xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.2 ย้ำทหารเป็นของ "ในหลวง" ยืนข้าง ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2
ศูนย์ข่าวภูมิภาค-พันธมิตรฯ-นิสิต-นักศึกษาทั่วทุกภาคยังเคลื่อนไหวไล่รัฐบาลทรราช "สมัคร สุนทรเวช" ไม่หยุด "แพทย์พยาบาลอีสาน" เริ่มอารยะขัดขืนด้วยการ"สวมเสื้อเหลือง"แล้ว พร้อมเตรียมถอนเงินจากแบงก์ของรัฐเพื่อแสดงอารยะขัดขืนด้านเศรษฐกิจต่อหลัง "สมัคร"สำรากไม่ลาออกแน่นอน "มทภ.2" ย้ำชัดทหารเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นทหารของ ปชช.พร้อมยืนเคียงข้างประชาชน คน BOI แนะทางออกวิกฤตการเมืองวันนี้เหลือแค่ "ยุบสภา-นายกฯลาออก" เท่านั้น ชี้"หมัก" ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่ากับตอกย้ำความเลวร้ายบรรยากาศการลงทุน บ่อนทำลายเศรษฐกิจไทย ระบุการเคลื่อนไหว พธม.เป็นการเดินหน้าสู่การเมืองใหม่ เพิ่มพลังการตรวจสอบภาคประชาชน ลดนักการเมืองโกงกิน นักการเมืองยุคเก่าสูญพันธุ์

"สมเกียติ-หรั่ง"ปลุกพลังอาจารย์-นศ.

ที่ จ.นครราชสีมาเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (4 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 18.00 น. องค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันจัดเวทีปราศรัยใหญ่กู้ชาติและขับไล่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดขายชาติของนายสมัคร สุนทรเวช ที่บริเวณทางเท้า ถนนสุรนารายณ์ ด้านหน้าประตู 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา เพื่อระดมพลประชาชนชาวนครราชสีมา และปลุกพลังอาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา และสถานบันการศึกษา ได้ลุกฮือขึ้นมากอบกู้ชาติบ้านเมือง ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และขับไล่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดขายชาติของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ยังหน้าด้านหน้าทนดื้อดึงบริหารประเทศชาติอย่างไร้ความชอบธรรมอยู่ในขณะนี้

โดยมีแกนนำคนสำคัญร่วมขึ้นเวทีปราศรัย เช่นนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และแกนนำกลุ่มองค์กรครูโคราช สลับกับการแสดงดนตรีของศิลปินกู้ชาติ นำโดยหรั่ง ร็อคเคสตร้า,จุ๋ม ด่านเกวียน, กำปั่น บ้านแท่น เป็นต้น

มทภ.2ย้ำทหารอยู่ข้างประชาชน

วันเดียวกันที่พุทธศาสนสถานค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมืองนครราชสีมา พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ภายหลัง เป็นประธานประกอบพิธีวันคล้ายวันสถาปนากองทัพภาคที่ 2 ครบรอบ 60 ปีว่า ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ทำได้เพียงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ 19 จังหวัดภาคอีสานเท่านั้นเพราะการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีเฉพาะที่กรุงเทพฯ เท่านั้น ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 ก็ยังอยู่ในความสงบ

ส่วนการติดตามการระดมประชาชนเข้าไปร่วมชุมนุมของแต่ละฝ่ายนั้นเป็นเรื่องของทางจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละแห่งจะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ทหารเพียงแต่หาข่าวเท่านั้น แต่จากการหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ประชาชนชาวอีสานก็ยังคงอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมากเพราะทุกคนรอดูสถานการณ์ตามสื่อมวลชน และทุกส่วนยังมีความเข้าใจกันดี

