พันธมิตรฯทั่วประเทศเคลื่อนทัพอีกรอบทั้งนำกำลังเข้า กทม.ร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯไล่รัฐบาลชั่วที่ทำเนียบฯ และปิดสนามบินหาดใหญ่หาก 9 แกนนำถูกจับกุมภายหลังรัฐตำรวจ "ในระบอบรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ" ขออนุมัติหมายจับ ลั่นพร้อมสู้ยิบตา เชื่อหาก 9 แกนนำถูกจับกุมมวลชนทั่ว ปท.ทะลักเข้ากรุงร่วมชุมนุมจนถึงที่สุดแน่ "นักธุรกิจ ตอ." ไล่"สมัคร" หมดความสง่างามบริหารประเทศและถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาตนเองแล้ว จี้เลิกอ้างตนเป็นผู้มาจากการเลือกแต่ต้องย้อนดูว่าเหตุใดประชาชนจึงเกลียดชังมากขึ้นทุกวัน
เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ ได้มีการเคลื่อนไหวระดมกำลังประชาชนครั้งใหญ่เข้ากรุงเทพฯอีกครั้ง หากรัฐตำรวจภายใต้ระบอบรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงชัย นายสุริยะใส กตะศิลา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายเทิดภูมิ ใจดี ซึ่งกรณีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นส.ส.อยู่ในสมัยประชุมสภา จึงเป็นผู้มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง พนักงานสอบสวนจึงต้องให้เกียรติในส่วนนี้ ไม่สามารถจับกุมได้ตามหมายจับ นอกจากนี้ในบางพื้นที่ เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็จะมีการปิดสนามบินหาดใหญ่ทันทีด้วย
จากกรณ๊ดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ข่าวหาดใหญ่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 ส.ค.) ว่า ภายหลังจากมีการอนุมัติออกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ กลุ่มพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคณาจารย์ นักศึกษา มอ.และประชาชนกว่า 200 คนก็ได้ไปปักหลักชุมนุมอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าท่าอากาศยานหาดใหญ่ ทันที แต่ไม่ได้ทำการปิดกั้นประตูทางเข้าสนามบินแต่อย่างใด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. และทหาร กว่า 100 นาย ตรึงกำลังอยู่ที่ประตูทางเข้าสนามบินหาดใหญ่
โดยมีแกนนำทยอยกันขึ้นปราศรัย บนรถกระบะที่ติดตั้งเครื่องเสียงโดยมีนายบรรจง นะแส แกนนำ NGO ภาคใต้ นายประโชติ อินทร์ภาวร นักวิชาการ มอ.ได้มีข้อแถลงการณ์ ไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ และให้กำลังใจกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าหากมีการใช้ความรุ่นแรงและจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ ทางกลุ่มพันธมิตรฯสงขลาก็จะมีการปิดสนามบินหาดใหญ่ทันที
นอกจากนี้ ก็จะมีการนำกำลังประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เดินทางเข้าสมทบกับพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมอย่างยึดเยื้อขับไล่รัฐบาลชั่วด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ขณะนี้กลุ่มประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ หลังทราบข่าวดังกล่าวก็ได้มีการรวมตัวกันเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงในเช้าวันนี้ (28 ส.ค.)
