ผู้จัดการรายวัน- ก.พลังงานยันตามแผนตรึงแอลพีจี 6 เดือนครบกำหนด 31 ส.ค.ดังนั้นการปรับราคาภาคขนส่งและอุตสาหกรรมจะต้องดำเนินการหลังจากนี้ ย้ำสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปมาตรการดูแลแอลพีจีไม่ให้นำไปใช้ผิดประเภท ส่งสัญญาณทยอยปรับขึ้นเพื่อจ่ายเงินคืนปตท.เป็นหลักไม่ได้ยึดสูตรอิงตลาดโลก
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การตรึงราคาแอลพีจีของรัฐบาลที่ผ่านมา 6 เดือนตามแผนเริ่มมี.ค. 2551 และครบกำหนด31 ส.ค.นี้ดังนั้นเมื่อรัฐบาลตรึงแอลพีจีภาคครัวเรือนต่อไปแต่จะปรับขึ้นเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรมตามแผนแยกราคาเป็น 2 ส่วนนั้นจึงต้องดำเนินการหลัง 31 ส.ค.ซึ่งที่ผ่านมาหลายฝ่ายเข้าใจผิด
สำหรับเดือนก.ค.หน่วยงานต่างๆจะมีการพิจารณามาตรการที่จะดูแลเกี่ยวกับการควบคุมการใช้ผิดประเภทโดยเฉพาะการป้องกันการนำภาคครัวเรือนไปใช้ในภาคขนส่ง ซึ่งสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการการป้องกัน และดูแลไม่ให้เกิดการถ่ายเทไปใช้ผิดประเภท
" ภาคขนส่งและอุตสาหกรรมที่จะมีการปรับราคาในเร็วๆนี้ หากได้ข้อสรุปในส่วนนี้ เรื่องอื่นก็จะได้ดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามการจะป้องกันได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้ผลิต โรงกลั่น โรงบรรจุ และผู้ขาย เพราะแต่ละส่วนจะรับทราบปริมาณแอลพีจีที่แน่นอน หากมีการถ่ายเทก็ต้องทราบ"นายพรชัยกล่าว
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นในครั้งนี้ก็ยังไม่ใช่การปรับตามโครงสร้างราคาใหม่ ที่กำหนดให้ราคาแอลพีจีในประเทศอิงราคาในตลาดโลกเพิ่มขึ้น สูงสุดคืออิงราคาในตลาดโลก 40% ซึ่งตามสูตรราคานี้ จะทำให้ราคาในประเทศปรับขึ้นไปถึง 8-9 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งมองว่าภาคครัวเรือนคงรับไม่ไหวในภาวะน้ำมันแพง ค่าครองชีพสูงขึ้นในขณะนี้ กระทรวงพลังงานจึงเลื่อนออกไปก่อน และพิจารณาปรับเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรม โดยปรับเพื่อนำเงินไปใช้คืนให้กับบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) ที่ได้รับภาระส่วนต่างในการนำเข้าแอลพีจีเป็นหลักและจะเป็นการทยอยปรับเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคและเรียกเงินเข้ากองทุนฯเพื่อส่งคืนหนี้ปตท.ที่ได้แบกภาระนำเข้าไปก่อนแล้ว
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การตรึงราคาแอลพีจีของรัฐบาลที่ผ่านมา 6 เดือนตามแผนเริ่มมี.ค. 2551 และครบกำหนด31 ส.ค.นี้ดังนั้นเมื่อรัฐบาลตรึงแอลพีจีภาคครัวเรือนต่อไปแต่จะปรับขึ้นเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรมตามแผนแยกราคาเป็น 2 ส่วนนั้นจึงต้องดำเนินการหลัง 31 ส.ค.ซึ่งที่ผ่านมาหลายฝ่ายเข้าใจผิด
สำหรับเดือนก.ค.หน่วยงานต่างๆจะมีการพิจารณามาตรการที่จะดูแลเกี่ยวกับการควบคุมการใช้ผิดประเภทโดยเฉพาะการป้องกันการนำภาคครัวเรือนไปใช้ในภาคขนส่ง ซึ่งสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการการป้องกัน และดูแลไม่ให้เกิดการถ่ายเทไปใช้ผิดประเภท
" ภาคขนส่งและอุตสาหกรรมที่จะมีการปรับราคาในเร็วๆนี้ หากได้ข้อสรุปในส่วนนี้ เรื่องอื่นก็จะได้ดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามการจะป้องกันได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้ผลิต โรงกลั่น โรงบรรจุ และผู้ขาย เพราะแต่ละส่วนจะรับทราบปริมาณแอลพีจีที่แน่นอน หากมีการถ่ายเทก็ต้องทราบ"นายพรชัยกล่าว
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นในครั้งนี้ก็ยังไม่ใช่การปรับตามโครงสร้างราคาใหม่ ที่กำหนดให้ราคาแอลพีจีในประเทศอิงราคาในตลาดโลกเพิ่มขึ้น สูงสุดคืออิงราคาในตลาดโลก 40% ซึ่งตามสูตรราคานี้ จะทำให้ราคาในประเทศปรับขึ้นไปถึง 8-9 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งมองว่าภาคครัวเรือนคงรับไม่ไหวในภาวะน้ำมันแพง ค่าครองชีพสูงขึ้นในขณะนี้ กระทรวงพลังงานจึงเลื่อนออกไปก่อน และพิจารณาปรับเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรม โดยปรับเพื่อนำเงินไปใช้คืนให้กับบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) ที่ได้รับภาระส่วนต่างในการนำเข้าแอลพีจีเป็นหลักและจะเป็นการทยอยปรับเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคและเรียกเงินเข้ากองทุนฯเพื่อส่งคืนหนี้ปตท.ที่ได้แบกภาระนำเข้าไปก่อนแล้ว