พล.ท.สุจิตร กล่าวอีกว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้จัดกำลังเข้าไปช่วยกองทัพภาคที่ 1 แต่อย่างใด เนื่องจากกองทัพภาคที่ 1 มีกำลังพลเพียงพออยู่แล้ว แต่เราได้เตรียมความพร้อมอยู่ในที่ตั้งไว้ตลอดเวลา ซึ่งการดำเนินการจะต้องเป็นขั้นเป็นตอน และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ก็แถลงอย่างชัดเจนไปแล้ว

สำหรับการตั้งจุดตรวจตามเส้นทางสายหลักในภาคอีสาน โดยเฉพาะเส้นทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ทหารไม่ได้เข้าไปร่วม แต่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการ ทหารยังอยู่ในที่ตั้งเฝ้ารอดูสถานการณ์ และเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นความแตกต่างทางด้านความคิด ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยก็สามารถที่จะมีความเห็นแตกต่างกันได้

"อยากให้ประชาชนชาวไทยมีความรักสามัคคีกัน ให้เห็นแก่ประเทศชาติ โดยเฉพาะข้าราชการทหาร จะต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นทหารของประชาชน และเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอยืนยันว่าทหารยังยืนเคียงข้างประชาชนเหมือนเช่นที่ ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำไปตามสื่อมวลชนแล้ว" พล.ท.สุจิตร กล่าว

"ยี้ห้อยนคร"ป่วน!ขู่บึ้มเคเบิลทีวี

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของพันธมิตรฯทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนสนใจติดตามข่าวสารตามสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV กลายเป็นสื่อทางเลือกหนึ่ง ที่ประชาชนสนใจติดตามชมเป็นจำนวนมาก ทั้งการรับชมผ่านจานดาวเทียมและผ่านการถ่ายสัญญาณของผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบตอบรับสมาชิกหรือเคเบิลทีวีท้องถิ่นต่างๆ

ล่าสุดวานนี้ ห้างหุ้นส่วน จำกัด บีเอฟเคเบิลทีวี จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ถูกมือมืดไม่ทราบกลุ่มได้โทรศัพท์มาข่มขู่จะวางระเบิดและขับรถมาตะโกนด่าบริเวณด้านหน้าสำนักงาน หลังสัญญาณการถ่ายทอดช่อง ASTV ขาดหายเป็นบางช่วง

นายทวีพงษ์ ไกรรณภูมิ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด บีเอฟเคเบิล ทีวี เปิดเผยว่า ทางบีเอฟเคเบิลทีวี เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากการถูกข่มขู่จึงได้ชี้แจงให้ประชาชนและลูกค้า เข้าใจว่าทางบีเอฟเคเบิลทีวีวางตัวเป็นกลางไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถ่ายทอดสัญญาณให้สมาชิกสามารถได้รับทุกช่องโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และเอ็นบีที ที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกสั่งระงับการออกอากาศอยู่บ่อยครั้ง

"แต่ช่วงที่สัญญาณของ ASTV ขาดหายเป็นบางช่วงนั้น เกิดจากสัญญาณดาวเทียมขัดข้องจริง ทางบีเอฟเคเบิลทีวี ไม่ได้จงใจปิดสัญญาณถ่ายทอดตามที่หลายคนเข้าใจ เพราะหากทำไปก็จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจเคเบิลเอง" นายทวีพงษ์ กล่าว

นายทวีพงษ์ กล่าวยอมรับว่า หากวันไหนที่สัญญาณขัดข้องไม่มีการถ่ายทอดก็จะถูกลูกค้าและกลุ่มบุคคลที่ไม่ทราบชื่อโทรศัพท์มาสอบถาม ต่อว่าและขู่จะถอนจากการเป็นสมาชิกวันละไม่น้อยกว่า 400 สาย จากจำนวนลูกค้าทั้งจังหวัดร่วม 2,000 ราย

"ทางบีเอฟเคเบิลทีวี พร้อมจะระงับการถ่ายทอดสัญญาณถ่ายทอดโทรทัศน์ช่องใดช่องหนึ่ง หากรัฐบาลมีหนังสือคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน เพื่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมือง" นายทวีพงษ์ กล่าว