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันนอก รวมทั้งภาคตะวันตก ก็ได้มีการเคลื่อนไหวของมวลชนครั้งใหญ่เพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯเช่นกันทันทีที่มีการจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ
พันธมิตรฯเหนือล่างลั่นสู้ยิบตา
นายสุวัฒน์ วัฒนศิริเลขาธิปการ สปท.ภาคเหนือ แกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร และชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนพร้อมสมาชิกพันธมิตรฯกำแพงเพชรไม่น้อยกว่า 4-5 คันรถ กำลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อสมทบการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ ขับไล่รัฐบาลนายสมัคร จนถึงที่สุด และถ้าหากรัฐตำรวจ เข้าไปจับกุมแกนนำก็ต้องถามประชาชนที่ร่วมชุมนุมก่อนว่ายอมหรือไม่ด้วย ซึ่งไม่ว่าแกนนำจะยอมให้จับหรือไม่ก็ต้องถามประชาชนก่อน โดยถ้าหากประชาชนไม่ยอมก็จะต้องเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น ต้องถามว่า รัฐบาลพร้อมที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่
นายสมเกียรติ โสภณพงษ์พิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรฯพิจิตร กล่าวว่า หากมีการจับกุมแกนนำ เชื่อว่าจะเป็นชนวนทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะประชาชนที่ร่วมชุมนุมอยู่จะไม่ยอมอยู่ภายใต้รัฐตำรวจอีกต่อไป รวมถึงมวลชนเครือข่ายในต่างจังหวัด ที่กำลังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ก็จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการเกิดเหตุวุ่นวายอย่างเลี่ยงไม่พ้น และรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ โดยล่าสุดพันธมิตรฯเหนือล่าง ทุกจุดกำลังมุ่งหน้าเข้าสมทบการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ อย่างต่อเนื่องแล้ว
พธม.ใต้เตรียมยกทัพเข้ากรุงอีก
นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในทุกจังหวัดของภาคใต้ประสานงานกันเพื่อรวบรวมกำลังคนให้มากที่สุด และจะเร่งเดินทางไปยังกรุงเทพฯเพื่อสนับสนุนการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯให้มากที่สุด โดยส่วนหนึ่งได้เดินทางไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และอีกส่วนหนึ่งได้เดินทางไปเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) คาดว่าจะถึงในช่วงรุ่งสางของวันนี้ (28 ส.ค.) และจะเข้าสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ปักหลักชุมนุมในทำเนียบฯอยู่แล้วทันที โดยคาดว่ากำลังเสริมชุดหลังนี้จะมีเป็นจำนวนมากขึ้น"ทราบว่าพันธมิตรฯในหลายจังหวัดทั่วประเทศก็ได้ระดมพลเช่นเดียวกัน คาดว่าจะไม่น้อยกว่าเรือนแสน ที่จะเข้าสมทบกับพันธมิตรฯที่อยู่ในทำเนียบฯขณะนี้ ซึ่งทุกสายจะเดินทางไปถึงพร้อมกันในเช้าวันที่ 28 ส.ค.เป็นอย่างช้า" นายโอสถ กล่าว
พธม.ชลบุรีระดมเข้ากรุงทุกวัน
นายประสิทธิ์ กาลานุกาล แกนนำพันธมิตรฯชลบุรี กล่าวว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯชลบุรี พร้อมให้การสนับสนุนการชุมนุมร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ ทุกวัน เพราะในช่วงนี้ถือว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียด จึงต้องมีผู้เข้าไปร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าจะกระทำอะไรรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ
สำหรับพันธมิตรฯชลบุรีได้จัดรถให้บริการพันธมิตรฯที่จะเดินทางเข้าไปยังส่วนกลาง โดยสามารถขึ้นรถฟรีได้ที่บริเวณหน้าวัดจีน (จุดเดิม) ซึ่งรถจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ดังนั้นพันธมิตรฯคนใดจะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯก็สามารถไปขึ้นรถได้ทันที
นางรัตนา อ่องสมบัติ แกนนำพันธมิตรฯพัทยา-นาเกลือ กล่าวว่า สำหรับที่พัทยา-นาเกลือ มีรถให้บริการเช่นกันโดยจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ (28 ส.ค.) ซึ่งมี 2-3 จุดที่ให้บริการ เช่น วัดชัยมงคล และหน้าเมืองพัทยา โดยใครจะร่วมเดินทาง ก็ประสานกับผู้ประสานงานคนเดิมได้ตลอดเวลา ซึ่งในวันนี้ทางแกนนำประสานรถได้ไม่ทัน จึงให้บริการในวันพรุ่งนี้แทน
นักธุรกิจภาค ตอ.จี้หมักลาออก
