นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการปรับ ครม. สมัคร4 ว่า รอให้ประกาศพระบรมราชโองการฯก่อน ยังไม่อธิบายว่าพิจารณาอย่างไรเกี่ยวกับตัวบุคคลที่ได้รับการโปรกเกล้าฯ
ให้ประกาศพระบรมราชโองการก่อน ผมได้ทำหน้าที่ของผมแล้ว และถ้าเรียบร้อยก็จะทำหน้าที่ต่อไป ผมมีหน้าที่จะต้องดูแลบ้านเมืองนี้ เพราะว่า ยังเป็นนายกฯอยู่ แล้วจะดำเนินงานทุกอย่างตามตัวบทกฎหมาย จะมาอะไรยังไงก็ไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันอังคารหน้า ครม.ใหม่จะเริ่มทำงานได้เลยหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ต้องๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์เอาก็แล้วกัน ตนทำหน้าที่ของตนแล้ว
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวยอมรับว่าได้รับคำเชิญจาก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง เพื่อให้เข้ามารับตำแหน่ง รมช.คลังจริง
รัฐมนตรีคลังโทรมาว่าให้ไปช่วยดูแลตรงนี้ (เป็น รมช.คลัง) ผมดูว่าประเทศอยู่ในภาวะที่มีปัญหาเยอะ ด้านความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยทั้งหมด ทำให้ประเทศเสียโอกาส และคนไทยทั้งประเทศเสียโอกาสด้วย ก็เลยเข้าไป
นายสุชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังเชิญ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยงานในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยสามารถเข้าร่วมประชุมกับ ครม.ได้ ขณะที่นายวีรพงษ์ จะไม่ขอรับเงินเดือนในตำแหน่งนี้
เมื่อคืน (30 ก.ค.) ได้มีโอกาสหารือกับ ท่านวีรพงษ์ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางภาวะวิกฤติราคาน้ำมันแพง และเงินเฟ้อสูง โดยเห็นว่าจะต้องพยายามรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ และวันนี้จะเดินทางไปหารือกับผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อประสานความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯก่อนตอนนี้ขอไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ส่วนที่มีข่าวว่า นายวีรพงษ์ จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาดูแลงานด้านเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แต่งตั้ง ทั้งนี้ นายกฯมีความตั้งใจที่จะเชิญบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถหลายๆด้านมาช่วยกันทำงาน ถึงแม้ว่าบางคนจะมาในตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ก็ตาม แต่ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและข้อแนะนำต่างๆ
นพ.สุรพงษ์ ยอมรับว่า ตนได้ให้ความเห็นถึงการปรับ ครม.ในส่วนของทีมเศรษฐกิจต่อนายกฯบ้าง แต่สุดท้ายการตัดสินใจอยู่ที่นายกฯและนายกรัฐมนตรีได้รับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายด้วย แต่ตนไม่ทราบว่าได้คุยกับนายวีรพงษ์อย่างไรบ้าง
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่าการปรับ ครม.คงทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้นน้อยมาก ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ เพราะปัจจัยคุกคามรัฐบาลมีหลายกรณี และคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีผลต่ออายุรัฐบาลและปัจจัยอื่นๆ คุกคาม ดังนั้น การปรับ ครม.ครั้งนี้เพื่อยืดอายุรัฐบาลต่อไป ซึ่งอาจจะมีเวลาไม่ยาวมากนัก และจบด้วยการยุบสภา เนื่องจากมีการส่งสัญญาณหลายประการ ทั้งการออก 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลหวังผลสำหรับการเลือกตั้งโดยเฉพาะ
นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นปัจจัยคุกคามอายุรัฐบาลใหญ่ที่สุด และเป็นประเด็นขัดแย้งทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น หากยังยืนยันแก้ไขมาตรา 309 ที่จะมีต่อความไม่ชอบของ คตส. ทำให้คดีต่างๆ ขาดความชอบธรรมที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าเดินหน้าเร่งรัดก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งหลัก และเป็นอุปสรรคต่อการบริหารของรัฐบาล
นายปกรณ์ ปรียากร คณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวว่านายสมัคร ยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอำนาจเก่าที่ยังมีบทบาทในการปรับ ครม.ครั้งนี้ รัฐมนตรีหลายตำแหน่งเป็นการนำเอาพรรคพวกหรือกลุ่มทุนของนักการเมืองเข้ามา เชื่อว่าจะกิดปัญหารัฐบาลไม่มีผลงานที่ถูกใจประชาชนแน่นอน โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่ดูแล้วภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือตกต่ำกว่าเดิม เนื่องจากการดึงนายไชยา สะสมทรัพย์ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข เข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์ โยกนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ไปเป็น รมว.อุตสาหกรรม
นายไชยา ก็ไม่มีความเชี่ยวชาญงานด้านนี้ โดยเฉพาะการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ เป็นแค่พ่อค้าท้องถิ่น นายมิ่งขวัญ ก็ไม่ถนัดด้านอุตสาหกรรม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ก็อยู่ระหว่างการตีความคุณสมบัติ ล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์ในการทำงานดูแลขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เห็นว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ทำให้ทีมเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าเดิม อยากที่จะหวังพึ่งพิงได้ เป็นการซ้ำเติมภาพลักาณ์การทำงานของรัฐบาลให้แย่ลงไปกว่าเดิม
