เดลิเมล์ - นักวิจัยชี้เทคนิคที่ตัวละครของฮิวจ์ แกรนต์ใช้ในหนังเป็นประจำ คือมุกตลกประชดประชันความเฟอะของตัวเอง สามารถนำมาใช้พิชิตใจสาวนอกจอได้จริง
อารมณ์ขันดังกล่าวดีกว่ามุกตลกที่โชว์เนื้อสมอง ซึ่งผู้หญิงอาจมองว่าเป็นการโอ้อวดเลยพลอยไม่ชอบใจและตัดชายหนุ่มคนนั้นออกจากลิสต์โดยปริยาย
งานศึกษาดังกล่าวเป็นของนักจิตวิทยาที่ชื่อ กิล กรีนกรอสส์ ที่ใช้เวลาสองปีศึกษาบทบาทของอารมณ์ขันในการจีบสาว
กรีนกรอสส์พบว่า อารมณ์ขันแบบที่แกรนต์ใช้เพื่อโปรยสเน่ห์ใส่จูเลีย โรเบิร์ตใน ‘นอตติ้ง ฮิลล์’ ด้วยการบ่นเรื่องของกินในตู้เย็นของตัวเอง ใช้ได้ผลที่สุด และว่ามีผลศึกษาอีกมากมายที่แสดงให้เห็นว่า อารมณ์ขันถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ โดยเฉพาะหากใช้กับสาวๆ
“บนพื้นฐานความคิดที่ว่าอารมณ์ขันที่แสดงออกมาทางคำพูดได้วิวัฒนาการเป็นฟังก์ชันที่บ่งชี้ถึงสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้น อารมณ์ขันแบบประชดประชันตัวเองจึงน่าจะเป็นดัชนีบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แค่แสดงความเฉลียวฉลาดทั่วไปและความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังรวมถึงคุณค่าทางจิตใจ เช่น ความเป็นมนุษย์”
ใน ‘โฟร์ เว็ดดิ้ง แอนด์ อะ ฟิวเนรัล’ แกรนต์ที่รับบทหนุ่มโสดจอมเฟอะ พยายามดึงดูดความสนใจสาวอเมริกันที่รับบทโดยแอนดี้ แมกโดเวลล์
ในฉากที่แกรนต์ต้องพูดในงานเลี้ยงฉลองแต่งงานในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว เขาบอกว่า “นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ผมหวังว่าผมคงทำหน้าที่ได้ดีพอสมควรเมื่อครั้งที่แล้ว เพราะอย่างน้อยบ่าวสาวคู่นั้นยังพูดกับผมอยู่ โชคร้ายที่พวกเขามองหน้ากันไม่ติดแล้ว การหย่าร้างเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ผมมั่นใจว่าไม่เกี่ยวกับผม พอลลารู้ว่าเพียร์สนอนกับน้องสาวเธอก่อนที่ผมจะพูดในงานแต่งงานของพวกเขา
“แต่เซอร์ไพรส์คือความจริงที่ว่าเขานอนกับแม่เธอด้วย ซึ่งผมคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่ฝันร้ายของการโต้เถียงและความรุนแรง ที่กลายมาเป็นชีวิตแต่งงานที่ยาวนานเพียงสองวัน”
อย่างไรก็ตาม แม้คนอเมริกันชอบอารมณ์ขันประชดประชันตัวเองของคนอังกฤษ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจเกิดปัญหาขึ้นเมื่ออารมณ์ขันสไตล์ดังกล่าวถูกนำไปใช้กับเพศตรงข้ามที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาในการสื่อสารและทำความเข้าใจ
นอกจากนี้ รายงานของกรีนกรอสส์ที่ชื่อว่า ‘ดิสซิ่ง วันเซลฟ์: เดอะ เซ็กชวล แอทแทร็กทีฟเนส ออฟ เซลฟ์-เดป-ฮิวเมอร์’ ซึ่งจะตีพิมพ์ในเดือนหน้าในวารสารเจอร์นัล ออฟ เอฟโวลูชันนารี ไซโคโลจี้ ยังเตือนว่า มุกด่าตัวเองแบบแกรนต์อาจดึงดูดความสนใจของคนฟังไปยังข้อบกพร่องที่แท้จริงของคนพูด ดังนั้น เทคนิคนี้จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่ปกติก็ไม่ได้หล่อเร้าใจและไม่มีใครมองอยู่แล้ว
