ผู้จัดการรายวัน - ผู้ค้าน้ำมันลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันนี้ (19 ส.ค.) เป็นต้นไปหลังค่าการตลาดแตะ 3.1 บาทต่อลิตรกดราคาดีเซลต่ำสุดรอบ 3 เดือนกว่า เหตุน้ำมันโลกหล่นวูบ ประกอบกับ รมว.พลังงานเลื่อนถกคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ไม่มีกำหนด ชี้หากราคาสิงคโปร์ลดลง เบนซินและดีเซลส่อลดตามอีกระลอก เหตุค่าการตลาดสูงเฉลี่ยกว่า 2 บาทต่อลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้แจ้งปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลลง 60 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้ดีเซลอยู่ที่ 33.04 บาทต่อลิตร บี 5 เป็น 32.34 บาทต่อลิตร ถือเป็นราคาที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือนกว่า นับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เป็นต้นมา ขณะที่กลุ่มเบนซินไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุของการปรับลดดังกล่าวเนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกและสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์วันที่ 15 ส.ค.ได้ปรับลดลงค่อนข้างแรงส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าดีเซลสูงถึง 3.14 บาทต่อลิตร
ขณะที่เบนซินเฉลี่ยกว่า 2 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดรวมทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 2.92 บาทต่อลิตรจากเดิมค่าการตลาดเฉลี่ยวันที่ 15 ส.ค.อยู่ที่ 2.5 บาทต่อลิตรเท่านั้น ดังนั้นหากราคาสิงคโปร์ปรับลดลงอีกผู้ค้าจะสามารถปรับลดราคาขายปลีกทั้งเบนซินและดีเซลอีกครั้งใน 1-2 วันนี้
สำหรับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดวันที่ 15 ส.ค. ดูไบ อยู่ที่ 108 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 3.97 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เวสเท็กซัส อยู่ที่ 113.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.24 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โอมานลดลง 3.89 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 108.75 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงค์โปร์ เบนซิน 95 อยู่ที่ 112.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซล อยู่ที่ 126.86 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.31 เหรียญสหรัฐต่อบบาร์เรล
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกยังคงอยู่ในผันผวนปรับตัวขึ้นลงค่อนข้างแรงตามปัจจัยต่างๆ ปตท.จึงสามารถพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มดีเซลลงให้ผู้บริโภคได้ทันทีอีก 60 สตางค์/ลิตร การปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่ 16 ติดต่อกัน รวมกลุ่มเบนซินลดลงไปแล้ว 10.40 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลลดลงไปแล้วถึง 11.40 บาท/ลิตร
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงในครั้งนี้ เนื่องจากวารสาร Monthly Oil Report ประจำเดือน ส.ค.นี้ของกลุ่มโอเปก รายงานถึงอัตราการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันโลกปี 2551 ลดลง 30,000 บาร์เรลต่อวันอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรล/วัน นับว่าต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี (ความต้องการใช้น้ำมันทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 84 ล้านบาร์เรล/วัน) อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน ประกอบกับรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันประเทศเวเนซูเอล่าแจ้งว่ากลุ่มโอเปกจะไม่ลดกำลังการผลิต เพราะความต้องการใช้น้ำมันและกำลังการผลิตอยู่ในระดับสมดุล ในขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง
แห้วรีดดีเซลหลัง กบง.เลื่อนถก
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า เดิมที พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงานจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการเรียกเก็บเงินกลุ่มดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวานนี้ (18 ส.ค.) เพื่อเสริมสภาพคล่องหลังเม็ดเงินกองทุนฯ ต้องมีการอุดหนุนพลังงานและแอลพีจีทำให้มีกระแสเงินสดเหลือไม่มากนัก แต่ปรากฏว่า รมว.พลังงานได้แจ้งเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นายศิวนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสำนักบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) หรือ สบพน. กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯยังมีฐานะกองทุนสุทธิที่ยังเป็นบวกอยู่ประมาณ 185 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากมีการเก็บเงินเข้ากองทุนฯเพิ่มส่วนของดีเซลบ้างในช่วงน้ำมันขาลงก็จะเป็นการทำให้กระแสเงินสดมั่นคงมากขึ้นซึ่งคงต้องรอ กบง.