กระบี่ - ซื้อขายที่ดินเกาะลันตา ชะงัก เหตุนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล แต่ยังเชื่อแนวโน้มการท่องเที่ยวเกาะลันตาสดใส
นายสุนทร เชาว์กิจค้า ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอดีตประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยว อ.เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากที่การท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเล ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด กระบี่ พังงา และภูเก็ต ในแต่ละปีสามารถดูดเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมหาศาล เฉพาะจังหวัดกระบี่เพียงจังหวัดเดียว สามารถทำรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว ปีละนับหมื่นล้านบาท
ปีที่ผ่านมาจังหวัดกระบี่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 20,000 ล้านบาทเศษ จากจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2 ล้านคน และคาดว่าในปีการท่องเที่ยวที่จะถึงนี้จำนวนนักท่องเที่ยวคงจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
“เมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้นและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆสิ่งที่ตามมา คือการทำธุรกิจที่พัก ทั้งโรงแรม และรีสอร์ตไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยที่ผ่านมาเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากระบี่จะรู้จักเพียงเกาะพีพี หรืออ่าวนาง แต่ปัจจุบันความรู้สึกเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เกาะลันตาเป็นทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวและกำลังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปทั่วโลก ไม่แพ้ เกาะพีพี เนื่องจากความสวยงามของเกาะลันตา ความเป็นธรรมชาติที่ยังสัมผัสได้ นอกจากนี้ก็ยังมีหมู่เกาะบริวารที่สวยงามอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเกาะรอกหรือเกาะไห”
เมื่อการท่องเที่ยวของเกาะลันตาบูม ก็เป็นที่หมายปองของนักลงทุนเข้ามาทำธุรกิจกันเพิ่มมากขึ้น จากจำนวนห้องพักที่มีไม่กี่พันห้องก็เพิ่มหลายเท่าตัว โดยขณะนี้คาดว่าจำนวนห้องพักไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ห้อง เมื่อเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ก็ทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่อำเภอเกาะลันตามีการปรับตัวสูงขึ้นเกือบเท่าตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชายหาด ซึ่งมีราคาไร่ละไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน จากเดิมเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินราคาเพียงไร่ละ 3 -6 ล้านบาทเศษ แต่ก็ยังมีบางแห่งที่มีราคาพอจะซื้อได้อยู่บ้าง เช่น บริเวณชายหาดที่เป็นโคลนปนหิน ซึ่งเป็นหาดที่ไม่ค่อยสวยนัก
นายสุนทร กล่าวอีกว่า แต่จากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในพื้นที่อำเภอเกาะลันตาเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้การซื้อขายที่ดินต้องหยุดชะงักมาโดยตลอด เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งการบริหารงานของรัฐบาลโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ไม่มีความแน่นอน และดูเหมือนกับว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงโลว์ซีซัน นักท่องเที่ยวไม่นิยมเดินทางมายังเกาะลันตามากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้ามรสุม แต่คาดว่าในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะลันตามากกว่าที่ผ่านมา อย่างแน่นอน เพราะเกาะลันตาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม และคาดว่าการลงทุนก็คงกลับมาคึกคักอีกครั้ง
นายสุนทร เชาว์กิจค้า ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอดีตประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยว อ.เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากที่การท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเล ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด กระบี่ พังงา และภูเก็ต ในแต่ละปีสามารถดูดเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมหาศาล เฉพาะจังหวัดกระบี่เพียงจังหวัดเดียว สามารถทำรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว ปีละนับหมื่นล้านบาท
ปีที่ผ่านมาจังหวัดกระบี่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 20,000 ล้านบาทเศษ จากจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2 ล้านคน และคาดว่าในปีการท่องเที่ยวที่จะถึงนี้จำนวนนักท่องเที่ยวคงจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
“เมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้นและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆสิ่งที่ตามมา คือการทำธุรกิจที่พัก ทั้งโรงแรม และรีสอร์ตไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยที่ผ่านมาเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากระบี่จะรู้จักเพียงเกาะพีพี หรืออ่าวนาง แต่ปัจจุบันความรู้สึกเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เกาะลันตาเป็นทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวและกำลังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปทั่วโลก ไม่แพ้ เกาะพีพี เนื่องจากความสวยงามของเกาะลันตา ความเป็นธรรมชาติที่ยังสัมผัสได้ นอกจากนี้ก็ยังมีหมู่เกาะบริวารที่สวยงามอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเกาะรอกหรือเกาะไห”
เมื่อการท่องเที่ยวของเกาะลันตาบูม ก็เป็นที่หมายปองของนักลงทุนเข้ามาทำธุรกิจกันเพิ่มมากขึ้น จากจำนวนห้องพักที่มีไม่กี่พันห้องก็เพิ่มหลายเท่าตัว โดยขณะนี้คาดว่าจำนวนห้องพักไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ห้อง เมื่อเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ก็ทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่อำเภอเกาะลันตามีการปรับตัวสูงขึ้นเกือบเท่าตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชายหาด ซึ่งมีราคาไร่ละไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน จากเดิมเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินราคาเพียงไร่ละ 3 -6 ล้านบาทเศษ แต่ก็ยังมีบางแห่งที่มีราคาพอจะซื้อได้อยู่บ้าง เช่น บริเวณชายหาดที่เป็นโคลนปนหิน ซึ่งเป็นหาดที่ไม่ค่อยสวยนัก
นายสุนทร กล่าวอีกว่า แต่จากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในพื้นที่อำเภอเกาะลันตาเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้การซื้อขายที่ดินต้องหยุดชะงักมาโดยตลอด เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งการบริหารงานของรัฐบาลโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ไม่มีความแน่นอน และดูเหมือนกับว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงโลว์ซีซัน นักท่องเที่ยวไม่นิยมเดินทางมายังเกาะลันตามากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้ามรสุม แต่คาดว่าในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะลันตามากกว่าที่ผ่านมา อย่างแน่นอน เพราะเกาะลันตาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม และคาดว่าการลงทุนก็คงกลับมาคึกคักอีกครั้ง