เอเอฟพี - ภัตตาคารเกือบทั้งหมดในสหรัฐฯ มีนโยบายห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าร้าน ด้วยเหตุนี้ ‘ชั่วโมงสุขสันต์’ ที่ริเริ่มขึ้นเมื่อ 2-3 ปีมานี้จึงกลายเป็นเทรนด์ฮิตเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่เพียงเพราะเปิดโอกาสให้เหล่าเจ้าของได้พาน้องหมามาสังสรรค์พร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะกิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้คนรักหมาได้มาทำความรู้จักและเผลอๆ อาจรักกันได้
ริก ชาปิรา ที่ในมือถือเบียร์โดยมีปั๊กสองตัวหมอบอยู่ข้างๆ ดูมีความสุขราวสุนัขได้กระดูกชิ้นโต
“เป็นไฮไลต์ประจำสัปดาห์ของเจ้าสองตัวนี้เลยทีเดียว” แน่นอนว่าสิ่งที่ชาปิราพูดถึงคือ ‘ด็อกกี้ แฮปปี้ อาวร์’ ที่โฮเต็ล โมนาโก
“พอผมพูดว่า ‘ไปด็อกกี้ แฮปปี้ อาวร์กันเถอะ’ พวกมันจะตื่นเต้นคึกคักขึ้นมาทันทีและวิ่งนำไปที่ประตู” ชาปิราเล่าพลางชำเลืองมองเท็ดดี้และจิงเกิลส์
โฮเต็ล โมนาโก เมืองอเล็กซานเดรีย นอกวอชิงตัน เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่จัดชั่วโมงสุขสันต์สำหรับน้องหมา ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้วมีคนเกือบ 80 คนกับสุนัขอีกนับสิบตัวมาร่วมสนุกสนานกันในสนามด้านในของโรงแรม
พุดเดิล เชาเชา เซนต์เบอร์นาร์ด และเจ้าตูบอีกมากมายหลายพันธุ์ แลกกันดมกลิ่น กินน้ำและอาหารอินทรีย์ตัวอย่างร่วมกันที่ราคาตามเมนูระบุไว้ที่สองดอลลาร์ ขณะที่เจ้าของน้องหมาจิบไวน์และผลัดกันชมสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของกันและกัน
ชั่วโมงสุขสันต์ที่เปิดโอกาสให้คนกับสุนัขไปไหนไปกันพร้อมหน้ากลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง กระทั่งมีบางคนขอแจมด้วยทั้งที่ไม่มีสุนัข
“เราไม่มีหมาหรอก แต่ลูกสาวฉันชอบหมา และที่นี่แกจะได้เจอหมาทุกพันธุ์” จูดี้ เคอร์ติส ที่พาลูกสาววัย 13 ปีไปร่วมชั่วโมงสุขสันต์ของน้องหมา สารภาพ
“คนชอบกันมาก” ริชาร์ด แฮนนิแกน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่โฮเต็ล โมนาโก ที่วางแผนจัดปาร์ตี้ประกวดแฟชั่นน้องหมาชิงรางวัลในเดือนตุลาคม เห็นด้วย
หมาเองก็ได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้ “ครูฝึกสุนัขของฉันบอกว่า ฉันควรพาหมาออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” จูดี้ เบนเนตต์ พูดถึงซาลวาดอร์ สุนัขพันธุ์อเมริกันบ็อกเซอร์ที่เลี้ยงไว้
“ปาร์ตี้แบบนี้ช่วยให้หมาไม่ก้าวร้าว แล้วยังทำให้เจ้าของไม่ได้รู้สึกว่ามีแต่ตัวเองเท่านั้นที่บ้ารักหมาอยู่คนเดียว” จอห์น ลอนดรี ครูฝึกสุนัขของเบนเนตต์ที่ไปร่วมชั่วโมงสุขสันต์ด้วย สำทับ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงแห่งอเมริการะบุว่า ปัจจุบันมีสุนัขถึง 75 ล้านตัวที่อาศัยอยู่ใน 45 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ
คาดว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจะทำยอดขายในปีนี้ได้ทั้งสิ้น 43 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบเท่าที่คนอเมริกันซื้อของเล่นให้ลูก และสองเท่าของค่าเครื่องสำอาง
นอกจากน้องหมาแล้ว คนยังได้ประโยชน์จากชั่วโมงสุขสันต์ของน้องหมาแบบคาดไม่ถึง เพราะขนาดหมายังมีเพื่อนได้ เจ้าของของพวกมันก็เช่นกัน
“หมาเป็นตัวช่วยในการเข้าสังคมอย่างดี การมีหมาทำให้เราได้เจอและทำความรู้จักกับคนอื่นง่ายขึ้น” จอห์น คาร์เพนเตอร์ ขาประจำของฟริสกี้ บิสเนส แฮปปี้ อาวร์ที่เฮลิกซ์ โฮเต็ลในวอชิงตัน บอก
“ได้เจอแฟนในอนาคตเหรอ? เราก็หวังอยู่เหมือนกัน!” คารา แมกวิลเลียมส์ บอกขณะจูงสุนัขภูเขาพันธุ์เบอร์นิสสองตัวมาร่วมเฮฮาปาร์ตี้
จริงๆ แล้วสำหรับบางคน น้องหมาเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
“บางคนมาที่นี่เพื่อมองหาใครสักคน เพราะบางวันฉันเห็นหนุ่มสี่คนมาด้วยกันกับหมาอีกตัวเดียว” แอนนี ยิลเล็ตต์ โฆษกหญิงของโฮเต็ล โมนาโก บอก
ทุกวันพุธ โฮเต็ล เฮลิกซ์ ที่บริจาคเงินทุกหนึ่งดอลลาร์จากยอดขายบัตรแฮปปี้ อาวร์แต่ละใบให้สถานสงเคราะห์สุนัขเร่ร่อน จะมีคน 15-30 คน และหมาจำนวนพอๆ กัน มารวมตัวกัน
“เป็นโอกาสดีที่คนเราจะสามารถนั่งลงและผ่อนคลายโดยนำสุนัขมาด้วยได้ ไม่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยง นอกจากนั้น คนที่มีสัตว์เลี้ยงยังเข้ากันได้ดี” ซาราห์ คร็อกเกอร์ โฆษกหญิงของโรงแรม บอก
แม้แก้วเครื่องดื่มว่างเปล่า และอาหารสุนัขหมดจากจาน แต่ความสนุกสนานไม่ได้จบลงไปด้วย
“เราชวนกันไปต่อที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม” ชาปิราบอก “ที่นั่นมีเมนูสำหรับหมาด้วย สุดยอดไปเลย!”
ริก ชาปิรา ที่ในมือถือเบียร์โดยมีปั๊กสองตัวหมอบอยู่ข้างๆ ดูมีความสุขราวสุนัขได้กระดูกชิ้นโต
“เป็นไฮไลต์ประจำสัปดาห์ของเจ้าสองตัวนี้เลยทีเดียว” แน่นอนว่าสิ่งที่ชาปิราพูดถึงคือ ‘ด็อกกี้ แฮปปี้ อาวร์’ ที่โฮเต็ล โมนาโก
“พอผมพูดว่า ‘ไปด็อกกี้ แฮปปี้ อาวร์กันเถอะ’ พวกมันจะตื่นเต้นคึกคักขึ้นมาทันทีและวิ่งนำไปที่ประตู” ชาปิราเล่าพลางชำเลืองมองเท็ดดี้และจิงเกิลส์
โฮเต็ล โมนาโก เมืองอเล็กซานเดรีย นอกวอชิงตัน เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่จัดชั่วโมงสุขสันต์สำหรับน้องหมา ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้วมีคนเกือบ 80 คนกับสุนัขอีกนับสิบตัวมาร่วมสนุกสนานกันในสนามด้านในของโรงแรม
พุดเดิล เชาเชา เซนต์เบอร์นาร์ด และเจ้าตูบอีกมากมายหลายพันธุ์ แลกกันดมกลิ่น กินน้ำและอาหารอินทรีย์ตัวอย่างร่วมกันที่ราคาตามเมนูระบุไว้ที่สองดอลลาร์ ขณะที่เจ้าของน้องหมาจิบไวน์และผลัดกันชมสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของกันและกัน
ชั่วโมงสุขสันต์ที่เปิดโอกาสให้คนกับสุนัขไปไหนไปกันพร้อมหน้ากลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง กระทั่งมีบางคนขอแจมด้วยทั้งที่ไม่มีสุนัข
