พิจิตร – ประธานสหกรณ์ชาวนาพิจิตรค้านหัวชนฝานโยบาย “ไชยา” อุ้มโรงสีโคตรโกงร่วมโครงการรับจำนำ ขณะที่สมาคมโรงสีเมืองชาละวันหวั่น “หมัก-พปช.”ไปไม่รอด จี้เร่งคลอดนโยบายรับจำนำข้าว 51 ด่วน ก่อนการเมืองเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
นายสมเกียรติ โสภณพงษ์พิพัฒน์ ประธานชมรมสหกรณ์ จ.พิจิตร ที่มีสมาชิกเป็นเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรกว่า 20 สหกรณ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดของ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ที่จะปลดล็อกขบวนการโกงข้าวของกลุ่มทุนโรงสี ที่เคยโกงชาวนาให้กลับมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวอีก
ทั้งนี้ เห็นว่า น่าจะหานโยบายส่งเสริมโรงสีที่ดี ทำการค้าสุจริตเปิดโอกาสให้โรงสีขนาดเล็ก หรือสหกรณ์กลุ่มเกษตรกรต่างๆรวมไปถึงโรงสีชุมชนให้เติบโตขึ้นจะดีกว่า และควรหาเวลาคิดลดกติกาหรือลดเงินค้ำประกันให้กลุ่มเล็กๆ จะได้เจริญเติบโตมิใช่เพิ่มเงินค้ำประกันเป็น 20% ทำเหมือนอย่างที่คิดว่าจะให้โรงสีใหญ่ได้เกิดในแวดวงการค้าข้าวส่วนคนตัวเล็กๆก็ยิ่งเล็กลง ไปอีกเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มทุนต่างๆเปรียบเสมือนปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่ในขณะนี้
นายสมเกียรติ ย้ำว่า โรงสีที่เคยโกงชาวนามีเพียง 1% ของโรงสีทั้งประเทศ จะแคร์ทำไม น่าจะเอาเวลามาคิดช่วยโรงสีที่ดีจะดีกว่าไปหาทางช่วยขบวนการโคตรโกงชาวนาพวกนี้
นายบรรจง ตั้งจิตวัฒนากูล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทยและเป็น ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาข้าวกำลังเป็นโอกาสทองของชาวนาเพราะราคาข้าวเกี่ยวสดซื้อขายกันอยู่ที่ตันละ 1 หมื่นบาทแล้วปัจจัยเกิดจากราคาข้าวในตลาดสหรัฐอเมริกาช่วงนี้มีการขึ้นราคาเกือบทุกวัน อีกทั้งเวียดนามและ อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งก็ประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติ
แต่อุปสรรคของการค้าข้าวในขณะนี้ คือ ทั้งผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศและผู้ส่งออก รวมไปถึงนักธุรกิจที่จะสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทยไม่ไว้วางใจในเสถียรภาพของรัฐสภาและตัวรัฐบาลเอง เนื่องจากสถานการณ์ของการชุมนุมที่กำลังมีการเผชิญหน้ากันของทั้ง 2 ฝ่ายระหว่างฝ่ายพันธมิตรฯ และกลุ่ม นปก. ซึ่งถ้าหากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้คาดว่าเสร็จโครงการรับจำนำข้าวสิ้นเดือนกันยายนนี้ สถานการณ์ราคาข้าวก็จะสร้างแรงกดดันให้ชาวนาออกมากดดันรัฐบาล จะกลายเป็นศึก 2 ด้านในเร็ววันนี้อีกด้วย
“จึงอยากฝากเตือนรัฐบาลควรใช้สภาที่มีอยู่ในขณะนี้ เขียนนโยบายข้าวให้เป็นรูปธรรมในการปฏิบัติ เพราะคาดว่าในเร็ววันนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ และถ้ามีรัฐบาลรักษาการ การกำหนดนโยบายจะยิ่งปั่นป่วนไปกันใหญ่” นายบรรจง กล่าว
แนวทางที่ต้องการเสนอ คือ ให้กำหนดเรื่องการรับจำนำข้าวนาปี 51 หลังเดือนกันยายน ให้ชัดเจน เพื่อทั้งผู้ค้า - ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะได้มีราคากลางจากราคารับจำนำข้าวนาปีเป็นบรรทัดฐานของการค้าข้าว จึงขอย้ำว่าควรรีบดำเนินการโดยเร็ว มิฉะนั้นเมื่อข้าวนาปีเริ่มเกี่ยวแล้วไม่มีโครงการรับจำนำข้าวรองรับ นอกจากรัฐบาลจะรับศึกจากพันธมิตรฯแล้ว ยังจะมีกลุ่มชาวนาหลายสิบล้านคนออกมากดดันรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก คราวนี้แหละรัฐบาลตายแน่
