ผู้จัดการรายวัน – ททท.เร่งมือ โปรโมตแหล่งท่องเที่ยวเมืองระดับรอง บูมวิถีชีวิตชุมชน ยึดพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างนำร่อง จัดเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ทุกพื้นที่ จับจุดเศรษฐกิจแย่สังคมวุ่นวาย คนไทยต้องพึ่งธรรมะ
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในลักษณะเชื่อมโยงกลุ่มพื้นที่ (Cluster) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับรอง หรือ Medium (M) ตามที่ได้เคยจัดแหล่งท่องเที่ยว ออกเป็น 3 พื้นที่ คือ ไฮ มีเดียม และ โลว์ โดยกลุ่มมีเดียมนี้ จุดประสงค์หลักของการส่งเสริม เพื่อกระตุ้นให้ตลาดคนไทยเดนิทางเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ให้มากขึ้น โดยไม่ต้องเที่ยวในลักษณะเชื่อมโยงกับกลุ่มพื้นที่ไฮ อย่างในอดีตที่ผ่านมา โดยแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีจุดขายในเรื่องของวิถีชีวิตชุมชน ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้าน
ล่าสุดช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ ได้เปิดโครงการ “เปิดตำนานวิถีธรรมชาติ ต้านภัยโลกร้อน” นำร่องทำกิจกรรมเดือนสิงหาคม เปิด “เส้นทางสีเขียว บวชต้นไม้ รักษ์ไพร ไหว้พระในบ้าน” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่จังหวัด อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน
***ระดมทุกสำนักงานจัดไหว้พระ9วัด***
นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้ทุกสำนักงาน ททท.ในประเทศไปสำรวจเส้นทาง ค้นหาวัดดีๆ จัดทำเส้นทางไหว้พระ 9 วัด เสริมศิริมงคล เนื่องจากการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ สามารถโปรโมตได้เร็ว อยู่ในความสนใจของตลาดคนไทย ทุกภูมิภาค สามารถทำให้เกิดการท่องเที่ยวภายในจังหวัดและการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงได้อย่างรวดเร็ว
“ตลาดคนไทย เราต้องนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ตลอด เพื่อสร้างความหลากหลายแตกต่าง เป็นจุดขายใหม่ๆ หวังว่า จากการทำงานของ ททท.เช่นนี้ จะช่วยให้ถึงสิ้นปียอดนักท่องเที่ยวคนไทย จะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 83 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียน 4.2 แสนล้านบาท”
นางปนัดดา จันทร์ปัญญา ผู้อำนวยการกองตลาดภาคเหนือ ททท. กล่าวว่า ภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงฤดูหนาว เพราะแม้เป็นฤดูฝน ตลาดคนไทยก็เดินทางท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตและประเพณีโบราณได้ ที่ จ.อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน เช่น ประเพณีบวชต้นไม้ ประเพณีอัฐมีบูชา งานบายศรีผลไม้ บายศรีต้นน้ำ เป็นต้น ซึ่ง เรามุ่งหวังว่า ในปี 2551-2552 จะนำเสนอประเพณีต่างๆที่น่าสนใจของ 3 จังหวัดดังกล่าว เพื่อดึงดูนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมา ได้จัดแฟมทริป เชิญบริษัทนำเที่ยว มาชมประเพณีวัฒนธรรมของชาวบ้าน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ ซึ่งบริษัทนำเที่ยวก็จะนำไปจัดเป็นเส้นทาง จำหน่ายแพกเกจทัวร์ในปีต่อๆไป”
****ชัยทัวร์มาถูกทางจับกลุ่มสูงวัย***
นายชัยธวัชว์ ไทยง อุปนายก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยทัวร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้เริ่มเจาะตลาดครอบครัวและผู้สูงอายุมานาน 2-3 ปี แล้ว พบว่าตลาดนี้มีการเติบโตสูง มีกำลังซื้อที่ดี แต่ทั้งนี้ก็ต้องจัดบริการที่ดีมอบให้แก่ลูกค้าด้วย โดยบริษัทเน้นนำเสนอเส้นทางใหม่ๆให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มีสมาชิกที่จัดส่งเอกสารให้ทั้งหมดกว่า 5 พันราย 50% เป็นผู้สูงอายุ และกว่า 40% เป็นกลุ่มครอบครัว ที่เหลืออีกเล็กน้อย เป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน โดยในที่นี้มี เกือบ 2 พันราย ที่ใช้บริการของ ชัยทัวร์ต่อเนื่องโดยตลอด
ปัจจุบัน กลุ่มผู้สูงอายุ ที่เป็นข้าราชการบำนาญ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่มผู้เกษียณอายุ มีจำนวนมากขึ้น คนกลุ่มนี้ มีกำลังซื้อ และ สุขภาพแข็งแรง มีเวลาว่างพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยว และ การเที่ยวแบบดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ไหว้พระขอพร เป็นสิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบ เราจึงเป็นบริษัทหนึ่ง ที่สนับสนุนนโยบายของ ททท. ได้ตรงเป้าหมาย