นางโสภิญ เทพจักร กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจในกลุ่มโรงแรมเครือไดอานากุร๊ป เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวว่า การที่ประชาชนจากทั่วประเทศลุกฮือขับไล่นายสมัคร เป็นเพราะหมดความอดทนหลังต้องอดกลั้นมานานกับการบริหารประเทศที่ไร้คุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งตนได้ติดตามการถ่ายทอดสัญญาณเอเอสทีวีมาโดยตลอดและขอชื่นชมประชาชน่จำนวนมากที่เข้าร่วมการชุมนุม เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง
"ถึงวันนี้คุณสมัคร ควรเลิกอ้างได้แล้วว่าตนเองและรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องย้อนกลับมาดูว่าที่ผ่านมาบริหารประเทศกันอย่างไรจึงทำให้ประชาชนเกลียดชังมากขึ้นทุกวันอย่างนี้ และวันนี้ต้องขอบอกว่าถึงเวลาแล้วที่คุณสมัคร และรัฐบาล ต้องพิจารณาตัวเองว่าจะทำอย่างไรกับปัญหาทางการเมือง และหากมั่นใจว่าทำดีจริงจะกลัวอะไรกับการที่จะไม่ได้กลับมาบริหารประเทศอีก" นางโสภิญ กล่าว
นายวันชัย เกียรติดำรงวงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า นายสมัคร ควรเสียสละเพื่อประเทศชาติด้วยการลาออกจากตำแหน่งและต้องยอมรับว่าตนเอง คือ ตัวปัญหาของประเทศชาติที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ความวุ่นวายในประเทศก็จะไม่จบสิ้น เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อเดินหน้าที่จะขับไล่แล้วก็คงจะไม่ยอมยุติง่ายๆ ที่สำคัญหากมีการออกหมายจับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯก็จะเกิดขบวนการขับไล่ทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งสุดท้ายปัญหาก็จะไม่จบ นอกจากนั้นทหาร น่าจะมีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่เพราะหากทหารไม่ยอมที่จะสนับสนุนรัฐบาล ทั้งนายสมัครและรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้
"ผมมองว่า นายสมัคร ยังไงก็คงไม่ยอมออกจากตำแหน่ง สิ่งที่จะทำได้ในฐานะประชาชนคนหนึ่งก็คือเรียกร้องให้เขานึกถึงประเทศชาติบ้างและน่าจะรู้ตัวเองนานแล้วว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเขาจริงๆ ส่วนทหารนั้นผมมองว่า ทหารเองก็คงจะไม่ได้สนับสนุนรัฐบาลสักเท่าใด แต่ที่ยังไม่ทำอะไรก็เพราะสถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอจึงไม่มีเหตุที่จะออกมาซึ่งก็คงต้องรอดูกันอีก 1-2 วันว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร" นายวันชัย กล่าว
ด้านนายปราโมช ร่วมสุข ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี เผยหากตนเป็นนายสมัคร จะลาออกตั้งแต่โดนขับไล่ครั้งแรก เพื่อแสดงถึงความมีสปิริตทางการเมือง เพราะเมื่อประเทศชาติมีปัญหาจากการบริหารนโยบายทางการเมืองของตนก็ต้องพร้อมที่จะยอมรับ ไม่ใช่ดำเนินโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงข้อกฎหมายและผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับ
"ปัญหาก็คือคุณสมัคร เป็นคนที่ดื้อรั้นและไม่คำนึงว่าประเทศชาติหรือประชาชนจะเสียหายอย่างไร ยึดถืออย่างเดียวว่าตัวเองจะต้องชนะ ผมไม่ได้เข้าข้างพันธมิตรฯ แต่ก็เห็นว่านโยบายการบริหารประเทศหลายอย่างของคุณสมัคร ไม่ต่างอะไรจากอดีตนายกฯ ที่เร่งออกโครงการไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ข้อกฎหมายภายหลังซึ่งมันทำแบบนั้นไม่ได้ ทางที่ดีคุณสมัคร หากไม่อยากเสียหน้าที่จะลาออกจากตำแหน่งก็ควรที่จะยุบสภา และปล่อยให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ไม่ควรดื้อดึงจนสร้างความเสียหายให้กับประเทศเช่นนี้" นายปราโมช กล่าว
พธม.บุรีรัมย์ลั่นไม่กลัว"สัตว์นรก"
นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์จากหลายอำเภอได้เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯกว่า 1,000 คนแล้ว
"ทุกคนพร้อมเสียสละร่วมต่อสู้กับประชาชนพันธมิตรฯจากทั่วประเทศอย่างถึงที่สุด ไม่มีท้อถอย หรือหวั่นไหวแม้แต่น้อย แม้ฝ่ายรัฐบาสัตว์นรกจะทำทุกวิถีทางในการทำร้ายทำลาย ใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรงเข้าล้อมปราบสลายการชุมนุมของประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เหนือสิ่งอื่นใดก็ตาม" นายสำเนียง กล่าว
แฉใบสั่งรัฐเกณฑ์คนเข้ากรุง
