นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ"โหรคมช. โหรชื่อดังเมืองเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี สิ้นสภาพเป็นนายกรัฐมนตรี จากกรณีการจัดรายการ"ชิมไปบ่นไป" และรายการ"ยกโขยง 6 โมงเช้า" ว่าสถานการณ์บ้านเมืองได้คลี่คลายไปได้หนึ่งเปลาะ แต่หากยังมีการดื้อดึงที่จะเลือกนายสมัคร ขึ้นมาเป็นนายกฯรอบ 2 สถานการณ์บ้านเมืองจะยิ่งวุ่นวายกว่าเดิม
"เวลานี้ หากเป็นกลุ่มของพรรคพลังประชาชนขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล สถานการณ์จะรุนแรง อาจจะถึงขั้นนองเลือดเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะมีกลุ่มต่างๆ ย้อนกลับเข้ามาร่วมชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล และหากเลือกนายสมัคร เข้ามา สถานการณ์บ้านเมืองจะยุ่งแน่นอน เพราะดวงบุญของนายสมัคร หมดแล้ว หน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองของนายสมัครหมดแล้ว หากดื้อดึง จะยิ่งทำให้เกิดความรุนแรง" นายวารินทร์ระบุ
หากมีการเปลี่ยนขั้วให้ให้พรรคประชาธิปัตย์มาจัดตั้งรัฐบาล ก็คงอยู่ในการบริหารประเทศได้สักระยะหนึ่ง ทั้งนี้ดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเหมือนกับนายสมัคร เพราะดวงของนายอภิสิทธิ์ ยังไม่ถึงเวลาของเขา หากขึ้นมาเป็น ก็เป็นได้สักระยะหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายก็ล้มคว่ำเหมือนเดิม ตอนนี้ทุกฝ่ายจะต้องใช้เวร ใช้กรรมไปก่อน ทางออกที่ดีที่สุด ตอนนี้ก็ทุกฝ่ายจะต้องจับมือร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยการ จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
"ทางเดียวเพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอด คือการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาประคับประคองสถานการณ์บ้านเมือง ถ้าทำได้ ก็จะสามารถประคับประคองบ้านเมืองไปได้เป็นปี และในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ผมจะทำพิธีด้วยการยกช่อฉัตร 3 ช่อ คือ ฉัตรธงชัย และบริวารซ้าย-ขวา เพื่อช่วยกันแก้กรรมของบ้านเมือง เพราะขณะนี้ยังไม่หมดสิ้น และการที่ผมกำหนดวันที่ 14 เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ใต้ เดือน 12 เหนือ ที่เป็นวันคล้ายวันปล่อยผี ซึ่งถือว่าเหตุการณ์ช่วงนี้รุนแรงมาก ทั้งนี้ เราทำบุญเพื่อประคับประคองเหตุการณ์บ้านเมืองไม่ให้เกิดความรุนแรง" นายวารินทร์กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าดวงของนายสมัคร หมดบุญแล้ว สมาชิกในพรรคพลังประชาชน มีใครโดดเด่นพอที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพบ้าง โหรคมช.กล่าวว่า ที่ชัดเจนไม่มีปรากฎ และตามที่จะมีการผลักดันให้ นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ยังไม่มีฐานบุญเพียงพอที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่สมาชิกพรรคมีการผลักดันขึ้นมาก็จะได้เป็นชั่วครูชั่วยามเท่านั้น ส่วนนายสมัคร ก็มีการผลักดันขึ้นมาเป็น ก็ล้มอีก ถ้าหากเอาคนนอก หรือ เอาคนที่มีบารมีเข้าประคับประคองเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองดีแล้ว ค่อยเลือกตั้ง
"กรรมบ้านเมืองจะคลี่คลาย และสถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น ประมาณกลางปี 52 ตอนนี้อยู่ระหว่างการใช้กรรมอยู่ ดังนั้นรัฐบาลแห่งชาติจะดีที่สุด และควรปรึกษาหารือทางออกร่วมกัน ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน หากชนอย่างเดียวก็จะนำความเสียหายให้กับบ้านเมือง เพราะไม่มีใครถูกสุด หรือผิดสุด เมื่อความคิดเห็นต่างคนต่างคิด ทางที่ดีจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเท่านั้น บ้านเมืองถึงจะไปรอดปลอดภัย"โหร คมช.กล่าว