ให้ประกาศพระบรมราชโองการก่อน ผมได้ทำหน้าที่ของผมแล้ว และถ้าเรียบร้อยก็จะทำหน้าที่ต่อไป ผมมีหน้าที่จะต้องดูแลบ้านเมืองนี้ เพราะว่า ยังเป็นนายกฯอยู่ แล้วจะดำเนินงานทุกอย่างตามตัวบทกฎหมาย จะมาอะไรยังไงก็ไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันอังคารหน้า ครม.ใหม่จะเริ่มทำงานได้เลยหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ต้องๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์เอาก็แล้วกัน ตนทำหน้าที่ของตนแล้ว
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวยอมรับว่าได้รับคำเชิญจาก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง เพื่อให้เข้ามารับตำแหน่ง รมช.คลังจริง
รัฐมนตรีคลังโทรมาว่าให้ไปช่วยดูแลตรงนี้ (เป็น รมช.คลัง) ผมดูว่าประเทศอยู่ในภาวะที่มีปัญหาเยอะ ด้านความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยทั้งหมด ทำให้ประเทศเสียโอกาส และคนไทยทั้งประเทศเสียโอกาสด้วย ก็เลยเข้าไป
นายสุชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังเชิญ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยงานในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยสามารถเข้าร่วมประชุมกับ ครม.ได้ ขณะที่นายวีรพงษ์ จะไม่ขอรับเงินเดือนในตำแหน่งนี้
เมื่อคืน (30 ก.ค.) ได้มีโอกาสหารือกับ ท่านวีรพงษ์ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางภาวะวิกฤติราคาน้ำมันแพง และเงินเฟ้อสูง โดยเห็นว่าจะต้องพยายามรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ และวันนี้จะเดินทางไปหารือกับผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อประสานความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯก่อนตอนนี้ขอไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ส่วนที่มีข่าวว่า นายวีรพงษ์ จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาดูแลงานด้านเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แต่งตั้ง ทั้งนี้ นายกฯมีความตั้งใจที่จะเชิญบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถหลายๆด้านมาช่วยกันทำงาน ถึงแม้ว่าบางคนจะมาในตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ก็ตาม แต่ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและข้อแนะนำต่างๆ
นพ.สุรพงษ์ ยอมรับว่า ตนได้ให้ความเห็นถึงการปรับ ครม.ในส่วนของทีมเศรษฐกิจต่อนายกฯบ้าง แต่สุดท้ายการตัดสินใจอยู่ที่นายกฯและนายกรัฐมนตรีได้รับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายด้วย แต่ตนไม่ทราบว่าได้คุยกับนายวีรพงษ์อย่างไรบ้าง
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่าการปรับ ครม.คงทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้นน้อยมาก ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ เพราะปัจจัยคุกคามรัฐบาลมีหลายกรณี และคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีผลต่ออายุรัฐบาลและปัจจัยอื่นๆ คุกคาม ดังนั้น การปรับ ครม.ครั้งนี้เพื่อยืดอายุรัฐบาลต่อไป ซึ่งอาจจะมีเวลาไม่ยาวมากนัก และจบด้วยการยุบสภา เนื่องจากมีการส่งสัญญาณหลายประการ ทั้งการออก 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลหวังผลสำหรับการเลือกตั้งโดยเฉพาะ
นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นปัจจัยคุกคามอายุรัฐบาลใหญ่ที่สุด และเป็นประเด็นขัดแย้งทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น หากยังยืนยันแก้ไขมาตรา 309 ที่จะมีต่อความไม่ชอบของ คตส. ทำให้คดีต่างๆ ขาดความชอบธรรมที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าเดินหน้าเร่งรัดก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งหลัก และเป็นอุปสรรคต่อการบริหารของรัฐบาล
นายปกรณ์ ปรียากร คณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวว่านายสมัคร ยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอำนาจเก่าที่ยังมีบทบาทในการปรับ ครม.ครั้งนี้ รัฐมนตรีหลายตำแหน่งเป็นการนำเอาพรรคพวกหรือกลุ่มทุนของนักการเมืองเข้ามา เชื่อว่าจะกิดปัญหารัฐบาลไม่มีผลงานที่ถูกใจประชาชนแน่นอน โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่ดูแล้วภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือตกต่ำกว่าเดิม เนื่องจากการดึงนายไชยา สะสมทรัพย์ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข เข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์ โยกนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ไปเป็น รมว.อุตสาหกรรม
นายไชยา ก็ไม่มีความเชี่ยวชาญงานด้านนี้ โดยเฉพาะการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ เป็นแค่พ่อค้าท้องถิ่น นายมิ่งขวัญ ก็ไม่ถนัดด้านอุตสาหกรรม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ก็อยู่ระหว่างการตีความคุณสมบัติ ล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์ในการทำงานดูแลขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เห็นว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ทำให้ทีมเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าเดิม อยากที่จะหวังพึ่งพิงได้ เป็นการซ้ำเติมภาพลักาณ์การทำงานของรัฐบาลให้แย่ลงไปกว่าเดิม