xs
xsm
sm
md
lg

ประชาชนปกป้อง "สนธิ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ได้ประกันตัวหลังมอบตัวสู้คดีหมิ่นเบื้องสูง เจ้าตัวยกความดีให้คลื่นพันธมิตรประชาชนฯ ที่มาให้กำลังใจถึงหน้า บช.น. ชี้วีรบุรุษตัวจริงคือประชาชน แฉเล่ห์ตำรวจให้ประกันตัวแต่ขอแลกกับยุติการชุมนุม แต่ตนไม่ยอม ด้าน พล.อ.ปฐมพงษ์แต่งเครื่องแบบให้การฯ ยืนยัน “สนธิ” แสดงจงรักภักดีต่อชาติและปกป้องราชบัลลังก์ ย้ำ ผบ.ทบ.ยืนเคียงข้างประชาชน "อัศวิน" ยอมรับแตกต่างคดี "ดา ตอร์ปิโด"

วานนี้ (24 ก.ค.) เวลา 09.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้ามอบตัวตามหมายจับข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีนำคำพูดของ น.ส.ดารณี เชิงชาญศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด มาปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ โดยมี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผช.ผบ.ตร.พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และพนักงานสอบสวนร่วมกันสอบปากคำ ใช้เวลานานกว่า 2 ชม. 30 นาที โดยมีแกนนำพันธมิตรฯ ได้แก่ นายภิภพ ธงไชย เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ร่วมกับ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งแต่งเครื่องแบบนายทหารเต็มยศ

พันธมิตรฯ ทั่วประเทศบุก บช.น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.30 น. พันธมิตรฯ ทั่วประเทศที่รับรู้ข่าว ต่างหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนแน่นขนัดมืดฟ้ามัวดิน เพื่อรวมพลังบริสุทธิ์ และให้กำลังใจ รวมทั้งจะเดินไปพร้อมกับนายสนธิที่จะเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลในเวลา 09.00 น.

เวลาประมาณ 08.00 น. ขบวนของพันธมิตรฯ ได้เตรียมตัวเคลื่อนออกจากบริเวณสะพานมัฆวานฯ แล้ว โดยมีรถหกล้อที่ดัดแปลงเป็นเวทีเคลื่อนที่นำขบวน ซึ่งบนรถเคลื่อนที่ดังกล่าวมีทีมงานโฆษกพันธมิตรฯ เช่น นายอมร อมรรัตนานนท์ นางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นางสาวอัญชลี ไพรีรัก ฯลฯ คอยประกาศทางเครื่องขยายเสียงเพื่อทำความเข้าใจต่อผู้ชุมนุมเกี่ยวกับขั้นตอนการเคลื่อนขบวน โดยมีประชาชนมารออยู่แล้วหลายหมื่นคนเต็มพื้นที่ถนนราชดำเนินนอก จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้าขณะที่นายสนธิพร้อมด้วยแกนนำคนอื่นๆ ได้มารออยู่ที่หน้าขบวน บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล วังปารุสก์ และขบวนประชาชนได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณสะพานมัฆวานฯ แล้ว โดยมีโฆษกบนเวทีเคลื่อนที่คอยประกาศทำความเข้าใจต่อผู้ชุมนุมเพื่อให้การเคลื่อนขบวนประชาชนหลายหมื่นคนเป็นไปด้วยความสะดวก สลับกับการปราศรัยโจมตีระบบรัฐตำรวจเป็นระยะๆ

มีรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น. นายสนธิได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าตำรวจจะใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อมาโฆษกบนเวทีได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบว่าจะมีการจัดเวทีปราศรัยย่อยที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อปักหลักชุมนุมอยู่ที่นี่จนกว่านายสนธิจะได้รับการประกันตัว โดยมีนายศรัณยู วงศ์กระจ่าง นายอมร อมรรัตนานนท์ และนางสาวอัญชลี ไพรีรัก ช่วยกันประกาศทางเคลื่อนขยายเสียงเพื่อจัดริ้วขบวนการชุมนุมให้เรียบร้อย โดยมีการปิดการจราจรบนถนนศรีอยุธยาด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งแต่บัดนั้น ทั้งนี้ นายอมรได้ปราะกาศบนเวทีว่า นอกจาก พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน พันธมิตรฯ จะมาอยู่ในที่ชุมนุมแล้ว ยังมีทหารอีกจำนวนมากมาร่วมชุมนุมด้วย