นายสมเกียรติ โสภณพงษ์พิพัฒน์ ประธานชมรมสหกรณ์ จ.พิจิตร ที่มีสมาชิกเป็นเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรกว่า 20 สหกรณ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดของ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ที่จะปลดล็อกขบวนการโกงข้าวของกลุ่มทุนโรงสี ที่เคยโกงชาวนาให้กลับมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวอีก
ทั้งนี้ เห็นว่า น่าจะหานโยบายส่งเสริมโรงสีที่ดี ทำการค้าสุจริตเปิดโอกาสให้โรงสีขนาดเล็ก หรือสหกรณ์กลุ่มเกษตรกรต่างๆรวมไปถึงโรงสีชุมชนให้เติบโตขึ้นจะดีกว่า และควรหาเวลาคิดลดกติกาหรือลดเงินค้ำประกันให้กลุ่มเล็กๆ จะได้เจริญเติบโตมิใช่เพิ่มเงินค้ำประกันเป็น 20% ทำเหมือนอย่างที่คิดว่าจะให้โรงสีใหญ่ได้เกิดในแวดวงการค้าข้าวส่วนคนตัวเล็กๆก็ยิ่งเล็กลง ไปอีกเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มทุนต่างๆเปรียบเสมือนปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่ในขณะนี้
นายสมเกียรติ ย้ำว่า โรงสีที่เคยโกงชาวนามีเพียง 1% ของโรงสีทั้งประเทศ จะแคร์ทำไม น่าจะเอาเวลามาคิดช่วยโรงสีที่ดีจะดีกว่าไปหาทางช่วยขบวนการโคตรโกงชาวนาพวกนี้
นายบรรจง ตั้งจิตวัฒนากูล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทยและเป็น ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาข้าวกำลังเป็นโอกาสทองของชาวนาเพราะราคาข้าวเกี่ยวสดซื้อขายกันอยู่ที่ตันละ 1 หมื่นบาทแล้วปัจจัยเกิดจากราคาข้าวในตลาดสหรัฐอเมริกาช่วงนี้มีการขึ้นราคาเกือบทุกวัน อีกทั้งเวียดนามและ อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งก็ประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติ
แต่อุปสรรคของการค้าข้าวในขณะนี้ คือ ทั้งผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศและผู้ส่งออก รวมไปถึงนักธุรกิจที่จะสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทยไม่ไว้วางใจในเสถียรภาพของรัฐสภาและตัวรัฐบาลเอง เนื่องจากสถานการณ์ของการชุมนุมที่กำลังมีการเผชิญหน้ากันของทั้ง 2 ฝ่ายระหว่างฝ่ายพันธมิตรฯ และกลุ่ม นปก. ซึ่งถ้าหากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้คาดว่าเสร็จโครงการรับจำนำข้าวสิ้นเดือนกันยายนนี้ สถานการณ์ราคาข้าวก็จะสร้างแรงกดดันให้ชาวนาออกมากดดันรัฐบาล จะกลายเป็นศึก 2 ด้านในเร็ววันนี้อีกด้วย
“จึงอยากฝากเตือนรัฐบาลควรใช้สภาที่มีอยู่ในขณะนี้ เขียนนโยบายข้าวให้เป็นรูปธรรมในการปฏิบัติ เพราะคาดว่าในเร็ววันนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ และถ้ามีรัฐบาลรักษาการ การกำหนดนโยบายจะยิ่งปั่นป่วนไปกันใหญ่” นายบรรจง กล่าว
แนวทางที่ต้องการเสนอ คือ ให้กำหนดเรื่องการรับจำนำข้าวนาปี 51 หลังเดือนกันยายน ให้ชัดเจน เพื่อทั้งผู้ค้า - ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะได้มีราคากลางจากราคารับจำนำข้าวนาปีเป็นบรรทัดฐานของการค้าข้าว จึงขอย้ำว่าควรรีบดำเนินการโดยเร็ว มิฉะนั้นเมื่อข้าวนาปีเริ่มเกี่ยวแล้วไม่มีโครงการรับจำนำข้าวรองรับ นอกจากรัฐบาลจะรับศึกจากพันธมิตรฯแล้ว ยังจะมีกลุ่มชาวนาหลายสิบล้านคนออกมากดดันรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก คราวนี้แหละรัฐบาลตายแน่
