายไต้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยทำการตรวจสอบรถจักร, ราง, ล้อเลื่อน และระบบอาณัติสัญญาณต่างๆ รวมถึงได้มีการประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน
จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า การกระทำของทรราชรักษาการรัฐบาลที่สั่งการให้ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ทำตามประสงค์ครั้งนี้ จึงเป็นไปเพื่อต้องการรักษาไว้ซึ่งอำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแม้แต่น้อย เนื่องจากได้ให้ ร.ฟ.ท.เปิดการเดินรถเป็นปกติเฉพาะสายตะวันออกเฉียงเหนือและสายเหนือเท่านั้น เพื่อให้มีการขนคนแต่เฉพาะที่สนับสนุนทรราชรักษาการรัฐบาลเข้าสู่กรุงเทพฯ ขณะที่พี่น้องประชาชนชาวใต้ที่ส่วนใหญ่สนับสนุน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลับบีบบังคับไม่ให้มีการเดินรถสายใต้ในเวลานี้ดังกล่าว
ยันเปิดครบทุกขบวน 15 ก.ย.
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การเปิดเดินรถไฟสายใต้จะเริ่มทยอยเปิดในจุดที่มีความพร้อม และคาดว่าจะครบเหมือนเดิมทั้ง 64 ขบวนในวันที่ 15 ก.ย. เพราะจำเป็นต้องตรวจความพร้อมของระบบรางและหัวรถจักร รวมถึงระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีเส้นทางผ่าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาถอดน็อตรางรถไฟและปัญหาก่อกวนจากผู้ไม่หวังดีในรูปแบบต่างๆ
