"เอ็มโพเรี่ยม" มองผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นแค่ระยะสั้น ไม่นานทุกอย่างก็จบ รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา การหมุนเวียนเข้าศูนย์ยังดีอยู่ เหตุลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ มองระยะยาวมีผลกระทบแน่ ตั้งแผนรับเน้นกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพ จับทิศทางวางโพซิชันนิงการทำตลาดให้ชัดเจน มั่นใจทั้งปีโต 5%ตามเป้า
นางเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ เปิดเผยว่า หลังพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศใช้ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเอ็มโพเรี่ยมยังมีจำนวนลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อของในอัตราที่คงที่ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมองว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ บวกกับที่ตั้งของเอ็มโพเรี่ยมห่างไกลจากจุดที่จะมีการชุมนุม ดังนั้นสำหรับเอ็มโพเรี่ยมแล้ว ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร
ถึงแม้ว่าจำนวนลูกค้ากว่า 70% จะเป็นชาวต่างชาติ และ30% เป็นชาวไทย แต่ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในประเทศหรือทำงานหรือมีที่พักใกล้กับห้างฯ ดังนั้นหากจะได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมากกว่า ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก แต่ถ้าพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีผลบังคับใช้ต่อไป เชื่อว่าส่งผลกระทบแน่นอน จึงหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีในระยะอันใกล้นี้
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บวกกับสภาพเศรษฐกิจด้วยแล้ว การทำธุรกิจศูนย์การค้า ควรที่จะต้องมีการวางโพซิชันนิงการทำตลาดให้ชัดเจน วางกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกลุ่ม ซึ่งทางเอ็มโพเรี่ยมเอง ปกติจะวางแผนการทำงานเป็นแบบไตรมาสต่อไตรมาสอยู่แล้ว
ดังนั้นหลังจากนี้จะเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ความรู้ เพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า โดยเป็นงานที่จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น อาทิ งาน "Emporium Asset & Wealth Management Expo 2008" ระหว่างวันที่ 10-15 ก.ย.นี้ ที่ชั้น 1 ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ภายใต้งบจัดงาน 10 ล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้ทั้งปี เอ็มโพเรี่ยมมีรายได้เติบโต 5% ตามเป้า ซึ่งในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมาถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
นางเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ เปิดเผยว่า หลังพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศใช้ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเอ็มโพเรี่ยมยังมีจำนวนลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อของในอัตราที่คงที่ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมองว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ บวกกับที่ตั้งของเอ็มโพเรี่ยมห่างไกลจากจุดที่จะมีการชุมนุม ดังนั้นสำหรับเอ็มโพเรี่ยมแล้ว ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร
ถึงแม้ว่าจำนวนลูกค้ากว่า 70% จะเป็นชาวต่างชาติ และ30% เป็นชาวไทย แต่ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในประเทศหรือทำงานหรือมีที่พักใกล้กับห้างฯ ดังนั้นหากจะได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมากกว่า ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก แต่ถ้าพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีผลบังคับใช้ต่อไป เชื่อว่าส่งผลกระทบแน่นอน จึงหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีในระยะอันใกล้นี้
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บวกกับสภาพเศรษฐกิจด้วยแล้ว การทำธุรกิจศูนย์การค้า ควรที่จะต้องมีการวางโพซิชันนิงการทำตลาดให้ชัดเจน วางกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกลุ่ม ซึ่งทางเอ็มโพเรี่ยมเอง ปกติจะวางแผนการทำงานเป็นแบบไตรมาสต่อไตรมาสอยู่แล้ว
ดังนั้นหลังจากนี้จะเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ความรู้ เพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า โดยเป็นงานที่จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น อาทิ งาน "Emporium Asset & Wealth Management Expo 2008" ระหว่างวันที่ 10-15 ก.ย.นี้ ที่ชั้น 1 ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ภายใต้งบจัดงาน 10 ล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้ทั้งปี เอ็มโพเรี่ยมมีรายได้เติบโต 5% ตามเป้า ซึ่งในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมาถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
