เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงแห่งสิงคโปร์กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อคืนวันจันทร์ (18) ว่า รัฐบาลจะเพิ่มงบใช้จ่ายขึ้นอีกเท่าตัวในเรื่องมาตรการจูงใจให้ชาวสิงคโปร์มีลูกกันเพิ่มขึ้น เพราะจำนวนเด็กแรกเกิดลดต่ำลงอย่างน่าใจหายถึงเป็นภัยต่ออนาคตของประเทศ
เขากล่าวว่ามาตรการแรงจูงใจเหล่านี้มีอาทิ ขยายเวลาลาคลอดออกไป โดยรวมแล้วจะเป็นเงินงบประมาณกว่า 700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ "ซึ่งเป็นสองเท่าตัวของมาตรการแรงจูงใจให้มีบุตรที่รัฐบาลให้แต่เดิม"
"มาตรการเหล่านี้น่าจะทำให้คู่สมรสหลายคู่ตัดสินใจมีบุตร แต่ผมก็ไม่สามารถประกันได้ว่ามันจะแก้ไขปํญหาของเราได้ เนื่องจากปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่มากของประเทศ" ลีกล่าวในสุนทรพจน์ประจำปีของเขา
ตัวเลขของทางการระบุว่าอัตราเจริญพันธ์ของสิงคโปร์นั้นเท่ากับเด็กทารก 1.29 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ขณะที่อัตราปกติที่จะทำให้จำนวนประชากรคงที่เท่าเดิม คือ 2.1 หรือเด็กทารกสองคนต่อผู้หญิงหนึ่งคน
เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์มีประชากรราว 4.59 ล้านคน ซึ่งก็รวมทั้งชาวต่างชาติที่ไปทำงานที่นั่นรวมทั้งครอบครัวของพวกเขาด้วย
ลีประกาศว่าการลาคลอดซึ่งมารดาจะได้รับเงินเดือนอยู่นั้น จะขยายเวลาเป็น 16 สัปดาห์จากเดิม 12 สัปดาห์ นอกจากนี้ก็ยังมีวันลาหยุดโดยไม่ได้รับเงินเดือนอีกหากว่าพ่อแม่มือใหม่ต้องการอยู่บ้านดูแลลูกของตัวเองในช่วงที่ลูกอายุไม่เกินสองปี อีกทั้งรัฐบาลก็ยังจะเพิ่ม "เบบี้ โบนัส" หรือเงินที่จ่ายให้แก่ครอบครัวที่มีลูกคนแรก รวมทั้งให้แรงจูงใจทางด้านภาษีเพื่อกระตุ้นให้คุณแม่ยังคงไปทำงานอยู่
มาตรการก่อนหน้านี้ของรัฐบาลก็คือให้เงินสดเพื่อจูงใจแก่คู่สามีภรรยาให้มีลูกเกินสองคน ชักชวนให้ชาวต่างชาติมาเป็นพลเมืองมากขึ้น รวมทั้งผ่อนคลายการควบคุมการนำเสนอเรื่องที่เคยต้องห้ามมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องเซ็กซ์ เพื่อกระตุ้นการมีบุตร อย่างไรก็ตามแรงจูงใจเหล่านั้นก็ประสบความล้มเหลวมาตลอด
เขากล่าวว่ามาตรการแรงจูงใจเหล่านี้มีอาทิ ขยายเวลาลาคลอดออกไป โดยรวมแล้วจะเป็นเงินงบประมาณกว่า 700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ "ซึ่งเป็นสองเท่าตัวของมาตรการแรงจูงใจให้มีบุตรที่รัฐบาลให้แต่เดิม"
"มาตรการเหล่านี้น่าจะทำให้คู่สมรสหลายคู่ตัดสินใจมีบุตร แต่ผมก็ไม่สามารถประกันได้ว่ามันจะแก้ไขปํญหาของเราได้ เนื่องจากปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่มากของประเทศ" ลีกล่าวในสุนทรพจน์ประจำปีของเขา
ตัวเลขของทางการระบุว่าอัตราเจริญพันธ์ของสิงคโปร์นั้นเท่ากับเด็กทารก 1.29 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ขณะที่อัตราปกติที่จะทำให้จำนวนประชากรคงที่เท่าเดิม คือ 2.1 หรือเด็กทารกสองคนต่อผู้หญิงหนึ่งคน
เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์มีประชากรราว 4.59 ล้านคน ซึ่งก็รวมทั้งชาวต่างชาติที่ไปทำงานที่นั่นรวมทั้งครอบครัวของพวกเขาด้วย
ลีประกาศว่าการลาคลอดซึ่งมารดาจะได้รับเงินเดือนอยู่นั้น จะขยายเวลาเป็น 16 สัปดาห์จากเดิม 12 สัปดาห์ นอกจากนี้ก็ยังมีวันลาหยุดโดยไม่ได้รับเงินเดือนอีกหากว่าพ่อแม่มือใหม่ต้องการอยู่บ้านดูแลลูกของตัวเองในช่วงที่ลูกอายุไม่เกินสองปี อีกทั้งรัฐบาลก็ยังจะเพิ่ม "เบบี้ โบนัส" หรือเงินที่จ่ายให้แก่ครอบครัวที่มีลูกคนแรก รวมทั้งให้แรงจูงใจทางด้านภาษีเพื่อกระตุ้นให้คุณแม่ยังคงไปทำงานอยู่
มาตรการก่อนหน้านี้ของรัฐบาลก็คือให้เงินสดเพื่อจูงใจแก่คู่สามีภรรยาให้มีลูกเกินสองคน ชักชวนให้ชาวต่างชาติมาเป็นพลเมืองมากขึ้น รวมทั้งผ่อนคลายการควบคุมการนำเสนอเรื่องที่เคยต้องห้ามมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องเซ็กซ์ เพื่อกระตุ้นการมีบุตร อย่างไรก็ตามแรงจูงใจเหล่านั้นก็ประสบความล้มเหลวมาตลอด