ผู้จัดการรายวัน - “สมาคมป้ายและโฆษณา” เร่งสร้างโอกาสเปิดตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจป้าย ขณะที่สมาชิกในสมาคมฯ ผนึกกำลังลุยข้ามชาติ ประเดิมเจาะเวียดนามตลาดแรก คาดลงทุนเบื้องต้น 300 ล้าน
นายยุวพล พรประทานเวช นายกสมาคมป้ายและโฆษณา (Advertising & Sign Producing Association : ASPA) เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมฯ ได้ผลักดันให้สมาชิกของสมาคมเร่งขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้เข้าร่วมในงาน Sign Asia Expo'08 ที่จะมีขึ้นวันที่ 25 – 28 กันยายน 2551 ที่เมืองทองธานี คาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานจะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 240 ล้านบาท และจะส่งผลให้อุตสาหกรรมป้ายโดยรวมในปีนี้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วประมาณกว่า 10% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท
ทางสมาคมฯ ยังได้เชิญสมาคมป้ายและโฆษณาจากต่างประเทศเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย จากเดิมที่มีเพียงไต้หวัน เกาหลี จีน และไทย ซึ่งถือเป็นการเปิดเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศด้วย
การขยายตลาดต่างประเทศคือ การลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจป้ายชั้นนำของไทย 4-5 บริษัท ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการลงทุนร่วมกับบีโอไอ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบการลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และคืนทุนได้ภายใน 2 ปี โดยจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณกลางปี 2552
นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ได้จัดสรรงบประมาณอีก 10 ล้านบาท ในการสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์สมาคมฯ โดยปัจจุบันมีจำนวนกว่า 120 บริษัท และตั้งงบประมาณเบื้องต้นไว้ 15 ล้านบาท สำหรับการจัดสร้างอาคารและค่าบริหารจัดการต่างๆ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเมษายนปีหน้า
นายยุวพล พรประทานเวช นายกสมาคมป้ายและโฆษณา (Advertising & Sign Producing Association : ASPA) เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมฯ ได้ผลักดันให้สมาชิกของสมาคมเร่งขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้เข้าร่วมในงาน Sign Asia Expo'08 ที่จะมีขึ้นวันที่ 25 – 28 กันยายน 2551 ที่เมืองทองธานี คาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานจะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 240 ล้านบาท และจะส่งผลให้อุตสาหกรรมป้ายโดยรวมในปีนี้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วประมาณกว่า 10% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท
ทางสมาคมฯ ยังได้เชิญสมาคมป้ายและโฆษณาจากต่างประเทศเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย จากเดิมที่มีเพียงไต้หวัน เกาหลี จีน และไทย ซึ่งถือเป็นการเปิดเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศด้วย
การขยายตลาดต่างประเทศคือ การลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจป้ายชั้นนำของไทย 4-5 บริษัท ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการลงทุนร่วมกับบีโอไอ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบการลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และคืนทุนได้ภายใน 2 ปี โดยจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณกลางปี 2552
นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ได้จัดสรรงบประมาณอีก 10 ล้านบาท ในการสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์สมาคมฯ โดยปัจจุบันมีจำนวนกว่า 120 บริษัท และตั้งงบประมาณเบื้องต้นไว้ 15 ล้านบาท สำหรับการจัดสร้างอาคารและค่าบริหารจัดการต่างๆ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเมษายนปีหน้า