xs
xsm
sm
md
lg

อสมทปรับผังทีวีโกยรายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อสมท มุ่งปรับผังรายการบันเทิงมากยิ่งขึ้น หลังพรบ.การประกอบกิจการวิทยุฯจัดให้อยู่ในกลุ่มสื่อพาณิชย์ ส่วนทรูเร่งขอโฆษณาให้ได้ พร้อมเสนอส่วนแบ่งรายได้ให้ 6.5% ล่าสุดประกาศผลประกอบการไตรมาส2 เติบโตขึ้น 29% ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจทีวี ส่วนวิทยุไม่เป็นไปตามที่หวัง มองครึ่งปีหลังเป็นช่วงโลว์สีสัน แต่ทั้งปีมั่นใจรายได้โตตามเป้าที่ 15-20% แน่

นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการตีความตาม พรบ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 พบว่า ช่อง9 โมเดิร์นไนน์ จัดอยู่ในกลุ่มสื่อพาณิชย์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีนโยบายจะต้องแบ่งสัดส่วนรายการอย่างที่เป็นมา ดังนั้นจะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯพยายามปรับผังรายการโดยการเพิ่มสัดส่วนรายการประเภทบันเทิงให้มากขึ้น ซึ่งในไตรมาสสอง สัดส่วนรายการบังเทิงอยู่ที่ 32% จาก 24% ในไตรมาสแรก ขณะที่รายการเพิ่มขึ้นเช่นกัน จาก 32% เป็น 40% อย่างไรก็ตามสัดส่วนรายการบันเทิงยังคงจะมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องรอดูความเหมาะสมกันอีกครั้งว่าควรจะอยู่ที่สัดส่วนประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้เหมาะสมกับทางสถานีฯ ภายใต้สโลแกน สนุก สาระ สร้างสรรค์

ทั้งนี้ผลของการปรับสัดส่วนรายการบันเทิงให้มีมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการขยายฐานกลุ่มผู้ชมไปสู่กลุ่มวัยรุ่นและเริ่มต้นทำงานมากขึ้น จากปกติที่มีมากในกลุ่มเด็ก และผู้ใหญ่ เช่น รายการละคร อุบัติเหตุรักข้ามขอบฟ้า ,ซิทคอม เรื่อง เนื้อคู่ประตูถัดไป นอกจากนี้การเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิง ยังช่วยให้รายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนในช่วงปลายปีนี้

ล่าสุดสำหรับผลประกอบการในไตรมาสสองที่ผ่านมา พบว่า เติบโตขึ้น 29% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตขึ้นอีก 68% คิดเป็นมูลค่ากว่า 406 ล้านบาท หรือ คิดเป็นเงิน 0.59 บาทต่อหุ้น และกำไรสุทธิในช่วงหกเดือนแรกของปี 2551 มีจำนวน 641 ล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 0.93 บาทต่อหุ้น

สำหรับการเติบโตของไตรมาสสองมาจาก 1.กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ซึ่งเติบโตขึ้น 45% เทียบกับไตรมาสสองของปีก่อน ที่มีการดำเนินงานที่ดี มีการปรับผังรายการที่สอดคล้องกัน รวมถึงมีการปรับราคาโฆษณาขึ้นบางช่วงเวลา โดยอัตราการใช้เวลาโฆษณา (Utilization Rate) ทั้งในช่วงไพร์มไทม์ และ นอน ไพร์มไทม์ มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น 93% ด้วย รวมถึงรายได้จากกิจกรรมพิเศษ เช่น การแสดงคอนเสิร์ต Bigbang, ทาทา ยัง, การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รวมถึงรายการต่างๆของสถานีโมเดิร์นไนน์ และการต่อยอดกิจกรรมเพื่อสร้างรายได้ อาทิ รายการ ไนน์เอ็นเตอร์เทน Meet&Greet, กิจกรรม ไนน์เอ็นเตอร์เทนอะวอร์ด และสารคดี แม่น้ำโขง

ทั้งนี้จากข้อมูลของทางเอซี นีลเซ็น พบว่า ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โมเดิร์นไนน์ มีสัดส่วนทางการตลาด 20% อยู่ที่อันดับ 3 ส่วนอันดับหนึ่ง คือ ช่อง7 มีส่วนแบ่งทางการตลาด 31.5% และช่อง 3 เป็นอันดับสอง มีส่วนแบ่ง 26.5% ขณะที่ Audience Share โมเดิร์นไนน์ อยู่ในอันดับ3 มีส่วนแบ่ง 10.6% อันดับหนึ่ง คือ ช่อง 7 มีส่วนแบ่ง 44.7% และอันดับสอง คือ ช่อง3 มีส่วนแบ่ง 25.4%
2.รายได้จากกลุ่มธุรกิจวิทยุ มีรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น 7% เทียบกับไตรมาสสองในปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 218 ล้านบาท จาก 174 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวถือว่าน้อยกว่าที่วางไว้ ถึงแม้ว่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับภาครวมธุรกิจวิทยุ ที่มีการเติบโต 8% ทั้งนี้มาจากการที่บริษัทฯมีการนำเอาคลื่นวิทยุเข้ามาบริหารเอง ซึ่งต้องการบริหารจัดการใหม่ บวกกับครึ่งปีที่ผ่านมา ได้มีการลดกิจกรรมต่างๆลง ทำให้รายได้วิทยุไม่เป็นไปตามเป้า แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น หรือทั้งปีคาดว่าจะรักษาการเติบโตที่ 15-20% ตามเป้าที่วางไว้ได้

**ทรูยื่นรายได้โฆษณาให้ 6.5%**
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องที่เคเบิลทีวีสามารถโฆษณาได้ ตาม พรบ.การประกอบกิจการวิทยุฯได้กำหนดขึ้น ทางทรูวิชั่นส์ ได้มีการทำหนังสืออย่างเป็นทางการกับทาง อสมท เพื่อขอให้ทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้ โดยได้เสนอรายได้จากโฆษณาให้ทางอสมท ในอัตรา 6.5% ซึ่งทางอสมท จะมีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม พร้อมต้องศึกษารายละเอียดต่างๆก่อนว่า จะออกมาเป็นเช่นไร เพราะต้องดูรายละเอียดหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกันอยู่ ซึ่งมองว่าจะเห็นข้อสรุปในระยะอันใกล้นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น