ศูนย์ข่าวภาคเหนือ – กลุ่มทุนท่องเที่ยวเมืองพ่อขุนฯ เสนอ 3 แผน พร้อมทฤษฎี 3:5:5 ฟื้นการท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือ เริ่มจากดันทัวร์รอบเชียงราย – รอบภาคเหนือ – รอบจีเอ็มเอส หวั่นหลังถนนเชื่อมไทย – ลาว-จีน สมบูรณ์ 100%แล้วถูกทุนต่างถิ่น-ต่างชาติชิงเค้ก เผยเคยเสนอ “หมัก” แล้ว แต่ยังเงียบเป็นเป่าสากจนถึงวันนี้
นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด,นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะที่เชียงรายก็ได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากภาวะเศรษฐกิจ น้ำมันราคาแพง และช่วงโลว์ซีซัน เช่นเดียวกับจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นได้
แม้ว่าเมื่อคราวที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางมารับฟังปัญหาการท่องเที่ยวของภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางสมาคมได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา รวมทั้งแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดภาคเหนือไปแล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐใด ๆ ทั้งสิ้น
“ทุกอย่างยังเงียบ”
นายสมเกียรติ บอกว่า แนวทางที่สมาคมฯ นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีก็คือ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ขึ้นมา ลดความซ้ำซากจำเจของการท่องเที่ยว ที่เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่อการท่องเที่ยวทุกวันนี้
โครงการที่นำเสนอมีอยู่ 3 โครงการ คือ โครงการอราวด์เชียงราย ซึ่งปัจจุบันมีถนนเป็นวงแหวนรอบเชียงรายภายใน 1 วัน แต่ขาดเพียงประมาณ 9 กิโลเมตรระหว่าง ต.วาวี-อ.แม่สรวย ไปยังหมู่บ้านแม่สลัก ต.ห้วยชมพู อ.เมือง เท่านั้นก็จะสามารถขับเคลื่อนได้ ,โครงการอราวด์ภาคเหนือ 17 จังหวัด โครงการอราวด์ล้านนา 8 จังหวัด และโครงการอราวด์จีเอ็มเอส หรือกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะการที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมกลุ่มจีเอ็มเอส ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย จะแล้วเสร็จในปี 2554 ซึ่งจะทำให้อราวด์จีเอ็มเอสครบวงจรมากยิ่งขึ้น
เขาเชื่อมั่นว่า ถ้าโครงการเหล่านี้สำเร็จจะกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้ง 8 จังหวัด ตามที่เป็นปัญหาได้ เพราะปัญหาส่วนหนึ่งที่คนไม่ไปเที่ยวคือไม่สามารถเดินทางไปแล้วได้เที่ยวครบทุกจุด เพราะไม่มีคนพาไปเที่ยว ไม่มีการส่งเสริมการขาย เอกชนก็ไม่ได้พาไปให้ครบเพราะโปรแกรมส่วนใหญ่เขียนโดยเอกชนนำเที่ยวรายใหญ่ ที่มาจากส่วนกลางและต่างประเทศ ภาคธุรกิจท้องถิ่นไม่สามารถกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวได้เลย
สำหรับโครงการเหล่านี้มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ถึง 3 กลุ่ม คือ นักท่องเที่ยวคนไทย นักท่องเที่ยวคนจีน และนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นายสมเกียรติ บอกว่า ในส่วนของเชียงราย โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งจังหวัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมฯ คาดว่าจะต้องทำได้ โดยใช้สูตรส่งเสริมการท่องเที่ยว 3:5:5 สามแรกคือมี "แบ็ก" หรือมีคนที่สนับสนุนคือภาครัฐ "บุ๋น" คือมีนักวิชาการในสมาคมท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ "บู๊" คือผู้ประกอบการที่พร้อมลุยอย่างเข้มแข็ง
ส่วนห้าแรกคือการรวบรวม "เจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว ชุมชน ผู้ประกอบการ ผู้ชำนาญการ และนักวิชาการ" ให้มีจุดยืนในการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน
และห้าหลังคือการพัฒนาไปสู่บันไดห้าขั้น คือ รวมกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง จัดกลุ่มธุรกิจทำคลัสเตอร์ จัดทำสินค้า ทดสอบสินค้า และนำสินค้าออกจำหน่าย
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า วันนี้ภาคการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในท้องถิ่นเชียงราย – ภาคเหนือ ต้องเร่งพัฒนาตนเองมากขึ้น เพราะเมื่อถนนอาร์สามเอ ไทย-สปป.ลาว-จีน แล้วเสร็จ และการคมนาคมทุกอย่างสะดวกมากขึ้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งจากส่วนกลางหรือกรุงเทพฯ และประเทศจีน จะเข้ามามากขึ้น เพราะแค่เช่าสำนักงานอยู่ที่เชียงราย และใช้เพียงโทรศัพท์ ก็สามารถทำธุรกิจท่องเที่ยวนำหน้านักธุรกิจท้องถิ่นในพื้นที่ได้แล้ว
