xs
xsm
sm
md
lg

PTTCHฉวยจังหวะขาลงปิโตรเคมี สยายปีกลงทุนตปท.-ชี้ครึ่งปีหลังมาร์จิ้นหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ปตท.เคมิคอล แจงการเข้าถือหุ้นในค็อกนิส โอลีโอเคมิคอลส์ 50% ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการลงทุนสู่ตลาดโลก โดยอาศัยช่วงจังหวะขาลงปิโตรเคมี ทำดีลM&A เผยมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ยอมรับครึ่งปีหลังนี้มาร์จินหด หลังต้นทุนก๊าซฯพุ่งขึ้น 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน และราคาผลิตภัณฑ์ส่อเค้าลด เหตุมีซัพพลายใหม่เข้าสู่ตลาด เตรียมกู้เงินแบงก์ไทย 1 หมื่นล้านแทนการออกหุ้นกู้ เพื่อใช้โครงการลงทุนต่างๆ

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน)(PTTCH) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ปตท.เคมิคอล อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรเวท จำกัด ได้ร่วมลงนามข้อตกลงการร่วมทุนกับบริษัท ไซม์ ดาร์บี้ แพลนเทชั่น จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลก เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและถือครองหุ้นร่วมกันในบริษัท ค็อกนิส โอลีโอเคมิคอลส์ (COM) ฝ่ายละ 50%เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นก้าวย่างสำคัญของบริษัทฯในการลงทุนสู่ตลาดโลก สร้างรายได้ เพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจ และลดความผันผวนทางด้านราคา เนื่องจากมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ หลังจากการลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีในไทยมีข้อจำกัดทั้งด้านวัตุถดิบ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาบตาพุด และนโยบายรัฐในการส่งเสริมโครงการเซ้าเทิร์น ซีบอร์ดไม่มีความแน่นอนว่าจะไปทิศทางใด

ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศของPTTCH นับจากนี้ไป จะมุ่งเน้นธุรกิจที่บริษัทฯมีความชำนาญ โดยพิจาณาโครงการที่มีตลาดรองรับเป็นสำคัญ โดยอาศัยช่วงจังหวะวัฎจักรขาลง(ดาวน์ เทรน)ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทำให้การเจรจาควบรวมกิจการ(M&A)ทำได้ง่าย และใช้เงินลงทุนไม่สูง เช่นเดียวกับดีลค็อกนิสฯ ที่โกลด์แมนแซกส์ ซึ่งเป็นไพรเวท อิคิวตี้ ฟันด์ในฐานะผู้ถือหุ้นค็อกนิสฯ ต้องการถอนการลงทุนจึงได้ทยอยขายธุรกิจค็อกนิสฯออกมา ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีโครงการอื่นๆที่พิจารณาอยู่ แต่ใช้เงินลงทุนไม่มาก

" การตัดสินใจซื้อหุ้นค็อกนิส บีวี ซึ่งเป็นบริษัทสาขาที่ถือหุ้นทั้งหดมโดยค็อกนิส จีเอ็มบีเอช เพื่อถือหุ้นหุ้น 50%ของบริษัท ค็อกนิส โอลีโอเคมิคอลส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตโอลีโอเคมีรายใหญ่ของโลก มีโรงงานอยู่ที่มาเลเซีย สหรัฐฯ เยอรมัน และแคนาดา คิดเป็นกำลังการผลิต 9.62 แสนตัน/ปี มีรายได้เฉลี่ยปีละ 730 ล้านเหรียญยูโร หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และ EBITDA 39 ล้านเหรียญยูโร นับการสร้างความเติบโตของบริษัทในต่างประเทศ โดยได้รับเทคโนโลยีและมีตลาดรองรับทันที "

ทั้งนี้ บริษัทฯจะรับรู้กำไรจากCOM ประมาณ 1.6 พันล้านบาทต่อปี คาดว่าจะรับรู้ทันทีที่มีการปิดการซื้อหุ้นได้ภายในเดือนก.ย.นี้ โดยบริษัทฯจะใช้เงินลงทุนในดีลนี้ประมาณ 104 ล้านเหรียญยูโร แหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยปีนี้คาดว่าPTTCH จะมีรายได้รวมทั้งสิ้น 8 หมื่นล้านบาท และในปี 2553 จะมีรายได้ทะลุ 1.2 แสนล้านบาท หากมีการบันทึกรับรู้รายได้จากCOM และโรงโอเลฟินส์ขนาดล้านตันและดาวน์สตรีมที่จะเริ่มดำเนินการผลิตได้

ทั้งนี้ รายได้ในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก 2551 ที่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน แต่รายได้ดังกล่าวน่าจะต่ำกว่าครึ่งปีหลัง 2550 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์พลาสติกน่าจะอ่อนตัวลงหลังจากมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งปตท.ได้ปรับขึ้นราคาก๊าซฯในครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทฯมีภาระต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นตันละ 100 เหรียญสหรัฐด้วย ทำให้อัตรากำไร(มาร์จิน)ในครึ่งปีหลังจะต่ำลงด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาก๊าซฯที่ปรับขึ้นอีก 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน คิดเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 10-15% ยังเป็นอัตราการขึ้นที่รับได้ หากเทียบกับคู่แข่งที่ใช้แนฟธาเป็นวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 100%ในปีนี้ มาอยู่ที่ระดับ 1,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ต้นทุนผลิตภัณฑ์พลาสติกของ PTTCH แข่งขันในตลาดโลกได้

นายอดิเทพ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯได้เปลี่ยนแผนการออกหุ้นกู้มาเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินแทน วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้นทุนการเงินต่ำกว่า โดยเงินกู้ดังกล่าวจะนำมาใช้ในการลงทุนโครงการต่างๆตามแผนการลงทุน 5ปี (2549- 2553)ที่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 9 หมื่นล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น