เอเอฟพี – เกิดแผ่นดินไหวขนาดความสั่นสะเทือน 5.4 ริกเตอร์ ทางตอนใต้ของมลรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันอังคาร (29) ทำให้ชาวอเมริกันนับล้านตั้งแต่ลอสแองเจลิสจนถึงซานดิเอโก ต่างตื่นตระหนกและต้องหวนกลับมารับรู้ความจริงที่ว่า สภาพของพื้นที่แถบนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ แจ้งว่าเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.42 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ใกล้กับบริเวณชิโน ฮิลส์ ซึ่งอยู่ห่างจากลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกราว 50 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 12 กิโลเมตร
แม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บร้ายแรงหรือความเสียหายอย่างหนัก แต่อาคารบ้านเรือนต่างๆ ก็เกิดการสั่นไหว ที่ทำงานหลายแห่งสั่งอพยพผู้คนออกนอกตัวอาคารหลังเกิดเหตุ และมีการสั่นสะเทือนภายหลัง หรือ อาฟเตอร์ช็อก ตามมาอีกราว 27 ครั้ง โดยรู้สึกได้ทั่วมลรัฐแคลิฟอร์เนียและเนวาดา ตลอดจนสำนักงานของทางการในซานดิเอโก บรรดานักท่องเที่ยวในดิสนีย์แลนด์และผู้อยู่อาศัยในบริเวณเกิดเหตุไปจนถึงลาสเวกัสต่างก็รับรู้แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวได้เช่นกัน
อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บร้ายแรง และไม่มีความเสียหายมากนัก แต่นี่เป็นการเตือนพวกเราอีกครั้งว่าแคลิฟอร์เนียจะต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันทุกเรื่อง”
เฮนรี เรนเทเรีย ผู้อำนวยการสำนักงานบริการฉุกเฉินแห่งแคลิฟอร์เนีย กล่าวเช่นเดียวกันว่าโชคดีที่ไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ก็ได้เตือนว่า “คนส่วนใหญ่ลืมไปแล้วว่าแผ่นดินไหวเป็นอย่างไร เราจึงควรมองเหตุการณ์นี้ว่าเป็นฝึกรับมือกับแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่จะเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
เวนดี เกรอูล รักษาการนายกเทศมนตรีของลอสแองเจลิสระบุว่ามีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 5 คน โดยมี 2 คนถูกเหยียบในระหว่างที่วิ่งหนีออกมาจากอาคาร
ส่วนนักธรณีวิทยากล่าวว่าภายใน 30 ปีข้างหน้า รัฐแคลิฟอร์เนียมีโอกาสถึง 99 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงซึ่งอาจทำลายพื้นที่เป็นบริเวณกว้างได้
ทั้งนี้ ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์เผยแพร่ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาระบุว่า แผ่นดินไหวที่มีความสั่นสะเทือนขนาด 7.8 ริกเตอร์อาจคร่าชีวิตคนถึง 1,800 คน และทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 50,000 คน รวมทั้งทำความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนถึง 300,000 แห่ง
เมื่อปี 1994 เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวความสั่นสะเทือนขนาด 6.7 ริกเตอร์ที่ลอสแองเจลิส ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าถึงราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่เหตุแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโกเมื่อปี 1989 มีผู้เสียชีวิตไป 67 คน
สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ แจ้งว่าเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.42 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ใกล้กับบริเวณชิโน ฮิลส์ ซึ่งอยู่ห่างจากลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกราว 50 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 12 กิโลเมตร
แม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บร้ายแรงหรือความเสียหายอย่างหนัก แต่อาคารบ้านเรือนต่างๆ ก็เกิดการสั่นไหว ที่ทำงานหลายแห่งสั่งอพยพผู้คนออกนอกตัวอาคารหลังเกิดเหตุ และมีการสั่นสะเทือนภายหลัง หรือ อาฟเตอร์ช็อก ตามมาอีกราว 27 ครั้ง โดยรู้สึกได้ทั่วมลรัฐแคลิฟอร์เนียและเนวาดา ตลอดจนสำนักงานของทางการในซานดิเอโก บรรดานักท่องเที่ยวในดิสนีย์แลนด์และผู้อยู่อาศัยในบริเวณเกิดเหตุไปจนถึงลาสเวกัสต่างก็รับรู้แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวได้เช่นกัน
อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บร้ายแรง และไม่มีความเสียหายมากนัก แต่นี่เป็นการเตือนพวกเราอีกครั้งว่าแคลิฟอร์เนียจะต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันทุกเรื่อง”
เฮนรี เรนเทเรีย ผู้อำนวยการสำนักงานบริการฉุกเฉินแห่งแคลิฟอร์เนีย กล่าวเช่นเดียวกันว่าโชคดีที่ไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ก็ได้เตือนว่า “คนส่วนใหญ่ลืมไปแล้วว่าแผ่นดินไหวเป็นอย่างไร เราจึงควรมองเหตุการณ์นี้ว่าเป็นฝึกรับมือกับแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่จะเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
เวนดี เกรอูล รักษาการนายกเทศมนตรีของลอสแองเจลิสระบุว่ามีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 5 คน โดยมี 2 คนถูกเหยียบในระหว่างที่วิ่งหนีออกมาจากอาคาร
ส่วนนักธรณีวิทยากล่าวว่าภายใน 30 ปีข้างหน้า รัฐแคลิฟอร์เนียมีโอกาสถึง 99 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงซึ่งอาจทำลายพื้นที่เป็นบริเวณกว้างได้
ทั้งนี้ ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์เผยแพร่ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาระบุว่า แผ่นดินไหวที่มีความสั่นสะเทือนขนาด 7.8 ริกเตอร์อาจคร่าชีวิตคนถึง 1,800 คน และทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 50,000 คน รวมทั้งทำความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนถึง 300,000 แห่ง
เมื่อปี 1994 เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวความสั่นสะเทือนขนาด 6.7 ริกเตอร์ที่ลอสแองเจลิส ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าถึงราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่เหตุแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโกเมื่อปี 1989 มีผู้เสียชีวิตไป 67 คน