หมอ-พยาบาลเริ่มอารยะขัดขืน

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น หลังจากกลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล จากโรงพยาบาลหลายแห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ออกมาแถลงข่าวและออกแถลงการณ์ในนามสมาพันธ์องค์กรแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จี้รัฐบาลนายสมัคร ลาออกทั้งคณะและเริ่มอารยะขัดขืนตั้งแต่เช้าวานนี้ ไปจนกว่ารัฐบาลนายสมัคร จะลาออกทั้งคณะ โดยบรรยากาศในโรงพยาบาลหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเช้าวานนี้แพทย์ พยาบาล หลายคนได้พร้อมใจสวมเสื้อสีเหลืองแทนเสื้อกาวน์ทำหน้าที่รักษาพยาบาลคนไข้ตามปกติ

ผศ.นพ.ภัทรวุฒิ วัฒนศัพท์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า วานนี้แพทย์ และพยาบาลหลายท่านได้สวมเสื้อเหลืองมาทำงาน โดยในด้านวิชาชีพทุกคนต่างทำหน้าที่รักษาพยาบาลคนไข้ตามปกติ โดยในการสวมเสื้อเหลือง หรือติดริบบิ้นสีเหลืองนั้นแสดงถึงการทำหน้าที่ของแพทย์ พยาบาล ที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความจงรักภักดีและจะขอปกป้องรักษาชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยจะแสดงอารยะขัดขืนต่อรัฐบาลไม่ชอบธรรม ที่มีพฤติกรรมชัดเจนในการเป็นนอมินีของอดีตนายกรัฐมนตรี และมีความพยายามจะแก้รัฐธรรมนูญฟอกความผิดให้นักการเมืองโกงชาติมาโดยตลอด

อีกทั้งยังปล่อยให้กลุ่มคนที่เรียกว่า นปก.หรือ นปช. รวมกลุ่มกันพร้อมมีอาวุธเพื่อออกมาทำร้ายร่างกายของพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกันอย่างเลือดเย็น โดยนายสมัครไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ยังออกมายืนยันจะไม่ลาออกอย่างแน่นอน และยังจะหาคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาพูดทางสื่อมวลชนด้วย ยิ่งทำให้คนไทยที่ได้รับข้อมูลสองด้าน รู้สึกผิดหวังต่อท่าทีที่นายสมัครแสดงออกในเช้าวันนี้อย่างมาก

ผศ.นพ.ภัทรวุฒิ กล่าวอีกว่า เมื่อนายสมัคร พูดชัดเจนว่าจะไม่ลาออกอย่างแน่นอน ทางกลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล จากโรงพยาบาลหลายแห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะดำเนินการอารยะขัดขืนในขั้นต่อไป โดยจะเริ่มทยอยถอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร ที่เป็นของรัฐบาล เพื่อแสดงอารยะขัดขืนด้านเศรษฐกิจ

รสก.กาฬสินธุ์รอสัญญาณเผด็จศึก

ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ผู้ ภายหลังที่นายสมัคร ออกมาปราศรัยผ่านสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ 07.30 น.วานนี้ โดยได้แสดงจุดยืน ว่า จะไม่ลาออก ไม่ยุบสภานั้นได้มีการวิพากษ์วิจารณ์จากคนหลากหลายอาชีพตามมา

นายประยูร ภูมิชูชิต ประธานสภาทนายความจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในความเห็นที่เกิดจากสถานการณ์ขณะนี้ ทั่วทุกภูมิภาคประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการให้ รัฐบาลสมัคร บริหารประเทศต่อไป เพราะเหตุผลที่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจจนไปถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล มีความชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาลอยู่บริหารประเทศต่อไป เพราะขาดความชอบธรรม มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ขาดเหตุผลในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาประเทศ แต่การออกมาปราศรัยผ่านสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย ในช่วงเช้าที่ผ่านมา หลายคนมีความเห็นว่า นายสมัคร ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากกว่าที่จะมองสถานการณ์ แล้วดำเนินการแก้ไขด้วยความรับผิดชอบ

