xs
xsm
sm
md
lg

"วิเชษฐ"เล็งรื้อเป้าบจ.ใหม่ พิษศก.กดดันตลาดหุ้นซบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมพิจารณาทบทวนเป้าบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ใหม่ในการประชุมเดือนนี้ จากเป้าหมายเดิม 37 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 บริษัท และตลาดเอ็มเอไอ 12 บริษัท เหตุปัจจัยลบทั้งนอก-ในประเทศรุมเร้ากดดันตลาดหุ้นซบเซา "วิเชษฐ" เผยบริษัทขนาดใหญ่ชะลอแผน หวั่นราคาขายต่ำทำให้ระดมทุนไม่เพียงพอขยายกิจการ
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นจนกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ปัญหาเรื่องสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่กระทบต่อสถาบันการเงินสหรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ได้ส่งผลให้บริษัทเอกชนที่เตรียมจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ชะลอแผนในการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับปัจจัยหลักที่บริษัทได้ชะแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เกิดจาก 2 ปัจจัย คือ ราคาเสนอขายหุ้นถูก ทำให้แผนการระดมทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แม้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดี และบริษัททำกำไรได้ไม่ได้ตามแผนที่วางไว้เพื่อที่จะสร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นบริษัท
"การทำงานของสายระดมทุนฯ ปีนี้ ทำได้ยาก เพราะภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย จากในช่วงต้นปีตลาดหลักทรัพย์ฯ มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 37 บริษัท หรืออาจจะเกินเป้าหมายดังกล่าว จากบริษัทเอกชนที่ยื่นความจำนงเข้าระดมทุนทั้งหมด 107 บริษัท รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เองได้จูงใจด้วยการช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งภายในเดือนเม.ย.-มิ.ย. และเข้าจดทะเบียนในปีนี้ ทำให้มีบริษัทยื่นไฟลิ่งเข้ามาจำนวนมากกว่า 10 ราย แต่พอเกิดปัญหาซับไพรม์กดดันให้ตลาดหุ้นล่วง จึงทำให้เอกชนขาดความมั่นใจ"
นายวิเชฐ กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ กังวลว่าบริษัทที่จดทะเบียนจะไม่เข้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 37 บริษัท โดยแบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 บริษัท และตลาดเอ็มเอไอ 12 บริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่ต้องการระดมทุนก้อนใหญ่ เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ หากภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออาจจะส่งผลให้ระดมทุนไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่วนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนตลาดเอ็มเอไอนั้นมีโอกาสที่จะทำได้ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมของคณะกรรมการสรรหาบริษัทจดทะเบียนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังคงเป้าบริษัทจดทะเบียนไว้ปีนี้ไว้ที่ 37 บริษัท เพียงแต่กังวลว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าเท่านั้น หลัจากที่มีบริษัทเลื่อนการเข้าจดทะเบียนมากขึ้น ซึ่งจะมีการปรับประมาณการบริษัทจดทะเบียนปีนี้ต้องรอผลการประชุมของคณะกรรมการสรรหาบริษัทจดทะเบียนในเดือนหน้าก่อน
ทั้งนี้ กลยุทธ์ของสายงานระดมทุนจากนี้จะมีการเน้นในการสร้างฐานให้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น โดยจะเน้นในการร่วมมือกับทางธนาคารพาณิชย์มากขึ้น เพราะธนาคารพาณิชย์มีฐานลูกค้าจำนวนมากและมีบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี และธนาคารพาณิชย์ต้องการที่จะปล่อยเงินกู้แต่ติดปัญหาที่บริษัทนั้นมีฐานทุนที่ต่ำ ทำให้ปล่อยกู้ไม่ได้ จึงต้องให้บริษัทดังกล่าวมีการเพิ่มทุนก่อน ซึ่งการแนะนำและการให้ความรู้เกี่ยวกับการระดมทุน ทำให้บริษัทนั้นเห็นช่องทางในการระดมทุน
ดังนั้นเมื่อบริษัทดังกล่าวต้องการที่จะมีการขยายธุรกิจและเติบโตในอนาคตก็จะต้องมีการระดมทุนในการเข้าจดทะบเยนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีธนาคารพาณิชย์ร่วมมือแล้ว 2 แห่งในการแนะนำช่องทางการระดมทุนโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์ คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย โดยจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะเข้าไปขอความร่วมมือกับทุกธนาคารพาณิชย์ เพื่อสร้างฐานบริษัทที่ในอนาคตจะมีโอกาสในการระดมทุน
"จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการแปรรูปและจะมีการแข่งขันกับตลาดหุ้นต่างประเทศนั้น จะต้องมีการขยายฐานนักลงทุน และเพิ่มบริษัทจดทะเบียนให้มากขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายหลักหลังจากที่ตลท.มีการแปรรูป ซึ่งแบ่ง 2 ส่วนการชวนให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามานั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเข้าไปพบรายบริษัท แต่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กจะร่วมมือกับแบงก์จากที่แบงก์มีฐานลูกค้าดังกล่าวจำนวนมากที่จะแนะนำบริษัทที่มีศักยภาพในการเข้าระดมทุน" นายวิเชฐ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น