รอยเตอร์ – ความเดือดร้อนของผู้บริโภคอเมริกันที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆจากค่าครองชีพที่แพงหูฉี่จนทำให้ต้องรัดเข็มขัดไปตาม ๆกันนั้น ได้ส่งผลต่อรายได้ของบริษัทต่าง ๆแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณแสดงว่าวิกฤตได้ขยายตัวจากภาคอสังหาริมทรัพย์และการเงินเข้าสู่เศรษฐกิจกระแสหลักของประเทศ
บริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯหลายแห่งที่ผลิตสินค้าสำหรับผู้บริโภคโดยตรง ได้ออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (21) ว่าผลประกอบการในไตรมาสนี้อาจจะย่ำแย่ลงไปอีก บริษัทที่ออกคำเตือนเรื่องภาพรวมผลประกอบการในอนาคตเหล่านี้ก็มีทั้ง อเมริกัน เอกซเพรส, แอปเปิล อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ไอพ่อดและไอโฟน รวมทั้งโรยัล คาริบเบียน ครูซ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเรือท่องเที่ยวในทะเลแคริบเบียน
การออกมาเตือนของบริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมเช่นนี้ ได้รับการตีความว่าวิกฤตเศรษฐกิจอาจจะขยายวงเลยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการธนาคาร เข้าสู่ “คอปอเรต อเมริกา” หรือภาคธุรกิจกระแสหลักของประเทศแล้ว
“เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้บริโภคสหรัฐฯจึงต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเป็นพิเศษ เพราะไหนราคาบ้านจะตก ขณะที่น้ำมันแพงขึ้น หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ลดมูลค่าลงเรื่อย ๆ รวมไปถึงความไม่มั่นคงของการทำงานด้วย” ไบรอัน เจนเดรอ นักกลยุทธการลงทุนของไอเอ็นจี อินเวสเมนท์ อเมริกากล่าว “ถ้าเหตุการณ์ยังพัฒนาต่อไปอีก เราอาจจะได้เห็นภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดขึ้นจากการบริโภคที่ลดน้อยลง แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากก็ตาม”
พิษของภาวะขาดแคลนสินเชื่ออย่างรุนแรงและฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อปีที่แล้วทำให้ผู้มีรายได้น้อยและชนชั้นกลางของสหรัฐฯต้องเดือดร้อน แต่การประกาศผลประกอบการเมื่อวันจันทร์ของบริษัทต่าง ๆสะท้อนให้เห็นถึงการลุกลามของสถานการณ์ที่น่ากลัว
ผู้บริหารของอเมริกัน เอกซเพรสระบุว่า แม้แต่ลูกค้ามีประวัติการจ่ายเงินตรงตามเวลาก็ยังประสบปัญหาการเงิน ทำให้พวกเขาพากันลดการจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิตลงไปมาก
ภาวะเช่นนี้ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยใหญ่ที่เหลืออยู่ของปีนี้นั่นก็คือ เมื่อสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเปิดการเรียนการสอน และการซื้อของขวัญสิ้นปีจะมียอดจับจ่ายแข็งแกร่งอย่างที่หวังเอาไว้หรือไม่
“หากว่าคุณดูราคาเชื้อเพลิงและอื่น ๆแล้ว ก็คงไม่แปลกใจเท่าไรที่ผู้บริโภคจะใช้เงินอย่างระมัดระวัง” สุโพธิ กุมาร หัวหน้าหน่วยยุทธศาสตร์การลงทุนของสุโพธิ กุมารและคณะในโตรอนโตกล่าว “มันเหมือนการสาดน้ำเย็นปลุกคนที่เชื่อทฤษฎีที่บอกว่ารายได้ของประชาชนจะฟื้นตัวสู่ระดับเดิมอย่างรวดเร็ว ให้ตื่นจากความฝัน”
ในบรรดาบริษัทที่ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองของปีนี้เมื่อวันจันทร์ อเมริกัน เอกซเพรสย่ำแย่ที่สุด โดยกำไรไตรมาสสองลดลงไปถึง 38% เพราะว่าต้องสำรองรายได้ชดเชยการขาดทุนจากบัตรเครดิต และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงไปถึง 11%
บริษัทยังบอกอีกว่าจะไม่ดำเนินการเพื่อเร่งรายได้ให้เพิ่มขึ้น 4-6% ต่อหุ้นดังที่ได้วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐฯเติบโตช้าลงมาก