ขณะที่นายอมร กล่าวต่อผู้ชุมนุมว่า การออกหมายจับนายสนธิครั้งนี้เป็นแผนการของตำรวจที่จะสร้างเงื่อนไขให้ผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวาย แล้วจะถือโอกาสให้ทหารประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เชื่อว่าทหารจะไม่ทำตาม เพราะทหารได้มาอยู่กับประชาชนแล้ว ต่อมานายปานเทพได้ขึ้นปราศรัยว่า หากตำรวจจงใจกลั่นแกล้งดำเนินคดีประชาชนนั้น ถือว่ามีความผิดถึงขั้นจำคุกและความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ตามกฎหมายอาญาระบุชัดเจนว่าให้ดูที่เจตนา ซึ่งเจตนาการพูดของนายสนธินั้นต้องการปกป้องสถาบันอย่างชัดเจน และขอให้ตำรวจได้ดูว่าพวกเราที่มาเป็นพวกที่หมิ่น หรือปกป้องพระราชบัลลังก์กันแน่ หลังจากนั้นผู้ร่วมชุมนุมซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นหลายหมื่นคนได้ปรบมือยืนยันสิ่งที่นายปานเทพปราศรัย

นางสาวอัญชลี ได้ปราศรัยว่า คนในเครือข่ายพรรคพลังประชาชน และอดีตพรรคไทยรักไทยได้กระทำการในลักษณะเดียวกันกับ ดา ตอร์ปิโด อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดรายการทางวิทยุ และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ แต่ทำไมตำรวจไม่ไปจับ คำตอบง่ายมาก เพราะรัฐตำรวจพวกนี้ไม่เคยทำงานภายใต้ฝ่าละลองธุลีพระบาท ไม่เคยรับใช้ประชาชน แต่ไปรับใช้ผู้มีอำนาจ ทั้งที่วันนี้เจ้าของอำนาจที่แท้จริงคือประชาชน

เวลา 10.19 น.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ขึ้นกล่าวปราศรัยว่าอีกประมาณ 4 ปี ก็จะครบรอบ 100 ปี ตำรวจไทย ไม่น่าเชื่อว่าตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับนายสนธิ คนที่ได้เรียนกฎหมายนั้นเบื้องต้นต้องรู้ว่าการใช้กฎหมายหมิ่นประมาทนั้นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก เฉพาะอย่างยิ่งข้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ว่านึกจะกล่าวหาใครก็จะกล่าวหาได้ง่ายๆ ที่สำคัญคือคนใกล้ชิดรัฐบาล เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข ทำไมมองไม่เห็น ขอให้ตำรวจได้ตระหนักว่าภาพลักษณ์ของตำรวจไม่ค่อยดีอยู่แล้ว อย่าให้ตำรวจตกต่ำไปกว่านี้

นายสมศักดิ์ ได้กล่าวเตือนถึง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รีบปล่อยตัวนายสนธิ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่เช่นนั้นถ้าเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว จะไม่ให้อภัยแม้แต่นิดเดียว ถ้าตำรวจมาด้วยกฎหมายก็จะสู้กลับด้วยกฎหมาย มาแบบไหนก็ไปแบบนั้น พร้อมสู้ทุกรูปแบบ จะเอาอย่างไรว่ามาได้เลย และขอบอกว่าคนจำนวนมากเขาไม่ได้กินแกลับ รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก ดังนั้นเมื่อสอบสวนแล้วเห็นว่านายสนธิไม่มีเจตนาในการกระทำผิด เพื่อให้ความรู้สึกดีๆ กลับคืนมา ก็ควรปล่อยตัวนายสนธิโดยไม่มีเงื่อนไข และขอให้พี่น้องปรบมือให้กับตำรวจ ถ้ากลับใจในการสอบสวน เราเป็นสุภาพบุรุษพอ พร้อมให้อภัยกับคนที่สำนึกได้ แต่ถ้ายังมีความอยุติธรรมอยู่ เราก็พร้อมสู้ถึงที่สุด ประชาชนเดือดร้อนมาเยอะแล้ว ประเทศชาติเสียหายมามาแล้วมาถึงจุดที่เราจะยอมไม่ได้

