พธม.สงขลา-ภูเก็ตติดหมายจับ‘แม้ว-อ้อ’

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่/ภูเก็ต - เครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้พร้อมด้วยคณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ออกจัดกิจกรรม ‘ดนตรีเพื่อชีวิต พันธมิตรสัญจร’ พร้อมนำป้ายประกาศหมายจับ ‘แม้ว-อ้อ’ ติดประจาน ชาวบ้านต้อนรับคึกคัก ด้านเวทีคู่ขนานพันธมิตรฯภูเก็ตที่ปลายแหลมสะพานหินก็ยังเดินหน้าถ่ายทอดสด ASTV ต่อเนื่อง พร้อมนำภาพป้ายหมายจับ "แม้ว-อ้อ" ขนาดใหญ่มาติดหน้าเต็นท์อำนวยการเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ข่าวหาดใหญ่ว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ พร้อมด้วยคณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตยยังคงออกพื้นที่จัดกิจกรรม ‘ดนตรีเพื่อชีวิต พันธมิตรสัญจร’ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบกิจกรรมจะเป็นการแสดงดนตรีของเครือข่ายศิลปินพันธมิตรประกอบด้วย ‘แสง ธรรมดา’ ‘วงยิปซีเล’ และ ‘วง ฅ.คนกู้ชาติ’ สลับกับการปราศรัยให้ความรู้แก่ประชาชน โดยคณะทำงานพันธมิตรสงขลา

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ พร้อมด้วยคณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกจัดกิจกรรมดังกล่าวในบริเวณหน้าโรงเรียนวชิราโปลีเทคนิค ถ.วชิรา เขตเทศบาลนครสงขลา โดยทางทีมงานได้นำป้ายประกาศจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ไปติดไว้ด้วย ซึ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประชาชนที่สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว

ส่วนวานนี้ (20 ส.ค.) เครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ พร้อมด้วยคณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกจัดกิจกรรม ‘ดนตรีเพื่อชีวิต พันธมิตรสัญจร’ ที่เอสพีแมนชั่น ย่านตลาดสดเขตเทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจทยอยเดินทางมาร่วมจำนวนมาก โดยการจัดการครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15

ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการนำป้ายประกาศจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มาติดภายในบริเวณที่มีการจัดกิจกรรมด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมอย่างมาก

แสงธรรมดา กิตติเสถียรพร หรือ ‘แสง ธรรมดา’ ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังของภาคใต้ ในฐานะแกนนำเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ กล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับการติดป้ายประกาศหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานว่า หมายจับที่เรานำมาติดให้ประชาชนดูในครั้งนี้ เป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก จนกลายเป็นความไม่พอใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องส่งคนไปแจ้งความดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คือผู้ต้องหาที่หนีคดีจริงๆ และเป็นที่ต้องการของทางราชการที่จะต้องนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ คณะทำงานพันธมิตรฯสงขลา กล่าวถึงการจัดเวทีที่ อ.สะเดาในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการกระจายข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับรู้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่มี ASTV ดู ซึ่งพันธมิตรฯสงขลาจะมีการจัดกิจกรรมอย่างนี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

“ที่ผ่านมากิจกรรมของเราได้รับความสนใจจากประชาชนในแต่ละพื้นที่อย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มี ASTV ดู และต้องยอมรับว่า ASTV ขณะนี้มีอิทธิพลมากในการปลุกกระแสมวลชน และให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ถูกปิดหูปิดตามานานได้รับรู้ข้อเท็จจริงว่าที่ผ่านมานั้นตั้งแต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จนมาถึงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้บริหารประเทศไปในทางที่ไม่โปร่งใสอย่างไรบ้าง” นายสาโรจน์ กล่าว

ด้านนายสุพิเชษฐ์ สุวรรณชาตรี คณะทำงานพันธมิตรฯสงขลาอีกคนหนึ่ง กล่าวย้ำว่า ในวันที่ 25 ส.ค.ที่จะถึงนี้พันธมิตรฯสงขลา จะจัดเวที “ติดอาวุธทางปัญญา เตรียมความพร้อมมวลชน ก่อนระดมพลชุมนุมใหญ่” ขึ้นที่ลานประวัติศาสตร์หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ โดยจะมีแกนนำและวิทยากรจากส่วนกลางร่วมปราศรัย ประกอบด้วยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสาวิตร แก้วหวาน, นายศิริชัย ไม้งาม, นายอมร อมรรัตนานนท์ ร่วมด้วยนักปราศรัยใน จ.สงขลา คือ นายบรรจง นะแส เป็นต้น โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป

ภูเก็ตก็ติดหมายจับ”แม้ว-อ้อ”

สำหรับการจัดเวทีคู่ขนานของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตและกลุ่มพันธมิตรจังหวัดภูเก็ตที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยังคงมีต่อเนื่อง และมีประชาชนเข้าร่วมชมการถ่ายทอดสดผ่าน ASTV จำนวนมากในแต่ละคืน ที่จัดให้มีการถ่ายทอดสดตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ที่บริเวณสถานที่จัดเวทีคู่ขนานของจังหวัดภูเก็ตได้นำภาพหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขนาดใหญ่มาติดตั้งที่บริเวณสถานที่ที่มีการจัดให้มีการถ่ายทอดสดด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่เข้าร่วมชมการถ่ายทอดสดเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของจานดาวเทียม ASTV เองก็ยังได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่เข้ามาติดต่อสอบถามเพื่อขอซื้อจำนวนมาก รวมทั้งเสื้อต่างๆ ที่มีการจัดจำหน่าย

ขณะที่การเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้นในส่วนของการเดินทางไปเป็นกลุ่มนั้นขณะนี้ยังไม่มี เนื่องจากทางกลุ่มรอความชัดเจนเกี่ยวกับการยื่นญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งที่เดินทางไปร่วมเวทีที่กรุงเทพฯด้วยตัวเองซึ่งมีทั้งเดินทางไปโดยรถส่วนตัวและทางเครื่องบิน โดยจะเดินทางกันในวันศุกร์และกลับวันอาทิตย์