xs
xsm
sm
md
lg

ทฤษฎีความน่าจะเป็นว่าด้วยการเข้าส้วมสาธารณะนานๆ

เผยแพร่:   โดย: บก.หนวด

อยู่มาวันหนึ่ง เปิดหน้าจอทีวีในตอนเช้า เห็นทีวีนำเสนอข่าวที่คุณสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ร่ายยาวด่านักข่าวที่ไปดักรอหน้าส้วมเพื่อจะขอสัมภาษณ์ โอ้โห! คุณสมัครแกด่านักข่าวเป็นชุดๆ คำด่าที่หลุดออกมาจากปากกระหน่ำราวกับปืนกล ต่อเนื่องยาวนานร่วมสิบห้านาที ทั้งคำว่าทุเรศ และคำด่าอะไรต่อมิอะไรอีกหลายคำ รวมถึงคุณสมัครแกสงสัยด้วยว่านักข่าวไม่มีใครสั่งใครสอนหรืออย่างไรถึงได้มาดักรอทำข่าวนายกฯกำลังเข้าห้องน้ำ

ในฐานะที่เคยเป็นนักข่าวแต่ไม่เคยเป็นนายกฯ ผมนั้นเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะครับ

วันหยุดนั้น ใครๆ ก็อยากนอนอยู่กับบ้าน อยู่กับลูกกับเมีย กับพ่อแม่พี่น้องทั้งนั้นแหละครับ นักข่าวนั้นเป็นอาชีพที่น่าเห็นใจ แทนที่จะได้นอนตีพุงอยู่กับบ้านในวันหยุด ยังต้องไปหาข่าว โดยเฝ้านายกฯหน้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าไม่ใช่หน้าที่ก็ไม่มีใครอยากทำเสียหน่อย

สถานการณ์หลังปรับครม.ใหม่ๆ โดยเฉพาะการปรับครม.แบบมีชิงรักหักสวาทกันด้วยแล้ว เป็นหน้าที่ของนักข่าวครับ ที่จะต้องตามติดแหล่งข่าว(คนสำคัญ อย่างนายกรัฐมนตรี หัวหน้าครม.) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ว่ามา เพื่อนำมาเสนอต่อสาธารณชน

สำหรับนายกฯ สมัคร ผมก็เห็นใจครับ ตามข่าวที่ได้รับฟังมา คุณสมัครต้องทนอยู่ในห้องน้ำสาธารณะถึงกว่าครึ่งชั่วโมง วันนี้ ผมเลยมาชวนคุยเรื่องห้องน้ำกัน

จริงๆ แล้วห้องน้ำนั้นเป็นสถานที่น่าเข้านะครับ (ในความหมายที่ไม่ใช่ห้องน้ำสำหรับอาบน้ำ บางคนเรียกตรงจุดชัดเจนไปเลยว่า “ส้วม”) “ห้องน้ำ” นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า “สุขา” นั่นก็เข้าใจกันแล้วว่า ใครที่เข้าห้องน้ำนั้นต้องการความสุข ได้แก่ ความสุขแห่งการปลดปล่อยของเสีย (บางคนเรียกว่า “นั่งส้วม”) ผมเองเป็นคนชอบอยู่ในห้องน้ำนานๆ นั่งไปอ่านหนังสือไป ถ้าเป็นตอนเช้าก็หนังสือพิมพ์สักเล่ม

ห้องน้ำหรือสุขากับหนังสือนี้เป็นของคู่กันเลยก็ว่าได้ สังเกตดูได้ ห้องน้ำของทุกคนในบ้าน ต่างก็มีหนังสือติดไว้ทั้งนั้น อยากจะสังเกตบุคลิกเจ้าของบ้าน ให้ดูที่ห้องน้ำ และหนังสือ (หรือนิตยสารต่างๆ) ที่มีติดไว้ เราจะเข้าใจเจ้าของบ้านได้มากขึ้น

ผมจะสนุกมากกับเวลาไปเข้าห้องน้ำบ้านเพื่อน แล้วเราจะรู้ได้เลยว่าเพื่อนเราชอบอะไร ห้องน้ำบ้านเพื่อนผมบางคน มีนิตยสารเกี่ยวกับรถยนต์ บางคนมีนิตยสารเรื่องสวน เรื่องต้นไม้ บางห้องน้ำมีนิตยสารเรื่องท่องเที่ยว เพื่อนผมบางคนมีหนังสือธรรมะไว้อ่านเวลาปลดทุกข์ ต่างห้องน้ำก็ต่างความชอบไป ใครอยากจะมีหนังสืออะไรเป็นเพื่อนยามปลดทุกข์ในสุขาก็แล้วแต่รสนิยมความชอบ

แต่ห้องน้ำสาธารณะหรือ “ส้วมสาธารณะ” เป็นอีกเรื่อง

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า เรื่องของส่วนรวมนั้น ย่อมไม่ตรงกับความพึงพอใจส่วนตัวของเราทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งห้องน้ำไม่ส่วนตัวที่เป็นของส่วนรวมอย่าง “ห้องน้ำสาธารณะ” นั้น บางแห่งถือว่าเป็นสถานที่น่าขนพองสยองเกล้าเสียด้วยซ้ำ