"ปฐมพงศ์" องอาจสวมเครื่องแบบสู้

ต่อมานายสำราญ รอดเพชร ได้ประกาศให้ทราบว่า พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองทัพไทย ได้มาร่วมชุมนุมด้วย และนายอมร ได้ประกาศข่าวดีว่า พล.อ.ท.กล้าหาญ ไพรีกุล อดีตผู้บังคับการกองบิน 5 ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน พันธมิตรฯ ขอสมัครเป็นกรรมการพลังแผ่นดิน โดบบอกว่าพร้อมสนับสนุนนกิจกรรมของพันธิมิตรฯ ทุกรูปแบบ และจะทำหน้าที่ประสานกับ ผบ.ทอ.ในการสนับสนุนพันธมิตรฯ นอกจากนี้ นายแก่นฟ้า ผู้ประสานงานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน บอกว่า มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรเข้ามาสมัครเป็นกองกำลังพลังแผ่นดินจำนวน 15 คนแล้ว

นายสำราญได้กล่าวย้ำว่า ข้อเรียกร้องในการุมนุมของเราคือให้ปล่อยนายสนธิโดยไม่มีเงื่อนไข ต่อมานายสำราญระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จะมีการปล่อยตัวนายสนธิแน่นอน

เวลาเดียวกัน ตำรวจอ้างว่าจะมีการแถลงข่าวการให้ประกันตัวนายสนธิ ซึ่งนายสนธิไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายจึงอยากให้ผู้ชุมนุมกลับไปรอที่เวทีใหญ่

เวลา 11.48 น.นายสนธิ ได้ออกมาจากห้องสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และได้ขึ้นเวทีปราศรัยชั่วคราวด้านหน้าด้วยสีหน้าสดชื่น พร้อมประกาศชัยชนะและยืนยันว่าจะต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนให้ถึงที่สุดและยอมตายได้เพราะชีวิตนี้เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียวเท่านั้น

นายสนธิ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับคดีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด และ เนื่องจากบริเวณสวนอัมพรขณะนี้มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จึงขอให้พี่น้องกลับไปที่เวทีสะพานมัฆวานฯ แล้วจะไปขึ้นเวทีเพื่อบอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ขอให้เดินกลับไปที่เวทีด้วยความสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพนักงานสอบสวนปล่อยตัวนายสนธิ แล้ว พล.อ.ปฐมพงษ์ ได้ออกมายืนดูสถานการณ์การชุมนุม ก่อนที่ผู้ชุมนุมทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนกลับไปอย่างสงบ

แฉเล่ห์ให้ประกันตัวแลกยุติชุมนุม

เวลา 13.00 น. นายสนธิได้กลับมาขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวาน โดยเริ่มต้นด้วยการขอให้ผู้ร่วมชุมนุมได้กล่าวคำว่า "ทรงพระเจริญ" 3 ครั้ง หลังจากนั้นได้กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาพ่อแม่พี่น้องมีไม่น้อยที่เสียน้ำตาให้กับตน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการเสียน้ำตาให้กับความยุติธรรม และวันนี้ที่พี่น้องไปแสดงความห่วงใยอย่างมากมาย ก็เพราะตนเป็นตัวแทนแกนนำพันธมิตรฯ ขอยกความดีความชอบให้ประชาชนทุกคนเป็นวีรบุรุษ

“สนธิไม่ใช่เป็นวีรบุรุษ แต่เป็นตัวแทนประชาชนนับล้านๆ เสียงที่รักความยุติธรรม หากให้เป็นแผ่นดินลุกเป็นไฟ ก็ให้จับสนธิขังสิ และเมื่อนั้นพันธมิตรฯ นับสิบล้านจะออกมา” นายสนธิกล่าวและว่า ตำรวจส่วนใหญ่ดี มีบางคนที่เลว แนวคิดที่ต้องการกำจัดหรือเล่นงานตนถือว่าดูถูกน้ำใจพี่น้องประชาชน เป็นความคิดโง่ๆ