“เราไม่มีหมาหรอก แต่ลูกสาวฉันชอบหมา และที่นี่แกจะได้เจอหมาทุกพันธุ์” จูดี้ เคอร์ติส ที่พาลูกสาววัย 13 ปีไปร่วมชั่วโมงสุขสันต์ของน้องหมา สารภาพ
“คนชอบกันมาก” ริชาร์ด แฮนนิแกน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่โฮเต็ล โมนาโก ที่วางแผนจัดปาร์ตี้ประกวดแฟชั่นน้องหมาชิงรางวัลในเดือนตุลาคม เห็นด้วย
หมาเองก็ได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้ “ครูฝึกสุนัขของฉันบอกว่า ฉันควรพาหมาออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” จูดี้ เบนเนตต์ พูดถึงซาลวาดอร์ สุนัขพันธุ์อเมริกันบ็อกเซอร์ที่เลี้ยงไว้
“ปาร์ตี้แบบนี้ช่วยให้หมาไม่ก้าวร้าว แล้วยังทำให้เจ้าของไม่ได้รู้สึกว่ามีแต่ตัวเองเท่านั้นที่บ้ารักหมาอยู่คนเดียว” จอห์น ลอนดรี ครูฝึกสุนัขของเบนเนตต์ที่ไปร่วมชั่วโมงสุขสันต์ด้วย สำทับ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงแห่งอเมริการะบุว่า ปัจจุบันมีสุนัขถึง 75 ล้านตัวที่อาศัยอยู่ใน 45 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ
คาดว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจะทำยอดขายในปีนี้ได้ทั้งสิ้น 43 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบเท่าที่คนอเมริกันซื้อของเล่นให้ลูก และสองเท่าของค่าเครื่องสำอาง
นอกจากน้องหมาแล้ว คนยังได้ประโยชน์จากชั่วโมงสุขสันต์ของน้องหมาแบบคาดไม่ถึง เพราะขนาดหมายังมีเพื่อนได้ เจ้าของของพวกมันก็เช่นกัน
“หมาเป็นตัวช่วยในการเข้าสังคมอย่างดี การมีหมาทำให้เราได้เจอและทำความรู้จักกับคนอื่นง่ายขึ้น” จอห์น คาร์เพนเตอร์ ขาประจำของฟริสกี้ บิสเนส แฮปปี้ อาวร์ที่เฮลิกซ์ โฮเต็ลในวอชิงตัน บอก
“ได้เจอแฟนในอนาคตเหรอ? เราก็หวังอยู่เหมือนกัน!” คารา แมกวิลเลียมส์ บอกขณะจูงสุนัขภูเขาพันธุ์เบอร์นิสสองตัวมาร่วมเฮฮาปาร์ตี้
จริงๆ แล้วสำหรับบางคน น้องหมาเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
“บางคนมาที่นี่เพื่อมองหาใครสักคน เพราะบางวันฉันเห็นหนุ่มสี่คนมาด้วยกันกับหมาอีกตัวเดียว” แอนนี ยิลเล็ตต์ โฆษกหญิงของโฮเต็ล โมนาโก บอก
ทุกวันพุธ โฮเต็ล เฮลิกซ์ ที่บริจาคเงินทุกหนึ่งดอลลาร์จากยอดขายบัตรแฮปปี้ อาวร์แต่ละใบให้สถานสงเคราะห์สุนัขเร่ร่อน จะมีคน 15-30 คน และหมาจำนวนพอๆ กัน มารวมตัวกัน
“เป็นโอกาสดีที่คนเราจะสามารถนั่งลงและผ่อนคลายโดยนำสุนัขมาด้วยได้ ไม่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยง นอกจากนั้น คนที่มีสัตว์เลี้ยงยังเข้ากันได้ดี” ซาราห์ คร็อกเกอร์ โฆษกหญิงของโรงแรม บอก
แม้แก้วเครื่องดื่มว่างเปล่า และอาหารสุนัขหมดจากจาน แต่ความสนุกสนานไม่ได้จบลงไปด้วย
“เราชวนกันไปต่อที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม” ชาปิราบอก “ที่นั่นมีเมนูสำหรับหมาด้วย สุดยอดไปเลย!”