แต่เดิมคาดว่าจะประชุมวันที่ 18 ส.ค.แต่ได้เลื่อนออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้แจ้งปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลลง 60 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้ดีเซลอยู่ที่ 33.04 บาทต่อลิตร บี 5 เป็น 32.34 บาทต่อลิตร ถือเป็นราคาที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือนกว่า นับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เป็นต้นมา ขณะที่กลุ่มเบนซินไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุของการปรับลดดังกล่าวเนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกและสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์วันที่ 15 ส.ค.ได้ปรับลดลงค่อนข้างแรงส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าดีเซลสูงถึง 3.14 บาทต่อลิตร
ขณะที่เบนซินเฉลี่ยกว่า 2 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดรวมทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 2.92 บาทต่อลิตรจากเดิมค่าการตลาดเฉลี่ยวันที่ 15 ส.ค.อยู่ที่ 2.5 บาทต่อลิตรเท่านั้น ดังนั้นหากราคาสิงคโปร์ปรับลดลงอีกผู้ค้าจะสามารถปรับลดราคาขายปลีกทั้งเบนซินและดีเซลอีกครั้งใน 1-2 วันนี้
สำหรับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดวันที่ 15 ส.ค. ดูไบ อยู่ที่ 108 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 3.97 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เวสเท็กซัส อยู่ที่ 113.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.24 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โอมานลดลง 3.89 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 108.75 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงค์โปร์ เบนซิน 95 อยู่ที่ 112.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซล อยู่ที่ 126.86 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.31 เหรียญสหรัฐต่อบบาร์เรล
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกยังคงอยู่ในผันผวนปรับตัวขึ้นลงค่อนข้างแรงตามปัจจัยต่างๆ ปตท.จึงสามารถพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มดีเซลลงให้ผู้บริโภคได้ทันทีอีก 60 สตางค์/ลิตร การปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่ 16 ติดต่อกัน รวมกลุ่มเบนซินลดลงไปแล้ว 10.40 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลลดลงไปแล้วถึง 11.40 บาท/ลิตร
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงในครั้งนี้ เนื่องจากวารสาร Monthly Oil Report ประจำเดือน ส.ค.นี้ของกลุ่มโอเปก รายงานถึงอัตราการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันโลกปี 2551 ลดลง 30,000 บาร์เรลต่อวันอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรล/วัน นับว่าต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี (ความต้องการใช้น้ำมันทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 84 ล้านบาร์เรล/วัน) อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน ประกอบกับรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันประเทศเวเนซูเอล่าแจ้งว่ากลุ่มโอเปกจะไม่ลดกำลังการผลิต เพราะความต้องการใช้น้ำมันและกำลังการผลิตอยู่ในระดับสมดุล ในขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง
แห้วรีดดีเซลหลัง กบง.เลื่อนถก
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า เดิมที พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงานจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการเรียกเก็บเงินกลุ่มดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวานนี้ (18 ส.ค.) เพื่อเสริมสภาพคล่องหลังเม็ดเงินกองทุนฯ ต้องมีการอุดหนุนพลังงานและแอลพีจีทำให้มีกระแสเงินสดเหลือไม่มากนัก แต่ปรากฏว่า รมว.พลังงานได้แจ้งเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นายศิวนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสำนักบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) หรือ สบพน. กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯยังมีฐานะกองทุนสุทธิที่ยังเป็นบวกอยู่ประมาณ 185 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากมีการเก็บเงินเข้ากองทุนฯเพิ่มส่วนของดีเซลบ้างในช่วงน้ำมันขาลงก็จะเป็นการทำให้กระแสเงินสดมั่นคงมากขึ้นซึ่งคงต้องรอ กบง.แต่เดิมคาดว่าจะประชุมวันที่ 18 ส.ค.แต่ได้เลื่อนออกไป