ห้องน้ำสาธารณะที่น่าสะพรึงกลัวส่วนใหญ่ มักจะมีองค์ประกอบดังนี้ หนึ่ง อยู่ในสถานที่ที่คนต้องผ่านไปใช้บริการเยอะๆ สอง ขาดการดูแลเอาใจใส่ หรือดูแลเอาใจใส่น้อย อยู่ที่สภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยสะอาด เปลี่ยวร้าง ชื้นแฉะ หรือสี่ ห้องน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวหน้าเทศกาล ดังนี้เป็นต้น

ห้องน้ำสาธารณะในองค์ประกอบสภาพแวดล้อมที่ผมว่า เป็นสถานที่ที่เรามักจะหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็น ถ้าไม่เหลืออดจริงๆ เป็นไม่เข้า

ในกรณีจำเป็นจริงๆ (เยี่ยวจะราด หรือขี้จะแตก ตามภาษาชาวบ้าน) ก็รีบทำเวลาให้เร็วที่สุด

หลายคนคงเคยเจอสถานการณ์ที่น่าอกสั่นขวัญแขวนในห้องน้ำสาธารณะ ถ้าโชคร้ายหน่อย อาจจะเจอซาก “อุนจิ” ตกค้างจากรายก่อนหน้า (หรือหลายรายก่อนหน้า) ถ้าโชคร้ายกว่านั้น มันอาจจะมาไม่ใช่แค่ซาก แต่มาเป็นก้อนๆ หรือที่แย่กว่าอีกคืออาจจะไม่ใช่ก้อน แต่มาพร้อมกับจินตนาการที่เรานึกได้เลยว่า สภาพแบบที่เจอน่าจะปล่อยออกมาพร้อมกับเสียง แพร่ดดดด หรือเสียงปรู๊ดดดดด มันถึงได้กระจายได้เละเทอะขนาดนั้น (อุแม่เจ้า เขียนไปเกือบอ้วกไป)

มีสถานการณ์อันน่าสงสารและเห็นใจกว่า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการอยู่นานในห้องน้ำสาธารณะทั้งๆ ที่อยากจะออกมาเร็วๆ ซึ่งผมได้เรียกประชุมผู้มีประสบการณ์ในเรื่องห้องน้ำสาธารณะมานั่งประชุมปรึกษาหารือกัน แล้วประมวลความน่าจะเป็นได้ดังนี้

หนึ่ง เข้าไปแล้วค้นพบภายหลังว่า ในนั้นไม่มีกระดาษทิชชู หรือไม่มีน้ำสำหรับชะล้าง (ถ้าโชคดีพกมือถือไป สามารถใช้โทรตามเพื่อนได้ ถ้ามีเพื่อนอยู่แถวนั้น)

สอง กางเกงในที่ถอดแขวนอยู่บังเอิญตกลงที่พื้นซึ่งมีน้ำเฉอะแฉะ (ทำให้ต้องซักล้าง และรอตากให้แห้ง)

สาม เข้าไปแล้ว ปล่อยทุกข์แล้ว แต่ยังไม่ทันชะล้าง พอดีมีสายด่วนเข้ามือถือ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคุยเดี๋ยวนั้น (เช่นถ้าเป็นนายกฯ แล้วเกิดมีปัญหาสำคัญระดับชาติโทรมาปรึกษา) อันนี้เป็นข้อเสียของการพกมือถือเข้าห้องน้ำ แต่จะไม่พกก็ไม่ดีอีก ไม่เชื่อลองกลับไปอ่านข้อหนึ่ง

สี่ โดนเพื่อนแกล้ง เอามือเอื้อมลอดช่องมาคว้ากางเกงที่แขวนเอาไว้ไป อันนี้หลายคนยืนยันว่ามีประสบการณ์ที่เพื่อนชอบเล่นแกล้งกันอย่างนี้ เหตุมักจะเกิดกับกรณีที่ห้องน้ำมีลักษณะเปิดบนเปิดล่าง แต่อันนี้ส่วนใหญ่จะไม่ทำกันในห้องน้ำสาธารณะแนวมหาชน เด็กๆ จะเล่นแกล้งกันในห้องน้ำโรงเรียนเสียมากกว่า เฮฮากันในหมู่เพื่อนฝูง

ห้า เกิดขี้รดกางเกงตัวเอง (กรณีนั่งยองๆ แล้วรูดกางเกงมาขมวดไว้ที่หัวเข่า) อันนี้วิธีจัดการเหมือนข้อสอง คือต้องซักล้างแล้วรอตากให้แห้ง ว่ากันว่า หากห้องน้ำดังกล่าวโปร่งโล่งมีอากาศถ่ายเทดี สามารถแห้งได้ในเวลาประมาณ 20-30 นาทีโดยประมาณ (หากใช้มือสะบัดช่วยตีลม อาจเร็วกว่านั้นนิดหน่อย)

อย่างที่ว่ามาแหละครับ สำหรับ “ห้องน้ำสาธารณะ” ที่ส่วนใหญ่เวลาเรามีอุบัติเหตุจำเป็นที่เหลืออด เรามักจะปฏิบัติการ “เข้าเร็ว-ออกเร็ว” หากจะมีใครอยู่ในห้องน้ำสาธารณะนานๆ อดไม่ได้ที่จะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าคงจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันข้อหนึ่งข้อใดในห้าข้อที่กล่าวมาข้างต้นเอาไว้ก่อน

ไอ้เรื่องที่อยู่ดีๆ แล้วจะไปแช่อยู่นานๆ ใน “ส้วมธารณะ” โดยไม่มีเหตุจำเป็นนั้น ...ไม่บ้าเค้าไม่ทำกันแหงๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น