xs
xsm
sm
md
lg

รัฐตำรวจชิมลางตำราโหด อ้างสับเปลี่ยนกำลังไล่ตีพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐตำรวจเริ่มปฏิบัติการงัดตำราโหดออกมาสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ อ้างการสับเปลี่ยนกำลัง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือพยายามบุกเข้าทำเนียบ จนถูกการ์ดและมวลชนพันธมิตรฯ สกัดกั้น จึงฉวยโอกาสใช้กระบองไล่ตีผู้ชุมนุมพันธมิตรฯเลือดอาบจำนวนมาก

ภายหลังจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้เป็นคนจัดการกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อตกถึงช่วงกลางคืน ปฏิบัติการความที่จะสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้เริ่มขึ้น

เวลา 03.00น. ของวันพุธที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างตึงเครียดและมีเหตุปะทะกันเล็กน้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ตำรวจตระเวนชายแดนประมาณ 4 กองร้อย กว่า 1,000 นาย พยายามบุกเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล ทางประตู4 ถนนพิษณุโลก บริเวณตรงข้ามสำนักงานป.ป.ช. จนเกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มรักษาความปลอดภัยพันธมิตรฯ(การ์ดพันธมิตร)ที่ป้องกันไม่ให้ตำรวจเข้ามา แต่ตำรวจที่พร้อมอุปกรณ์สลายการชุมนุมครบมือ ทั้งโล่ กระบอง ได้ใช้กระบองตีกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯที่ขัดขวาง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้เปิดประตูให้ตำรวจปราบจราจลกรูเข้าไปในทำเนียบสำเร็จ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายได้ถืออุปกรณ์ลักษณะคล้ายเครื่องยิงแก๊สน้ำตา คอยตรึงกำลังอยู่ด้านหลังด้วย เหตุปะทะกับกลุ่มการ์ดพันธมิตรจนได้รับบาดเจ็บนั้นส่งผลให้ฝ่ายพันธมิตรหัวแตกเลือดท่วมนับ10 คน

โดยอาสาสมัครเจ้าหน้าที่พยาบาลฝ่ายพันธมิตรฯต้องเร่งปฐมพยาบาลเป็นการด่วน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าต้องการเข้ามาสับเปลี่ยนกำลัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 4 กองร้อยพากันกรูเข้ามาตั้งแนวหน้ากระดาน ประมาณ 5 แถว ด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้าและตักสันติไมตรี ซึ่งอยู่ติดกับประตู 4 ส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก เนื่องจากบริเวณด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้าที่อยู่ใกล้เคียงกับตึกสันติไมตรี โดยพื้นที่ตรงกลางทั้ง2ตึกเป็นทางเชื่อมที่ทะลุไปยังบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าได้ซึ่งมีผู้ชุมนุมนับหมื่นคน ที่ปักหลักชุมนุมตลอดทั้งคืนอย่างแน่นหนา

ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ทำให้พันธมิตรนำแผงเหล็กตั้งแนวรั้วขวางกั้น ช่องทางที่สามารถทะลุมาด้านหน้าได้ โดยขออาสาสมัครพันธมิตรฯ ปราศจากอาวุธนั่งลงตั้งแนวกั้นหน้ากระดานเกือบ 10 แถว ประจันหน้าตำรวจที่อาวุธครบมือ เพียงแค่แนวเหล็กกั้นเท่านั้น

จากนั้นพล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รองผบช.น. ได้เข้ามาเจรจากับนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ โดยพล.ต.ต.สุชาติ ชี้แจงผ่านโทรโข่งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้ามาเพื่อสลายการชุมนุมของให้พี่น้องประชาชนไว้ใจได้ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในทำเนียบทำงานมากว่า 24-30ชม.แล้วจึงเข้ามาสลับสับเปลี่ยนกำลังตามปกติ

ช่วงที่มีเหตุการณ์วุ่นวายพล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯขึ้นพูดบนรถขยายเสียงเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ นั่งลง หากตำรวจจะมาสลายการชุมนุมขอให้พวกเรานั่งนิ่งๆ

เช่นเดียวกับนายพิชิต ไชยมงคล อดีตเลขาธิการสนนท.และโฆษกบนเวทีพันธมิตรฯ ได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมใจเย็นพร้อมทั้งชี้แจงขั้นตอนหากตำรวจจะสลายการชุมนุมต้องขอเจรจาก่อน เพราะเหตุการณ์ที่ตำรวจสลายการชุมนุมที่จ.สงขลาเมื่อปี2545 นั้น มีคำพิพากษาออกมาแล้วให้ตำรวจจ่ายค่าเสียหายจากการสลายผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บคนละ 1 หมื่นบาท จากนั้นบรรยากาศบนเวทีได้เปิดเพลงสลับกับการเล่นดนตรีผ่อนคลายบรรยากาศอันตึงเครียด

ช่วงเวลาตั้งแต่ 4.00 น.เป็นต้นมา บรรยากาศยังเป็นไปอย่างตรึงเครียด เนื่องจากพันธมิตรฯเกรงว่าตำรวจอาจใช้มาตรการเด็ดขาดสลายการชุมนุม และเป็นที่น่าสังเกตว่าภายในตึกสันติไมตรี ที่เป็นตึกขนาดใหญ่ชั้นเดียวและมีประตูรายล้อมทั่วทั้งตึกกว่า 20 บานมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ มีการดับไฟมืดมิด และมีกลุ่มคนที่อยู่ข้างในดึงม่านกั้นประตูและหน้าต่างอย่างผิดสังเกต ทำให้อาสาสมัครพันธมิตรฯพร้อมใจนำท่อนไม้ไปขัดที่เปิดประตูจากภายนอกของประตูที่ติดกันทั้ง2บาน ทำให้ไม่สามารถเปิดจากข้างในออกสู่ด้านนอกได้

และในเวลาประมาณ 6.00น. บรรยากาศที่ตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง โดยพล.ต.จำลอง ขึ้นประกาศชัยชนะบนเวทีอีกครั้งหลังจากปักหลักที่ทำเนียบได้1คืน
กำลังโหลดความคิดเห็น