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในลักษณะเชื่อมโยงกลุ่มพื้นที่ (Cluster) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับรอง หรือ Medium (M) ตามที่ได้เคยจัดแหล่งท่องเที่ยว ออกเป็น 3 พื้นที่ คือ ไฮ มีเดียม และ โลว์ โดยกลุ่มมีเดียมนี้ จุดประสงค์หลักของการส่งเสริม เพื่อกระตุ้นให้ตลาดคนไทยเดนิทางเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ให้มากขึ้น โดยไม่ต้องเที่ยวในลักษณะเชื่อมโยงกับกลุ่มพื้นที่ไฮ อย่างในอดีตที่ผ่านมา โดยแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีจุดขายในเรื่องของวิถีชีวิตชุมชน ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้าน
ล่าสุดช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ ได้เปิดโครงการ “เปิดตำนานวิถีธรรมชาติ ต้านภัยโลกร้อน” นำร่องทำกิจกรรมเดือนสิงหาคม เปิด “เส้นทางสีเขียว บวชต้นไม้ รักษ์ไพร ไหว้พระในบ้าน” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่จังหวัด อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน
***ระดมทุกสำนักงานจัดไหว้พระ9วัด***
นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้ทุกสำนักงาน ททท.ในประเทศไปสำรวจเส้นทาง ค้นหาวัดดีๆ จัดทำเส้นทางไหว้พระ 9 วัด เสริมศิริมงคล เนื่องจากการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ สามารถโปรโมตได้เร็ว อยู่ในความสนใจของตลาดคนไทย ทุกภูมิภาค สามารถทำให้เกิดการท่องเที่ยวภายในจังหวัดและการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงได้อย่างรวดเร็ว
“ตลาดคนไทย เราต้องนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ตลอด เพื่อสร้างความหลากหลายแตกต่าง เป็นจุดขายใหม่ๆ หวังว่า จากการทำงานของ ททท.เช่นนี้ จะช่วยให้ถึงสิ้นปียอดนักท่องเที่ยวคนไทย จะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 83 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียน 4.2 แสนล้านบาท”
นางปนัดดา จันทร์ปัญญา ผู้อำนวยการกองตลาดภาคเหนือ ททท. กล่าวว่า ภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงฤดูหนาว เพราะแม้เป็นฤดูฝน ตลาดคนไทยก็เดินทางท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตและประเพณีโบราณได้ ที่ จ.อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน เช่น ประเพณีบวชต้นไม้ ประเพณีอัฐมีบูชา งานบายศรีผลไม้ บายศรีต้นน้ำ เป็นต้น ซึ่ง เรามุ่งหวังว่า ในปี 2551-2552 จะนำเสนอประเพณีต่างๆที่น่าสนใจของ 3 จังหวัดดังกล่าว เพื่อดึงดูนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมา ได้จัดแฟมทริป เชิญบริษัทนำเที่ยว มาชมประเพณีวัฒนธรรมของชาวบ้าน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ ซึ่งบริษัทนำเที่ยวก็จะนำไปจัดเป็นเส้นทาง จำหน่ายแพกเกจทัวร์ในปีต่อๆไป”
****ชัยทัวร์มาถูกทางจับกลุ่มสูงวัย***
นายชัยธวัชว์ ไทยง อุปนายก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยทัวร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้เริ่มเจาะตลาดครอบครัวและผู้สูงอายุมานาน 2-3 ปี แล้ว พบว่าตลาดนี้มีการเติบโตสูง มีกำลังซื้อที่ดี แต่ทั้งนี้ก็ต้องจัดบริการที่ดีมอบให้แก่ลูกค้าด้วย โดยบริษัทเน้นนำเสนอเส้นทางใหม่ๆให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มีสมาชิกที่จัดส่งเอกสารให้ทั้งหมดกว่า 5 พันราย 50% เป็นผู้สูงอายุ และกว่า 40% เป็นกลุ่มครอบครัว ที่เหลืออีกเล็กน้อย เป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน โดยในที่นี้มี เกือบ 2 พันราย ที่ใช้บริการของ ชัยทัวร์ต่อเนื่องโดยตลอด
ปัจจุบัน กลุ่มผู้สูงอายุ ที่เป็นข้าราชการบำนาญ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่มผู้เกษียณอายุ มีจำนวนมากขึ้น คนกลุ่มนี้ มีกำลังซื้อ และ สุขภาพแข็งแรง มีเวลาว่างพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยว และ การเที่ยวแบบดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ไหว้พระขอพร เป็นสิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบ เราจึงเป็นบริษัทหนึ่ง ที่สนับสนุนนโยบายของ ททท. ได้ตรงเป้าหมาย