นักวิเคราะห์พากันวิเคราะห์ว่าอเมริกัน เอกซเพรสนั้น มีลูกค้าที่มีรายได้สูงกว่าบริษัทบัตรเครดิตรายอื่น ๆมาก และหากลูกค้าของอเมริกัน เอกซ์เพรสชะลอการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือมีการผิดนัดจ่ายค่างวด สถานการณ์ของบริษัทบัตรเครดิตอื่น ๆน่าจะย่ำแย่กว่านี้มาก
ในขณะเดียวกันแอปเปิลก็ออกมาเตือนว่า ผลประกอบการของไตรมาสปัจจุบันนี้อาจจะไม่ได้ตามที่วอลล์สตรีทคาดเอาไว้ แม้ว่าจะมีผลประกอบการดีกว่าที่คาดเอาไว้มาก
ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้แอปเปิลขายไอพอดได้ถึงกว่า 11 ล้านเครื่องหรือเพิ่มขึ้น 12%เมื่อเทียบกันกับช่วงเดียวกันปีก่อน และก็ดีกว่าการคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะขายได้ 10.5 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายไอโฟนก็ดีกว่าที่เคยคิดมาก ในช่วงสามเดือนนี้ บริษัทขายไอโฟนได้ถึง717,000 เครื่องเพิ่มขึ้นจากยอดขายปีที่แล้วถึงสองเท่า อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังออกมาเตือนว่าไตรมาสปัจจุบันรายได้อาจจะไม่ได้เท่าที่ควร แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าแอปเปิลมักจะคาดการณ์รายได้ไม่ค่อยหวือหวาเท่าบริษัทอื่น ๆ สถานการณ์จริงอาจไม่ได้ย่ำแย่เท่าที่บริษัทออกมาเตือนก็ได้
ในขณะเดียวกันเท็กซัส อินสตรูเมนท์ อิงค์ ผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐฯออกมาเตือนเช่นกันว่ารายได้ไตรมาสนี้ไม่น่าจะดีนัก รวมทั้งผลประกอบการไตรมาสที่แล้วก็น่าผิดหวังและทำให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงไปถึง 7%
ชิปที่เท็กซัส อินสตรูเมนท์ผลิต เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับสินค้ามากมาย ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ช่วงที่ขายสินค้าดีที่สุดของบริษัทก็คือช่วงโรงเรียนเปิดเทอม และบริษัทก็คิดว่ารายได้ในช่วงดังกล่าวจะไม่ดีเท่าที่ควรทำให้ต้องปรับคาดการณ์รายได้ให้น้อยลงไปด้วย
บริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯหลายแห่งที่ผลิตสินค้าสำหรับผู้บริโภคโดยตรง ได้ออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (21) ว่าผลประกอบการในไตรมาสนี้อาจจะย่ำแย่ลงไปอีก บริษัทที่ออกคำเตือนเรื่องภาพรวมผลประกอบการในอนาคตเหล่านี้ก็มีทั้ง อเมริกัน เอกซเพรส, แอปเปิล อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ไอพ่อดและไอโฟน รวมทั้งโรยัล คาริบเบียน ครูซ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเรือท่องเที่ยวในทะเลแคริบเบียน
การออกมาเตือนของบริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมเช่นนี้ ได้รับการตีความว่าวิกฤตเศรษฐกิจอาจจะขยายวงเลยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการธนาคาร เข้าสู่ “คอปอเรต อเมริกา” หรือภาคธุรกิจกระแสหลักของประเทศแล้ว
“เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้บริโภคสหรัฐฯจึงต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเป็นพิเศษ เพราะไหนราคาบ้านจะตก ขณะที่น้ำมันแพงขึ้น หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ลดมูลค่าลงเรื่อย ๆ รวมไปถึงความไม่มั่นคงของการทำงานด้วย” ไบรอัน เจนเดรอ นักกลยุทธการลงทุนของไอเอ็นจี อินเวสเมนท์ อเมริกากล่าว “ถ้าเหตุการณ์ยังพัฒนาต่อไปอีก เราอาจจะได้เห็นภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดขึ้นจากการบริโภคที่ลดน้อยลง แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากก็ตาม”
