รอยเตอร์ – หน่วยงานกำกับดูแลตลาดซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของอเมริกัน ตั้งข้อหากองทุนซื้อขายของดัตช์ กับสาขาในนครชิคาโกเมื่อวันพฤหัสบดี(24) ว่าปั่นราคาในตลาดน้ำมันเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ความเคลื่อนไหวคราวนี้เป็นผลมาจากการสอบสวนในระดับทั่วประเทศ ว่าด้วยการซื้อขายตราสารพลังงานอย่างผิดกฎหมาย
คณะกรรมการซื้อขายอนุพันธ์ฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ (ซีเอฟทีซี) กล่าวหาพนักงาน 3 คนของกองทุนออฟติเวอร์ โฮลดิ้ง บีวี ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งซีอีโอ และผู้อำนวยการฝ่ายค้าตราสารของกองทุนแห่งนี้ ว่าปั่นราคาน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันเตา ในการค้าล่วงหน้าที่ตลาดค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์ค หรือ ไนเม็กซ์ โดยการฉ้อฉลดังกล่าวสร้างรายได้ให้ราว 1 ล้านดอลลาร์ ผ่านการซื้อขายในระบบอีเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่าโกลเบ็กซ์
ซีเอฟทีซีกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักทั้งจากรัฐสภาและประชาชนอเมริกันทั่วไป ให้ปราบปรามการเก็งกำไรหรือการซื้อขายตราสารพลังงานที่ผิดปกติ ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่ายที่ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 147 ดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อกลางเดือนนี้ เกิดขึ้นจากการปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรของพวกค้าตราสาร
ความเคลื่อนไหวในทางปราบปรามของซีเอฟทีซีเมื่อวันพฤหัสบดีคราวนี้ เกิดขึ้น 1 วันก่อนหน้าวุฒิสภาแห่งสหรัฐฯ จะพิจารณาลงมติร่างกฎหมายฉบับสำคัญ ซึ่งมุ่งควบคุมการเก็งกำไร รวมทั้งเพิ่มระเบียบใหม่ให้ผู้ค้าต้องปฏิบัติตาม โดยที่ทางซีเอสทีซีจะต้องเป็นผู้นำมาบังคับใช้ต่อไป
สตีเฟ่น โอบี รักษาการผู้อำนวยการของซีเอฟทีซีปฏิเสธว่า การดำเนินการเรื่องคดีคราวนี้ ไม่ได้มุ่งสร้างอิทธิพลต่อการลงมติในรัฐสภาแต่อย่างใด “คดีนี้ไม่ใช่คดีเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจทางการเมือง” เขากล่าว
สำหรับคำฟ้องของซีเอฟทีซีกล่าวหาว่า พนักงานของกองทุนแห่งนี้วางแผนปั่นราคาน้ำมันในตลาดในช่วงปิดการซื้อขาย ซึ่งทำได้โดยการเสนอซื้อตราสารเข้ามาในช่วงใกล้ปิดตลาด และหลังจากนั้นก็ปล่อยตราสารออกก่อนก่อนจะหน้าที่จะปิดการซื้อขายประจำวันเล็กน้อย เพื่อให้ได้ราคาดังที่ต้องการ
สำนักงานของออพติเวอร์ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆเกี่ยวกับกรณีนี้เลย ในขณะที่ซีเอฟทีซีระบุว่าความเคลื่อนไหวของพนักงานของออพติเวอร์ดังกล่าว ทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันฟิวเจอร์ลดลงสามครั้ง และอีกสองครั้งทำให้ราคาเพิ่มขึ้น
“แม้ว่าการเข้าแทรกแซงตลาดเช่นนี้เกิดขึ้นช่วงสั้นในเดือนมีนาคมปี 2007 ตลาดก็จะไม่ดูดาย แม้ว่าการกระทำนี้จะทำให้บิดเบือนราคาน้ำมันไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม” วอลท์ ลุคเคน รักษาการประธานของซีเอฟทีซีกล่าว
ซีเอฟทีซีได้เริ่มสอบสวนกรณีการปั่นราคาในตลาดน้ำมันมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
โอบีกล่าวว่าหากพบว่าผู้ต้องสงสัยมีความผิดจริงก็จะต้องถูกปรับอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้กล่าวว่าจะมีการฟ้องร้องในคดีอาญาหรือไม่ เขากล่าวอีกว่าตอนนี้คณะกรรมการกำลังดำเนินการสอบสวนคดีปั่นราคาพลังงานเช่นนี้อีกมากมายหลายสิบคดี
เมื่อนักข่าวถามว่าจะต้องมีการเพิ่มเติมกฎระเบียบเข้ามาควบคุมตลาดน้ำมันอีกหรือไม่ โอบีกล่าวแต่เพียงว่าคดีที่แถลงออกมานี้แสดงให้เห็นแล้วว่าซีเอฟทีซีมีอำนาจอันกว้างขวางในการตรวจตราและดำเนินการทางกฎหมายเหนือตลาดโภคภัณฑ์