"กรณีนี้ผมมีความเห็นว่าการที่นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดผ่านสถานีวิทยุฯ เปรียบเสมือนการราดน้ำมันลงกองไฟ คำพูดที่ว่า ไม่ยุบ ไม่ลาออก แล้วโยนการตัดสินใจให้ ทหารว่ามีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว เป็นการโยนความรับผิดชอบให้ข้าราชการ ทั้งที่ทุกฝ่ายก่อนหน้านี้ยังมีความเชื่อว่า กรณีการลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะทำให้นายสมัคร ไขก๊อกตัวเอง แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้ามมีการใช้คำพูดที่ท่าทาย จนจึงเกรงว่า ในเมื่อสถานการณ์เริ่มดุเดือด สถานการณ์อาจจะบานปลายไปจนถึงความรุนแรงจนเกิดเหตุการณ์นองเลือดก็เป็นได้"

นายประยูร กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องการให้ ทุกฝ่ายร่วมกันขณะนี้ หากนายกรัฐมนตรีไม่ลาออก สมาชิกรัฐสภาเองก็ควรที่จะเริ่มกดดันก่อนที่จะเกิดปัญหา ด้วยการลาออก ตามแบบฉบับอารยะขัดขืน ที่รวมไปถึงจะต้องการปฏิเสธ มติครม.ในการทำประชามติเลือกข้าง เพราะถึงยังไงรัฐบาลก็ไม่สามารถอยู่ได้หากสถานการณ์ไม่เกิดขึ้นจากความสมานฉันท์ของคนทั้งประเทศ

ในส่วนตัวมองว่าแนวทางการแก้ไขนั้น นอกจากสมาชิกรัฐสภาจะร่วมกันกดดันด้วยการลาออกแล้ว เป็นไปได้ ก็น่าจะหาวิธีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาในหลายๆรูปแบบตามแต่เห็นสมควรในส่วนที่จะให้บุคคลที่สังคมยอมรับคนใดมาทำหน้าที่สื่อกลางแก้ไขปัญหาก็สามารถดำเนินการได้ทั้งนี้เชื่อว่าในเหตุผลดังกล่าวก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาของประเทศได้

สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือจากแกนนำสหภาพแรงงานพนักงานรัฐวิสาหกิจแล้ว ซึ่งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ติดตามสถานการณ์และพร้อมที่จะดำเนินการตามสมควรไม่ว่าจะเป็นการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ แต่จะต้องไม่กระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่

ทั้งนี้ พนักงานรัฐวิสาหกิจทุกคนมีความเข้าใจถึงพันธกิจการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติที่ต้องการจะขับไล่ นายกรัฐมนตรีหอกหัก ให้ออกไปจากรัฐบาลแล้วดำเนินการจัดการการเมืองใหม่

สนามบินหาดใหญ่เปิดปกติแล้ว

ส่วนที่ จ.สงขลา แม้จะมีการเปิดท่าอากาศยานหาดใหญ่ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมาหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯสงขลาประกาศยุติการชุมนุมปิดท่าอากาศยานหาดใหญ่อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน แต่ทางท่าอากาศยานหาดใหญ่ยังคงประกาศยกเลิกเที่ยวบินในช่วงเช้าเส้นทางไปกลับหาดใหญ่ทั้งหมดรวม 3 เที่ยวบินคือ การบินไทยเวลา 08.15 น.แอร์เอเชีย 09.45 น.และนกแอร์ 11.15 น. เนื่องจากจำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่รอบๆ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ทุกตารางนิ้วเพื่อความปลอดภัยสำหรับการบินและผู้โดยสารที่ใช้บริการ ก่อนที่จะเปิดให้บริการตามปกติทุกเที่ยวบินในช่วงบ่าย

อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มพันธมิตรฯสงขลาจะยุติการชุมนุมปิดสนามบิน แต่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ยังคงสั่งตรึงกำลังตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนกว่า 200 นาย เฝ้าสังเกตการณ์บริการประตูทางเข้าออกสนามบินต่อไปโดยไม่มีกำหนด ในขณะที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มรถยนต์เข้าออกอย่างละเอียดทุกคัน รวมทั้งยังคงมีการตั้งจุดตรวจที่บ้านเนินขุนทองก่อนถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ต่อไป

ในส่วนของท่าทีกลุ่มพันธมิตรฯสงขลาแม้จะยุติการชุมนุมปิดท่าอากาศยานหาดใหญ่แต่ยังคงเคลื่อนไหวการเมืองภาคประชาชนต่อไปโดยนับจากวันนี้จะปักหลักชุมนุมที่ลานการเมืองภาคประชาชนหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ เพื่อเป็นแรงหนุนพันธมิตรที่กรุงเทพฯ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีมวลชนนิสิตนักศึกษาอย่างน้อย 5 สถาบันใน จ.สงขลา ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตศรีวิชัย และมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ออกมาร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกด้วย

ส่วนบรรยากาศที่ชุมนุมทางหาดใหญ่การเดินรถไฟสายใต้ยังคงปิดตายเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีสัดส่วนความนิยมใช้บริการรถไฟสูงที่สุดในประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องหันไปใช้รถยนต์โดยสารแทนแม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าก็ตาม

แขวนป้ายสะพานนวรัตน์ไล่หมัก

ขณะที่บริเวณสะพานนวรัตน์ในตัวเมืองเชียงใหม่ เครือข่ายประชาสังคมเพื่อความสมานฉันท์ภาคเหนือ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ทางการเมืองหลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช.กับพันธมิตรฯและมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ ด้วยการนำป้ายผ้าสีดำขนาดใหญ่ที่มีข้อความเรียกร้องให้นายกฯลาออก ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยุติการใช้ความรุนแรงและปฏิรูปการเมืองภาคประชาชน ไปแขวนไว้กลางสะพานนวรัตน์ทางด้านทิศเหนือ รวมทั้งทำการยืนสงบนิ่ง 1 นาที ขอให้เกิดสันติสุขโดยเร็วและมีการปล่อยลูกโป่งสีดำที่เป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงและใช้วิถีทางสมานฉันท์ในการแก้ไขปัญหา

สำหรับเครือข่ายประชาสังคมเพื่อความสมานฉันท์ภาคเหนือนั้น ประกอบด้วยองค์กรต่างๆ ทั้งองค์กรพัฒนาเอกชน กลุ่มนักวิชาการและองค์กรภาคประชาชน รวมทั้งนักศึกษา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายสมัคร ลาออก ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยุติการใช้ความรุนแรง และปฏิรูปการเมืองภาคประชาชน มาแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ขณะที่กิจกรรมต่อไปจะมีการจัดเวทีเสวนาเพื่อหาทางออกให้แก่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทยในวันที่ 10 ก.ย.นี้

คนBOIชี้"หมัก"ต้องออก-ยุบสภา

วานนี้ (4ก.ย.) ที่ จ.พิษณุโลก นายชนินทร์ ขาวจันทร์ ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BUILD) สำนักบีโอไอ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ว่า ถือว่าเป็นการเมืองใหม่ที่สังคมต้องเรียนรู้ เกิดการปฏิวัติโดยประชาชน หนทางออกมีอยู่ 2 ทางคือ ยุบสภา หรือลาออก เพราะเลยจุดที่เจรจามาแล้ว เพราะแต่ละคน คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมถอยคนละก้าว ที่สำคัญปัญหาบ้านเมืองที่วิกฤตอยู่ขณะนี้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องแก้ไข ต้องรับผิดชอบ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องคลี่คลาย ทำทุกอย่างให้มีความเสี่ยงต่ำไม่ให้กระทบต่อการลงทุน

การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นสิ่งที่ตอกย้ำ ความไม่เชื่อมั่นของต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาทราบกันดีอยู่แล้ว มีปัญหาการขัดแย้งทางการเมือง แต่รัฐบาลกลับตอกย้ำ ความเชื่อที่รางเลือนว่า การเมืองไทยมีปัญหาถึงขั้นประกาศภาวะฉุกเฉิน เท่ากับทำลายเศรษฐกิจประเทศ

ทั้งที่รูปแบบการเคลื่อนไหวการเมืองของนายสนธิ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มชนชั้นกลาง ที่เกิดขึ้นมากในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น ฝรั่งเศส ซึ่งประท้วงกันทุกปี เพียงแต่การประท้วงที่สร้างผลกระทบ เช่น ปิดถนน หยุดเดินรถไฟ จะบอกให้ประชาชนทราบก่อน

นายชนินทร์ กล่าวว่า วันนี้การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯเป็นสิ่งที่น่ายินดี ถือว่า ชนชั้นกลางหรือประชาชนล้มล้างรัฐบาล เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาการเมืองในระยะยาว แต่บังเอิญว่า หากไปถามนักธุรกิจคนใด หรือ ประชาชนใดเขาจะบอกว่า ได้รับผลกระทบทั้งนั้น

"ระยะยาวรัฐบาล จะไม่มีคำว่า เปอร์เซ็นต์ ไม่ทำโกงกินอย่างโจ่งครึ่ม เพราะมีชนชั้นกลางคอยตรวจสอบ การที่ ส.ส. จะหว่านเงินหัวละ 100 หรือ 200 บาทก็เป็นไปได้ยากขึ้น เพราะรู้ดีว่า เมื่อเข้าไปนั่งเป็นรัฐบาล เขาไม่มีโอกาสถอนทุน การซื้อเสียงก็ค่อยๆหมดไป แต่ถามว่า การเคลื่อนไหวของชนชั้นกลางครั้งนี้ จะมีผลรวดเร็ว แบบไม่มีคอร์รัปชันเลยนั้นคงไม่ใช่ เชื่อว่า จะใช้เวลาหลายปี ต้องผ่านการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง จึงจะเห็นการวิวัฒนาการของการเมืองใหม่"

นายชนินทร์ ย้ำอีกครั้งว่า ทางออกของปัญหาขณะนี้เลยจุดเจรจามาแล้ว เพราะคนทั้งสอง ไม่ยอมถอย มีอยู่ทางเดียว ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว คือ ยุบสภา หรือลาออก เท่ากับว่า สลายเงื่อนไข ทางการเมืองหลายๆอย่าง แล้วค่อยมาเจรจากัน

กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ได้จัดกิจกรรมเรียกร้องให้รัฐบาลยุติใช้ความรุนแรงต่อประชาชน พร้อมทั้งให้นายสมัคร ถอนฟ้องข้อกล่าวหา กบฎ แกนนำพันธมิตรฯ และยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ประชาชนทั่วไป ตลอดจนนิสิต นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ใน จ.สงขลา ยังชุมนุมไม่หยุดจนกว่า สมัคร จะออกไป
เด็กนักเรียนใน จ.ภูเก็ต หลังจากเลิกเรียนแล้วก็ได้มาร่วมชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตร่วมไล่ ลุงหมัก ด้วยเช่นกัน
เครือข่ายประชาสังคมเพื่อความสมานฉันท์ภาคเหนือ แขวนป้ายผ้าขนาดใหญ่กลางสะพานนวรัตน์ในตัวเชียงใหม่เรียกร้องให้นายสมัคร ลาออกและยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
กำลังโหลดความคิดเห็น