"เวลานี้ หากเป็นกลุ่มของพรรคพลังประชาชนขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล สถานการณ์จะรุนแรง อาจจะถึงขั้นนองเลือดเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะมีกลุ่มต่างๆ ย้อนกลับเข้ามาร่วมชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล และหากเลือกนายสมัคร เข้ามา สถานการณ์บ้านเมืองจะยุ่งแน่นอน เพราะดวงบุญของนายสมัคร หมดแล้ว หน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองของนายสมัครหมดแล้ว หากดื้อดึง จะยิ่งทำให้เกิดความรุนแรง" นายวารินทร์ระบุ
หากมีการเปลี่ยนขั้วให้ให้พรรคประชาธิปัตย์มาจัดตั้งรัฐบาล ก็คงอยู่ในการบริหารประเทศได้สักระยะหนึ่ง ทั้งนี้ดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเหมือนกับนายสมัคร เพราะดวงของนายอภิสิทธิ์ ยังไม่ถึงเวลาของเขา หากขึ้นมาเป็น ก็เป็นได้สักระยะหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายก็ล้มคว่ำเหมือนเดิม ตอนนี้ทุกฝ่ายจะต้องใช้เวร ใช้กรรมไปก่อน ทางออกที่ดีที่สุด ตอนนี้ก็ทุกฝ่ายจะต้องจับมือร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยการ จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
"ทางเดียวเพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอด คือการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาประคับประคองสถานการณ์บ้านเมือง ถ้าทำได้ ก็จะสามารถประคับประคองบ้านเมืองไปได้เป็นปี และในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ผมจะทำพิธีด้วยการยกช่อฉัตร 3 ช่อ คือ ฉัตรธงชัย และบริวารซ้าย-ขวา เพื่อช่วยกันแก้กรรมของบ้านเมือง เพราะขณะนี้ยังไม่หมดสิ้น และการที่ผมกำหนดวันที่ 14 เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ใต้ เดือน 12 เหนือ ที่เป็นวันคล้ายวันปล่อยผี ซึ่งถือว่าเหตุการณ์ช่วงนี้รุนแรงมาก ทั้งนี้ เราทำบุญเพื่อประคับประคองเหตุการณ์บ้านเมืองไม่ให้เกิดความรุนแรง" นายวารินทร์กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าดวงของนายสมัคร หมดบุญแล้ว สมาชิกในพรรคพลังประชาชน มีใครโดดเด่นพอที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพบ้าง โหรคมช.กล่าวว่า ที่ชัดเจนไม่มีปรากฎ และตามที่จะมีการผลักดันให้ นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ยังไม่มีฐานบุญเพียงพอที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่สมาชิกพรรคมีการผลักดันขึ้นมาก็จะได้เป็นชั่วครูชั่วยามเท่านั้น ส่วนนายสมัคร ก็มีการผลักดันขึ้นมาเป็น ก็ล้มอีก ถ้าหากเอาคนนอก หรือ เอาคนที่มีบารมีเข้าประคับประคองเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองดีแล้ว ค่อยเลือกตั้ง
"กรรมบ้านเมืองจะคลี่คลาย และสถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น ประมาณกลางปี 52 ตอนนี้อยู่ระหว่างการใช้กรรมอยู่ ดังนั้นรัฐบาลแห่งชาติจะดีที่สุด และควรปรึกษาหารือทางออกร่วมกัน ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน หากชนอย่างเดียวก็จะนำความเสียหายให้กับบ้านเมือง เพราะไม่มีใครถูกสุด หรือผิดสุด เมื่อความคิดเห็นต่างคนต่างคิด ทางที่ดีจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเท่านั้น บ้านเมืองถึงจะไปรอดปลอดภัย"โหร คมช.กล่าว