ด้านแหล่งข่าวในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีใบสั่งจากรัฐบาลโดยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศจัดส่งชาวบ้านเข้าไปร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในวันที่ 30 ส.ค.ที่จะถึงนี้ โดยในแต่ละจังหวัดจะมีประชาชนเดินทางเข้าไปมากกว่าจังหวัดละ 1,000 คนเนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละจังหวัดจะมีมากกว่า 150 แห่งทั้งเทศบาล อบต.เทศบาลตำบล
"กรณีการเกณฑ์คนเข้าไปสมทบท่ามกลางสถานการณ์ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มองได้ถึงกระบวนการสร้างสถานการณ์เพื่อนำพาให้เกิดความรุนแรงในทุกกรณี ทั้งนี้ ส่วนใหญ่การเกณฑ์ตัวแทนจาก ท้องถิ่นเข้าไปจะเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจับตาว่า การเคลื่อนพลเข้ากรุงด้วยการอ้างกิจกรรมนี้ จะเป็นการสร้างสถานการณ์ไปสู่กระบวนการสร้างความรุนแรงหรือไม่ ในเรื่องนี้จึงต้องการให้กลุ่มพันธมิตรทั่วประเทศได้เตรียมการรับมือ เป็นการด่วน"
ผู้ว่าฯโคราชสั่งสกัดคนเข้ากรุง
นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยหลังรับมอบนโยบายจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ว่า ในส่วนนโยบายสำคัญที่มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ดูแลมวลชนไม่ให้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯนั้น ล่าสุดตนได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ให้สั่งการต่อไปยังทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง รวมถึงผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบในพื้นที่ของตัวเอง
พร้อมชี้แจ้งให้ประชาชนทราบว่า ทางรัฐบาลจะมีการจัดงานพระราชพิธีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทำเนียบฯในวันที่ 30 ส.ค.นี้ หากมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯก็จะเป็นอุปสรรคทำให้ไม่สามารถจัดงานดังกล่าวได้ ฉะนั้นจึงอยากให้ประชาชนเข้าใจในส่วนนี้
เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ ได้มีการเคลื่อนไหวระดมกำลังประชาชนครั้งใหญ่เข้ากรุงเทพฯอีกครั้ง หากรัฐตำรวจภายใต้ระบอบรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงชัย นายสุริยะใส กตะศิลา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายเทิดภูมิ ใจดี ซึ่งกรณีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นส.ส.อยู่ในสมัยประชุมสภา จึงเป็นผู้มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง พนักงานสอบสวนจึงต้องให้เกียรติในส่วนนี้ ไม่สามารถจับกุมได้ตามหมายจับ นอกจากนี้ในบางพื้นที่ เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็จะมีการปิดสนามบินหาดใหญ่ทันทีด้วย
จากกรณ๊ดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ข่าวหาดใหญ่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 ส.ค.) ว่า ภายหลังจากมีการอนุมัติออกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ กลุ่มพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคณาจารย์ นักศึกษา มอ.และประชาชนกว่า 200 คนก็ได้ไปปักหลักชุมนุมอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าท่าอากาศยานหาดใหญ่ ทันที แต่ไม่ได้ทำการปิดกั้นประตูทางเข้าสนามบินแต่อย่างใด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. และทหาร กว่า 100 นาย ตรึงกำลังอยู่ที่ประตูทางเข้าสนามบินหาดใหญ่
โดยมีแกนนำทยอยกันขึ้นปราศรัย บนรถกระบะที่ติดตั้งเครื่องเสียงโดยมีนายบรรจง นะแส แกนนำ NGO ภาคใต้ นายประโชติ อินทร์ภาวร นักวิชาการ มอ.ได้มีข้อแถลงการณ์ ไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ และให้กำลังใจกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าหากมีการใช้ความรุ่นแรงและจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ ทางกลุ่มพันธมิตรฯสงขลาก็จะมีการปิดสนามบินหาดใหญ่ทันที
นอกจากนี้ ก็จะมีการนำกำลังประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เดินทางเข้าสมทบกับพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมอย่างยึดเยื้อขับไล่รัฐบาลชั่วด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ขณะนี้กลุ่มประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ หลังทราบข่าวดังกล่าวก็ได้มีการรวมตัวกันเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงในเช้าวันนี้ (28 ส.ค.)