"เมื่อคืนมีกระบวนการต่อรองเยอะมาก มีการต่อรองว่า ถ้าให้สนธิประกันตัว ต้องให้สนธิเลิกประท้วง บางคนหวังดี แต่ประสงค์ร้าย แจ้งมาบอกว่า ยังไงเขาก็ไม่ให้ประกันตัว ยังไงก็ติดคุก ให้รีบหนีไปเสีย" นายสนธิกล่าวและว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจับกุมคือรัฐบาลชาติชั่ว ที่หวังจะให้พันธมิตรฯ เลิกชุมนุม เป็นการคิดผิดครั้งใหญ่ เพราะคิดว่ากำจัดสนธิแล้วไม่มีคนต่อต้าน ซึ่งไม่จริง (อ่านคำต่อคำ... สนธิ(ประชาชน)ประกาศเดินหน้า "ขับไล่รัฐบาลชาติชั่ว-ปกป้องสถาบันกษัตริย์"...หน้า 2)

"ปฐมพงศ์"รับรองสนธิจงรักภักดี

เที่ยงวานนี้ (24 ก.ค.) พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ได้ขึ้นเวทีปราศรัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พร้อมแต่งเครื่องแบบเต็มยศ ภายหลังเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะพยานในคดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ขอยืนยันว่านายสนธิได้แสดงจงรักภักดีต่อชาติและปกป้องราชบัลลังก์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้มีเจตนากระทำผิดตามข้อกล่าวหา และขอเรียกร้องให้พันธมิตรฯ รวมตัวกันเป็นปึกแผ่นเพื่อปกป้องสถาบัน พร้อมทั้งวอนให้ทหารทุกกรมกองออกมาแสดงตัวเพื่อแสดงความจงรักภักดีร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ สุดท้ายขอยืนยันว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวว่าจะขอยืนเคียงคู่ข้างประชาชน และปกป้องราชบัลลังก์ตลอดไป

"สนธิ"ไม่มีเจตนากระทำผิด

นายสุวัตร์ อภัยภักดิ์ ทนายความนายสนธิ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า นายสนธิ ให้ตนมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชลแทน โดยระบุว่าไม่มีเจตนากระทำผิดตามมาตรตรา 112 แต่นายสนธิ ได้สรุปคำพูดของนางสาวดารณี เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และต้องการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินคดีกับนางสาวดารณี อีกทั้งนายสนธิ มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และจะขึ้นเวทีปราศรัยตามปกติ ส่วนกระแสข่าวที่จะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เนื่องจากได้มีการพูดคุยกันจนมีความเข้าใจ ทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรจะดูท่าทีต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายสุวัตร เชื่อว่าเรื่องนี้ เป็นประเด็นทางการเมือง โดยพรรคพลังประชาชนอยู่เบื้องหลัง เพราะคนที่ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อนายสนธิ ก็เป็นคนเดียวกับที่ไปแจ้งความดำเนินคดีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ คือ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.สอบตกของพรรคพลังประชาชน

"อัศวิน" เปิดใจให้ประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานขั้นตอนการมอบตัวของนายสนธิว่า นายสนธิให้การปฏิเสธตลอดข้อหากล่าวหา พร้อมให้ทนายความส่วนตัวยื่นเรื่องขอประกันตัวโดยใช้ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของนายคำนูญ สิทธิสมาน เป็นหลักประกันตัวออกไป จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสนธิไปพิมพ์ลายนิ้วมือและลงบันทึกประจำวันไว้และปล่อยตัวชั่วคราวในที่สุด

พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำนายสนธิ ว่าพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายสนธิ ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเสร็จสิ้นแล้ว และได้มอบให้ พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รองผบช.น.ดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งการสอบสวนได้ดำเนินตามขั้นตอน และนายสนธิ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยนายคำนูญ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้ตำแหน่งค้ำประกัน

