นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าคณะทำงาน ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่อัยการซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินจะรับเป็นทนายความแก้ต่างให้กับจำเลยที่ถูก คตส.ฟ้องว่า ในเมื่ออัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญไม่ได้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีหรือ ครม. ดังนั้นแม้จะมีมติครม. ออกมาว่า ให้อัยการเป็นทนายความแก้ต่างให้จำเลย ที่ถูกคตส.ฟ้องก็ไม่จำเป็น ต้องปฏิบัติตาม เพราะกฎหมายเปิดให้อิสระในการใช้ดุลพินิจ ซึ่งจะต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรมและการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ไม่ใช่ไปคุ้มครองช่วยเหลือบุคคลที่ถูกรัฐกล่าวว่าทุจริต เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นของตน
นายถาวร กล่าวว่า ในทางกลับกันอัยการควรเป็นโจทย์ร่วมกับ คตส.ด้วยซ้ำ ตามป.วิอาญา ฯ มาตรา 31 และในฐานะที่อัยการมีโอกาสตรวจสำนวนการสอบสวน ของ คตส.ย่อมรู้รายละเอียดของสำนวนทั้งหมด ดังนั้นโดยมารยาทไม่ควรรับเป็นทนายแก้ต่างให้ฝ่ายตรงข้าม เพราะถือว่าผิดมารยาทอย่างยิ่ง หากเป็นทนายทั่วไปสภาทนายความต้องถอนใบอนุญาตว่าความ แต่การที่อัยการสูงสุดกลับความเห็นจากเดิมที่จะไม่รับเป็นทนายแก้ต่างให้ แต่พอมีมติ ครม.ออกมากลับบอกว่า ต้องจำใจรับเป็นทนายให้นั้น ถือเป็นการทำลายหลักนิติรัฐตามแนวนิติธรรม ซึ่งอาจถูกถอนจากตำแหน่งได้
ผมได้พูดคุยกับเพื่อนๆ น้องๆในที่เป็นอัยการหลายคนก็รู้สึกอึดอัดและที่ผม ออกมาพูดเพราะยังมีความรักและคิดถึงองค์กรที่เคยอยู่มานานอยาให้พิจารณาให้ดี
นายกรณ์ จาติกวาณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และรมว.คลังเงา กล่าวว่า ช่วงการชี้แจงงบประมาณได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกับอัยการสูงสุดว่า หลายคดี ที่ทางอัยการได้ยื้อเอาไว้ทำให้ คตส.ต้องส่งฟ้องเอง และศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ประทับรับฟ้องไปแล้วแต่ยังมีคดีปกปิดโครงสร้าง การถือหุ้นในบริษัท เอสซีแอสเซส ซึ่งดีเอสไอไม่มีอำนาจส่งฟ้องได้จึงเหลืออยู่ที่อัยการ เพียงองค์กรเดียวที่อำนาจส่งฟ้อง หากอัยการไม่ส่งฟ้องก็ไม่มีผู้ใดส่งฟ้องต่อศาลได้ จึงไม่อยากให้ประชาชนมองว่า อัยการเลือกปฏิบัติ
นายถาวร กล่าวว่า ในทางกลับกันอัยการควรเป็นโจทย์ร่วมกับ คตส.ด้วยซ้ำ ตามป.วิอาญา ฯ มาตรา 31 และในฐานะที่อัยการมีโอกาสตรวจสำนวนการสอบสวน ของ คตส.ย่อมรู้รายละเอียดของสำนวนทั้งหมด ดังนั้นโดยมารยาทไม่ควรรับเป็นทนายแก้ต่างให้ฝ่ายตรงข้าม เพราะถือว่าผิดมารยาทอย่างยิ่ง หากเป็นทนายทั่วไปสภาทนายความต้องถอนใบอนุญาตว่าความ แต่การที่อัยการสูงสุดกลับความเห็นจากเดิมที่จะไม่รับเป็นทนายแก้ต่างให้ แต่พอมีมติ ครม.ออกมากลับบอกว่า ต้องจำใจรับเป็นทนายให้นั้น ถือเป็นการทำลายหลักนิติรัฐตามแนวนิติธรรม ซึ่งอาจถูกถอนจากตำแหน่งได้
ผมได้พูดคุยกับเพื่อนๆ น้องๆในที่เป็นอัยการหลายคนก็รู้สึกอึดอัดและที่ผม ออกมาพูดเพราะยังมีความรักและคิดถึงองค์กรที่เคยอยู่มานานอยาให้พิจารณาให้ดี
นายกรณ์ จาติกวาณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และรมว.คลังเงา กล่าวว่า ช่วงการชี้แจงงบประมาณได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกับอัยการสูงสุดว่า หลายคดี ที่ทางอัยการได้ยื้อเอาไว้ทำให้ คตส.ต้องส่งฟ้องเอง และศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ประทับรับฟ้องไปแล้วแต่ยังมีคดีปกปิดโครงสร้าง การถือหุ้นในบริษัท เอสซีแอสเซส ซึ่งดีเอสไอไม่มีอำนาจส่งฟ้องได้จึงเหลืออยู่ที่อัยการ เพียงองค์กรเดียวที่อำนาจส่งฟ้อง หากอัยการไม่ส่งฟ้องก็ไม่มีผู้ใดส่งฟ้องต่อศาลได้ จึงไม่อยากให้ประชาชนมองว่า อัยการเลือกปฏิบัติ