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันนอก รวมทั้งภาคตะวันตก ก็ได้มีการเคลื่อนไหวของมวลชนครั้งใหญ่เพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯเช่นกันทันทีที่มีการจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ
พันธมิตรฯเหนือล่างลั่นสู้ยิบตา
นายสุวัฒน์ วัฒนศิริเลขาธิปการ สปท.ภาคเหนือ แกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร และชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนพร้อมสมาชิกพันธมิตรฯกำแพงเพชรไม่น้อยกว่า 4-5 คันรถ กำลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อสมทบการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ ขับไล่รัฐบาลนายสมัคร จนถึงที่สุด และถ้าหากรัฐตำรวจ เข้าไปจับกุมแกนนำก็ต้องถามประชาชนที่ร่วมชุมนุมก่อนว่ายอมหรือไม่ด้วย ซึ่งไม่ว่าแกนนำจะยอมให้จับหรือไม่ก็ต้องถามประชาชนก่อน โดยถ้าหากประชาชนไม่ยอมก็จะต้องเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น ต้องถามว่า รัฐบาลพร้อมที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่
นายสมเกียรติ โสภณพงษ์พิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรฯพิจิตร กล่าวว่า หากมีการจับกุมแกนนำ เชื่อว่าจะเป็นชนวนทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะประชาชนที่ร่วมชุมนุมอยู่จะไม่ยอมอยู่ภายใต้รัฐตำรวจอีกต่อไป รวมถึงมวลชนเครือข่ายในต่างจังหวัด ที่กำลังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ก็จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการเกิดเหตุวุ่นวายอย่างเลี่ยงไม่พ้น และรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ โดยล่าสุดพันธมิตรฯเหนือล่าง ทุกจุดกำลังมุ่งหน้าเข้าสมทบการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ อย่างต่อเนื่องแล้ว
พธม.ใต้เตรียมยกทัพเข้ากรุงอีก
นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในทุกจังหวัดของภาคใต้ประสานงานกันเพื่อรวบรวมกำลังคนให้มากที่สุด และจะเร่งเดินทางไปยังกรุงเทพฯเพื่อสนับสนุนการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯให้มากที่สุด โดยส่วนหนึ่งได้เดินทางไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และอีกส่วนหนึ่งได้เดินทางไปเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) คาดว่าจะถึงในช่วงรุ่งสางของวันนี้ (28 ส.ค.) และจะเข้าสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ปักหลักชุมนุมในทำเนียบฯอยู่แล้วทันที โดยคาดว่ากำลังเสริมชุดหลังนี้จะมีเป็นจำนวนมากขึ้น"ทราบว่าพันธมิตรฯในหลายจังหวัดทั่วประเทศก็ได้ระดมพลเช่นเดียวกัน คาดว่าจะไม่น้อยกว่าเรือนแสน ที่จะเข้าสมทบกับพันธมิตรฯที่อยู่ในทำเนียบฯขณะนี้ ซึ่งทุกสายจะเดินทางไปถึงพร้อมกันในเช้าวันที่ 28 ส.ค.เป็นอย่างช้า" นายโอสถ กล่าว
พธม.ชลบุรีระดมเข้ากรุงทุกวัน
นายประสิทธิ์ กาลานุกาล แกนนำพันธมิตรฯชลบุรี กล่าวว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯชลบุรี พร้อมให้การสนับสนุนการชุมนุมร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ ทุกวัน เพราะในช่วงนี้ถือว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียด จึงต้องมีผู้เข้าไปร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าจะกระทำอะไรรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ
สำหรับพันธมิตรฯชลบุรีได้จัดรถให้บริการพันธมิตรฯที่จะเดินทางเข้าไปยังส่วนกลาง โดยสามารถขึ้นรถฟรีได้ที่บริเวณหน้าวัดจีน (จุดเดิม) ซึ่งรถจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ดังนั้นพันธมิตรฯคนใดจะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯก็สามารถไปขึ้นรถได้ทันที
นางรัตนา อ่องสมบัติ แกนนำพันธมิตรฯพัทยา-นาเกลือ กล่าวว่า สำหรับที่พัทยา-นาเกลือ มีรถให้บริการเช่นกันโดยจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ (28 ส.ค.) ซึ่งมี 2-3 จุดที่ให้บริการ เช่น วัดชัยมงคล และหน้าเมืองพัทยา โดยใครจะร่วมเดินทาง ก็ประสานกับผู้ประสานงานคนเดิมได้ตลอดเวลา ซึ่งในวันนี้ทางแกนนำประสานรถได้ไม่ทัน จึงให้บริการในวันพรุ่งนี้แทน
นักธุรกิจภาค ตอ.จี้หมักลาออก
นางโสภิญ เทพจักร กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจในกลุ่มโรงแรมเครือไดอานากุร๊ป เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวว่า การที่ประชาชนจากทั่วประเทศลุกฮือขับไล่นายสมัคร เป็นเพราะหมดความอดทนหลังต้องอดกลั้นมานานกับการบริหารประเทศที่ไร้คุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งตนได้ติดตามการถ่ายทอดสัญญาณเอเอสทีวีมาโดยตลอดและขอชื่นชมประชาชน่จำนวนมากที่เข้าร่วมการชุมนุม เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง
"ถึงวันนี้คุณสมัคร ควรเลิกอ้างได้แล้วว่าตนเองและรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องย้อนกลับมาดูว่าที่ผ่านมาบริหารประเทศกันอย่างไรจึงทำให้ประชาชนเกลียดชังมากขึ้นทุกวันอย่างนี้ และวันนี้ต้องขอบอกว่าถึงเวลาแล้วที่คุณสมัคร และรัฐบาล ต้องพิจารณาตัวเองว่าจะทำอย่างไรกับปัญหาทางการเมือง และหากมั่นใจว่าทำดีจริงจะกลัวอะไรกับการที่จะไม่ได้กลับมาบริหารประเทศอีก" นางโสภิญ กล่าว
นายวันชัย เกียรติดำรงวงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า นายสมัคร ควรเสียสละเพื่อประเทศชาติด้วยการลาออกจากตำแหน่งและต้องยอมรับว่าตนเอง คือ ตัวปัญหาของประเทศชาติที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ความวุ่นวายในประเทศก็จะไม่จบสิ้น เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อเดินหน้าที่จะขับไล่แล้วก็คงจะไม่ยอมยุติง่ายๆ ที่สำคัญหากมีการออกหมายจับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯก็จะเกิดขบวนการขับไล่ทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งสุดท้ายปัญหาก็จะไม่จบ นอกจากนั้นทหาร น่าจะมีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่เพราะหากทหารไม่ยอมที่จะสนับสนุนรัฐบาล ทั้งนายสมัครและรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้
"ผมมองว่า นายสมัคร ยังไงก็คงไม่ยอมออกจากตำแหน่ง สิ่งที่จะทำได้ในฐานะประชาชนคนหนึ่งก็คือเรียกร้องให้เขานึกถึงประเทศชาติบ้างและน่าจะรู้ตัวเองนานแล้วว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเขาจริงๆ ส่วนทหารนั้นผมมองว่า ทหารเองก็คงจะไม่ได้สนับสนุนรัฐบาลสักเท่าใด แต่ที่ยังไม่ทำอะไรก็เพราะสถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอจึงไม่มีเหตุที่จะออกมาซึ่งก็คงต้องรอดูกันอีก 1-2 วันว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร" นายวันชัย กล่าว
ด้านนายปราโมช ร่วมสุข ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี เผยหากตนเป็นนายสมัคร จะลาออกตั้งแต่โดนขับไล่ครั้งแรก เพื่อแสดงถึงความมีสปิริตทางการเมือง เพราะเมื่อประเทศชาติมีปัญหาจากการบริหารนโยบายทางการเมืองของตนก็ต้องพร้อมที่จะยอมรับ ไม่ใช่ดำเนินโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงข้อกฎหมายและผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับ
"ปัญหาก็คือคุณสมัคร เป็นคนที่ดื้อรั้นและไม่คำนึงว่าประเทศชาติหรือประชาชนจะเสียหายอย่างไร ยึดถืออย่างเดียวว่าตัวเองจะต้องชนะ ผมไม่ได้เข้าข้างพันธมิตรฯ แต่ก็เห็นว่านโยบายการบริหารประเทศหลายอย่างของคุณสมัคร ไม่ต่างอะไรจากอดีตนายกฯ ที่เร่งออกโครงการไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ข้อกฎหมายภายหลังซึ่งมันทำแบบนั้นไม่ได้ ทางที่ดีคุณสมัคร หากไม่อยากเสียหน้าที่จะลาออกจากตำแหน่งก็ควรที่จะยุบสภา และปล่อยให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ไม่ควรดื้อดึงจนสร้างความเสียหายให้กับประเทศเช่นนี้" นายปราโมช กล่าว
พธม.บุรีรัมย์ลั่นไม่กลัว"สัตว์นรก"
นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์จากหลายอำเภอได้เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯกว่า 1,000 คนแล้ว
"ทุกคนพร้อมเสียสละร่วมต่อสู้กับประชาชนพันธมิตรฯจากทั่วประเทศอย่างถึงที่สุด ไม่มีท้อถอย หรือหวั่นไหวแม้แต่น้อย แม้ฝ่ายรัฐบาสัตว์นรกจะทำทุกวิถีทางในการทำร้ายทำลาย ใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรงเข้าล้อมปราบสลายการชุมนุมของประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เหนือสิ่งอื่นใดก็ตาม" นายสำเนียง กล่าว
แฉใบสั่งรัฐเกณฑ์คนเข้ากรุง
ด้านแหล่งข่าวในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีใบสั่งจากรัฐบาลโดยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศจัดส่งชาวบ้านเข้าไปร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในวันที่ 30 ส.ค.ที่จะถึงนี้ โดยในแต่ละจังหวัดจะมีประชาชนเดินทางเข้าไปมากกว่าจังหวัดละ 1,000 คนเนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละจังหวัดจะมีมากกว่า 150 แห่งทั้งเทศบาล อบต.เทศบาลตำบล
"กรณีการเกณฑ์คนเข้าไปสมทบท่ามกลางสถานการณ์ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มองได้ถึงกระบวนการสร้างสถานการณ์เพื่อนำพาให้เกิดความรุนแรงในทุกกรณี ทั้งนี้ ส่วนใหญ่การเกณฑ์ตัวแทนจาก ท้องถิ่นเข้าไปจะเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจับตาว่า การเคลื่อนพลเข้ากรุงด้วยการอ้างกิจกรรมนี้ จะเป็นการสร้างสถานการณ์ไปสู่กระบวนการสร้างความรุนแรงหรือไม่ ในเรื่องนี้จึงต้องการให้กลุ่มพันธมิตรทั่วประเทศได้เตรียมการรับมือ เป็นการด่วน"
ผู้ว่าฯโคราชสั่งสกัดคนเข้ากรุง
นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยหลังรับมอบนโยบายจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ว่า ในส่วนนโยบายสำคัญที่มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ดูแลมวลชนไม่ให้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯนั้น ล่าสุดตนได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ให้สั่งการต่อไปยังทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง รวมถึงผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบในพื้นที่ของตัวเอง
พร้อมชี้แจ้งให้ประชาชนทราบว่า ทางรัฐบาลจะมีการจัดงานพระราชพิธีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทำเนียบฯในวันที่ 30 ส.ค.นี้ หากมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯก็จะเป็นอุปสรรคทำให้ไม่สามารถจัดงานดังกล่าวได้ ฉะนั้นจึงอยากให้ประชาชนเข้าใจในส่วนนี้