ผบช.น.กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาตำแหน่งของผู้ประกันและหลักฐานอื่นๆ ประกอบแล้ว เห็นว่าสามารถให้ประกันได้เนื่องจากมีตำแหน่งที่น่าเชื่อถือ หากผิดสัญญาที่ยื่นประกันตัวไว้ ต้องชดใช้ 300,000 บาท ซึ่งเมื่อครั้งที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูรณ์ ได้มามอบตัวที่ สน.นางเลิ้ง พนักงานสอบสวนก็ได้พิจารณาดูแล้วเห็นว่า ไม่น่าจะหลบหนีและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจึงให้ประกันตัว โดยทั้งสองกรณีให้ประกันตัวเพราะมีที่อยู่เป็นหลังแหล่ง มีตำแหน่งค้ำประกันมั่นคง

ต่อข้อถามที่มีการพูดถึงเรื่องเจตนาในการกระทำความผิดของนายสนธิ ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะหมิ่นเบื้องสูง แต่เป็นการปกป้องเบื้องสูงนั้น พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า โดยส่วนตัวก็เชื่อว่านายสนธิ ไม่ได้มีเจตนา แต่เมื่อมีการพูดออกไปแล้ว ขณะเดียวกันก็มีกฎหมายมีผลบังคับใช้อยู่ ตำรวจเองก็ต้องดำเนินการ ส่วนจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปว่ากันในชั้นศาล

คนละกรณีกับ "ดา ตอร์ปิโด"

“นายสนธิได้เข้ามอบตัวเพราะทราบข่าวจากสื่อว่าถูกออกหมายจับ ซึ่งได้ให้ทนายยื่นประกันตัวเองได้ จึงพิจารณาให้ประกันตัวได้ ส่วนกรณีของ นางสาวดารณี เชิงชาญศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด ไม่ยอมมอบตัว ตำรวจต้องตามไปจับกุม ตามหมายจับ อีกทั้งสอบปากคำเสร็จก็ไม่ได้ยื่นประกันตัวทางตำรวจจึงต้องนำตัวไปฝากขัง และค้านการประกันตัว เนื่องจากเห็นว่า น่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดว่าไม่ให้ประกันตัว เพียงแต่บอกว่าเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ไม่ได้ระบุว่า มาตรฐานเดียวกับใคร “ ผบช.น.กล่าวและว่า พนักงานสอบสวนได้นัดหมายนายสนธิ มาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 13.00 น.ที่ สน.นางเลิ้ง โดยจะเดินทางมาพร้อมกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งนัดวันเดียวกัน ส่วนนายสนธิ ซึ่งอยู่ระหว่างการให้ประกันตัวชั่วคราวสามารถขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีได้หรือไม่นั้น พล.ต.ท.อัศวิน ชี้แจงว่า สามารถขึ้นปราศรัยได้ แต่ต้องไม่พูดเรื่องเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เดินทางมายัง บช.น.นั้น ก็เป็นการเดินทางมาให้กำลังใจนายสนธิ เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับรูปคดีดังกล่าว โดยไม่ได้เข้ามาให้ปากคำหรือเป็นพยานแต่อย่างใด และก็มีการสอบปากคำแค่นายสนธิ เพียงปากเดียวเท่านั้น

"เด็กเนวิน"โวย"สนธิ"ได้ประกัน

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวกรณีที่ตำรวจได้อนุญาตให้ประกันตัว นายสนธิ โดยมีนายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้ตำแหน่งค้ำประกันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากกลุ่มที่ไม่ยึดถือ เคารพกฎหมายและกติกาของบ้านเมือง ซึ่งถือว่าความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายถูกทำลายลงหมดแล้ว และยังทำให้มองเห็นว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีขื่อมีแป อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมได้สามารถทำงานได้

"เรื่องนี้ทำให้วิตกกังวลว่าต่อไป หากใครถูกตำรวจจับกุม ก็เอาญาติพี่น้องพรรคพวกมาบีบให้ตำรวจปล่อยตัวซึ่งกรณีดังกล่าวจะเกิดลัทธิเอาอย่าง เลียนแบบกลุ่มพันธมิตรฯ ที่พยายามให้ประชาชน กระด้างกระเดื่องไม่เชื่อฟังกฎหมายอีกต่อไป"

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน และที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ได้รับมอบอำนาจจาก นายเนวิน ชิดชอบ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.รุ่งเพชร เมฆี พนักงานสอบสวน(สบ 2) สน.ดุสิตแจ้งความดำเนินคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
กำลังโหลดความคิดเห็น