พิษของภาวะขาดแคลนสินเชื่ออย่างรุนแรงและฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อปีที่แล้วทำให้ผู้มีรายได้น้อยและชนชั้นกลางของสหรัฐฯต้องเดือดร้อน แต่การประกาศผลประกอบการเมื่อวันจันทร์ของบริษัทต่าง ๆสะท้อนให้เห็นถึงการลุกลามของสถานการณ์ที่น่ากลัว
ผู้บริหารของอเมริกัน เอกซเพรสระบุว่า แม้แต่ลูกค้ามีประวัติการจ่ายเงินตรงตามเวลาก็ยังประสบปัญหาการเงิน ทำให้พวกเขาพากันลดการจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิตลงไปมาก
ภาวะเช่นนี้ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยใหญ่ที่เหลืออยู่ของปีนี้นั่นก็คือ เมื่อสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเปิดการเรียนการสอน และการซื้อของขวัญสิ้นปีจะมียอดจับจ่ายแข็งแกร่งอย่างที่หวังเอาไว้หรือไม่
“หากว่าคุณดูราคาเชื้อเพลิงและอื่น ๆแล้ว ก็คงไม่แปลกใจเท่าไรที่ผู้บริโภคจะใช้เงินอย่างระมัดระวัง” สุโพธิ กุมาร หัวหน้าหน่วยยุทธศาสตร์การลงทุนของสุโพธิ กุมารและคณะในโตรอนโตกล่าว “มันเหมือนการสาดน้ำเย็นปลุกคนที่เชื่อทฤษฎีที่บอกว่ารายได้ของประชาชนจะฟื้นตัวสู่ระดับเดิมอย่างรวดเร็ว ให้ตื่นจากความฝัน”
ในบรรดาบริษัทที่ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองของปีนี้เมื่อวันจันทร์ อเมริกัน เอกซเพรสย่ำแย่ที่สุด โดยกำไรไตรมาสสองลดลงไปถึง 38% เพราะว่าต้องสำรองรายได้ชดเชยการขาดทุนจากบัตรเครดิต และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงไปถึง 11%
บริษัทยังบอกอีกว่าจะไม่ดำเนินการเพื่อเร่งรายได้ให้เพิ่มขึ้น 4-6% ต่อหุ้นดังที่ได้วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐฯเติบโตช้าลงมาก
นักวิเคราะห์พากันวิเคราะห์ว่าอเมริกัน เอกซเพรสนั้น มีลูกค้าที่มีรายได้สูงกว่าบริษัทบัตรเครดิตรายอื่น ๆมาก และหากลูกค้าของอเมริกัน เอกซ์เพรสชะลอการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือมีการผิดนัดจ่ายค่างวด สถานการณ์ของบริษัทบัตรเครดิตอื่น ๆน่าจะย่ำแย่กว่านี้มาก
ในขณะเดียวกันแอปเปิลก็ออกมาเตือนว่า ผลประกอบการของไตรมาสปัจจุบันนี้อาจจะไม่ได้ตามที่วอลล์สตรีทคาดเอาไว้ แม้ว่าจะมีผลประกอบการดีกว่าที่คาดเอาไว้มาก
ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้แอปเปิลขายไอพอดได้ถึงกว่า 11 ล้านเครื่องหรือเพิ่มขึ้น 12%เมื่อเทียบกันกับช่วงเดียวกันปีก่อน และก็ดีกว่าการคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะขายได้ 10.5 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายไอโฟนก็ดีกว่าที่เคยคิดมาก ในช่วงสามเดือนนี้ บริษัทขายไอโฟนได้ถึง717,000 เครื่องเพิ่มขึ้นจากยอดขายปีที่แล้วถึงสองเท่า อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังออกมาเตือนว่าไตรมาสปัจจุบันรายได้อาจจะไม่ได้เท่าที่ควร แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าแอปเปิลมักจะคาดการณ์รายได้ไม่ค่อยหวือหวาเท่าบริษัทอื่น ๆ สถานการณ์จริงอาจไม่ได้ย่ำแย่เท่าที่บริษัทออกมาเตือนก็ได้
ในขณะเดียวกันเท็กซัส อินสตรูเมนท์ อิงค์ ผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐฯออกมาเตือนเช่นกันว่ารายได้ไตรมาสนี้ไม่น่าจะดีนัก รวมทั้งผลประกอบการไตรมาสที่แล้วก็น่าผิดหวังและทำให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงไปถึง 7%
ชิปที่เท็กซัส อินสตรูเมนท์ผลิต เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับสินค้ามากมาย ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ช่วงที่ขายสินค้าดีที่สุดของบริษัทก็คือช่วงโรงเรียนเปิดเทอม และบริษัทก็คิดว่ารายได้ในช่วงดังกล่าวจะไม่ดีเท่าที่ควรทำให้ต้องปรับคาดการณ์รายได้ให้น้อยลงไปด้วย