ในขณะเดียวกันวุฒิสมาชิกทอม ฮาร์กิน สังกัดพรรคเดโมแครตจากมลรัฐไอโอวา เผยว่าร่างกฎหมายที่วุฒิสภานำเสนอจะให้อำนาจแก่ซีเอฟทีซีมากขึ้น ในกำกับดูแลตลาดนี้รวมทั้งป้องกันการปั่นราคาด้วย
คณะกรรมการซื้อขายอนุพันธ์ฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ (ซีเอฟทีซี) กล่าวหาพนักงาน 3 คนของกองทุนออฟติเวอร์ โฮลดิ้ง บีวี ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งซีอีโอ และผู้อำนวยการฝ่ายค้าตราสารของกองทุนแห่งนี้ ว่าปั่นราคาน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันเตา ในการค้าล่วงหน้าที่ตลาดค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์ค หรือ ไนเม็กซ์ โดยการฉ้อฉลดังกล่าวสร้างรายได้ให้ราว 1 ล้านดอลลาร์ ผ่านการซื้อขายในระบบอีเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่าโกลเบ็กซ์
ซีเอฟทีซีกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักทั้งจากรัฐสภาและประชาชนอเมริกันทั่วไป ให้ปราบปรามการเก็งกำไรหรือการซื้อขายตราสารพลังงานที่ผิดปกติ ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่ายที่ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 147 ดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อกลางเดือนนี้ เกิดขึ้นจากการปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรของพวกค้าตราสาร
ความเคลื่อนไหวในทางปราบปรามของซีเอฟทีซีเมื่อวันพฤหัสบดีคราวนี้ เกิดขึ้น 1 วันก่อนหน้าวุฒิสภาแห่งสหรัฐฯ จะพิจารณาลงมติร่างกฎหมายฉบับสำคัญ ซึ่งมุ่งควบคุมการเก็งกำไร รวมทั้งเพิ่มระเบียบใหม่ให้ผู้ค้าต้องปฏิบัติตาม โดยที่ทางซีเอสทีซีจะต้องเป็นผู้นำมาบังคับใช้ต่อไป
สตีเฟ่น โอบี รักษาการผู้อำนวยการของซีเอฟทีซีปฏิเสธว่า การดำเนินการเรื่องคดีคราวนี้ ไม่ได้มุ่งสร้างอิทธิพลต่อการลงมติในรัฐสภาแต่อย่างใด “คดีนี้ไม่ใช่คดีเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจทางการเมือง” เขากล่าว
สำหรับคำฟ้องของซีเอฟทีซีกล่าวหาว่า พนักงานของกองทุนแห่งนี้วางแผนปั่นราคาน้ำมันในตลาดในช่วงปิดการซื้อขาย ซึ่งทำได้โดยการเสนอซื้อตราสารเข้ามาในช่วงใกล้ปิดตลาด และหลังจากนั้นก็ปล่อยตราสารออกก่อนก่อนจะหน้าที่จะปิดการซื้อขายประจำวันเล็กน้อย เพื่อให้ได้ราคาดังที่ต้องการ
สำนักงานของออพติเวอร์ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆเกี่ยวกับกรณีนี้เลย ในขณะที่ซีเอฟทีซีระบุว่าความเคลื่อนไหวของพนักงานของออพติเวอร์ดังกล่าว ทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันฟิวเจอร์ลดลงสามครั้ง และอีกสองครั้งทำให้ราคาเพิ่มขึ้น
“แม้ว่าการเข้าแทรกแซงตลาดเช่นนี้เกิดขึ้นช่วงสั้นในเดือนมีนาคมปี 2007 ตลาดก็จะไม่ดูดาย แม้ว่าการกระทำนี้จะทำให้บิดเบือนราคาน้ำมันไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม” วอลท์ ลุคเคน รักษาการประธานของซีเอฟทีซีกล่าว
ซีเอฟทีซีได้เริ่มสอบสวนกรณีการปั่นราคาในตลาดน้ำมันมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
โอบีกล่าวว่าหากพบว่าผู้ต้องสงสัยมีความผิดจริงก็จะต้องถูกปรับอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้กล่าวว่าจะมีการฟ้องร้องในคดีอาญาหรือไม่ เขากล่าวอีกว่าตอนนี้คณะกรรมการกำลังดำเนินการสอบสวนคดีปั่นราคาพลังงานเช่นนี้อีกมากมายหลายสิบคดี
เมื่อนักข่าวถามว่าจะต้องมีการเพิ่มเติมกฎระเบียบเข้ามาควบคุมตลาดน้ำมันอีกหรือไม่ โอบีกล่าวแต่เพียงว่าคดีที่แถลงออกมานี้แสดงให้เห็นแล้วว่าซีเอฟทีซีมีอำนาจอันกว้างขวางในการตรวจตราและดำเนินการทางกฎหมายเหนือตลาดโภคภัณฑ์
ในขณะเดียวกันวุฒิสมาชิกทอม ฮาร์กิน สังกัดพรรคเดโมแครตจากมลรัฐไอโอวา เผยว่าร่างกฎหมายที่วุฒิสภานำเสนอจะให้อำนาจแก่ซีเอฟทีซีมากขึ้น ในกำกับดูแลตลาดนี้รวมทั้งป้องกันการปั่นราคาด้วย