อารมณ์ขันดังกล่าวดีกว่ามุกตลกที่โชว์เนื้อสมอง ซึ่งผู้หญิงอาจมองว่าเป็นการโอ้อวดเลยพลอยไม่ชอบใจและตัดชายหนุ่มคนนั้นออกจากลิสต์โดยปริยาย
งานศึกษาดังกล่าวเป็นของนักจิตวิทยาที่ชื่อ กิล กรีนกรอสส์ ที่ใช้เวลาสองปีศึกษาบทบาทของอารมณ์ขันในการจีบสาว
กรีนกรอสส์พบว่า อารมณ์ขันแบบที่แกรนต์ใช้เพื่อโปรยสเน่ห์ใส่จูเลีย โรเบิร์ตใน ‘นอตติ้ง ฮิลล์’ ด้วยการบ่นเรื่องของกินในตู้เย็นของตัวเอง ใช้ได้ผลที่สุด และว่ามีผลศึกษาอีกมากมายที่แสดงให้เห็นว่า อารมณ์ขันถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ โดยเฉพาะหากใช้กับสาวๆ
“บนพื้นฐานความคิดที่ว่าอารมณ์ขันที่แสดงออกมาทางคำพูดได้วิวัฒนาการเป็นฟังก์ชันที่บ่งชี้ถึงสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้น อารมณ์ขันแบบประชดประชันตัวเองจึงน่าจะเป็นดัชนีบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แค่แสดงความเฉลียวฉลาดทั่วไปและความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังรวมถึงคุณค่าทางจิตใจ เช่น ความเป็นมนุษย์”
ใน ‘โฟร์ เว็ดดิ้ง แอนด์ อะ ฟิวเนรัล’ แกรนต์ที่รับบทหนุ่มโสดจอมเฟอะ พยายามดึงดูดความสนใจสาวอเมริกันที่รับบทโดยแอนดี้ แมกโดเวลล์
ในฉากที่แกรนต์ต้องพูดในงานเลี้ยงฉลองแต่งงานในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว เขาบอกว่า “นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ผมหวังว่าผมคงทำหน้าที่ได้ดีพอสมควรเมื่อครั้งที่แล้ว เพราะอย่างน้อยบ่าวสาวคู่นั้นยังพูดกับผมอยู่ โชคร้ายที่พวกเขามองหน้ากันไม่ติดแล้ว การหย่าร้างเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ผมมั่นใจว่าไม่เกี่ยวกับผม พอลลารู้ว่าเพียร์สนอนกับน้องสาวเธอก่อนที่ผมจะพูดในงานแต่งงานของพวกเขา
“แต่เซอร์ไพรส์คือความจริงที่ว่าเขานอนกับแม่เธอด้วย ซึ่งผมคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่ฝันร้ายของการโต้เถียงและความรุนแรง ที่กลายมาเป็นชีวิตแต่งงานที่ยาวนานเพียงสองวัน”
อย่างไรก็ตาม แม้คนอเมริกันชอบอารมณ์ขันประชดประชันตัวเองของคนอังกฤษ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจเกิดปัญหาขึ้นเมื่ออารมณ์ขันสไตล์ดังกล่าวถูกนำไปใช้กับเพศตรงข้ามที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาในการสื่อสารและทำความเข้าใจ
นอกจากนี้ รายงานของกรีนกรอสส์ที่ชื่อว่า ‘ดิสซิ่ง วันเซลฟ์: เดอะ เซ็กชวล แอทแทร็กทีฟเนส ออฟ เซลฟ์-เดป-ฮิวเมอร์’ ซึ่งจะตีพิมพ์ในเดือนหน้าในวารสารเจอร์นัล ออฟ เอฟโวลูชันนารี ไซโคโลจี้ ยังเตือนว่า มุกด่าตัวเองแบบแกรนต์อาจดึงดูดความสนใจของคนฟังไปยังข้อบกพร่องที่แท้จริงของคนพูด ดังนั้น เทคนิคนี้จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่ปกติก็ไม่ได้หล่อเร้าใจและไม่มีใครมองอยู่แล้ว