ผู้จัดการรายวัน - ในยุคที่พลังงานมีราคาเพิ่มสูงขึ้นและโอกาสที่พลังงานจะหมดไปก็เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นชัดมากขึ้น ดังนั้นเพื่ออนาคตของลูกหลาน การใช้พลังงานอย่างประหยัดเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานเหลือไว้ให้ลูกหลานได้ใช้แล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าในช่วงที่ราคาพลังงานถีบตัวสูงขึ้นมากในปัจจุบัน
สำหรับนักประดิษฐ์ต่างให้ความสนใจและหันมาประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ที่จะออกมารองรับการใช้พลังงานอย่างประหยัด และหนึ่งในนั้น คือ ผลงานการประดิษฐ์ เตาแก๊สประหยัดพลังงาน ของ นายธนาธิป ปั้นประสม ซึ่งได้ผลิตเตาแก๊สภายใต้แบรนด์ แฮปปี้แก๊ส (HAPPY GAS) มานานกว่า 5 ปี โดยความพิเศษของแฮปปี้แก๊สอยู่ที่สามารถประหยัดแก๊สในการหุงต้มได้ 20% ถึง 33%
นายธนาธิป เล่าว่า สำหรับคุณสมบัติเตาแฮปปี้แก๊สต่างจากเตาแก๊สทั่วไป เพราะ สามารถประหยัดแก๊สได้ถึง 30% เหตุที่สามารถประหยัดแก๊สได้มาจากการออกแบบหัวเตาขึ้นมาใหม่ โดยใช้วงแหวนป้องกันความร้อนสูญเสียด้านข้าง และวงแหวนยังบังคับเปลวไฟขึ้นสู่ภาชนะ และผลพ่วงที่ได้นอกเหนือจากการประหยัดแก๊สแล้ว ยังทำให้ไม่เกิดเขม่าควันไฟซึ่งเป็นที่มาของเขม่าดำที่จับอยู่บนก้นภาชนะด้วย
“ผมได้ออกแบบเตาประหยัดแก๊สขึ้นมา โดยความบังเอิญที่ครั้งหนึ่งผมได้เห็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เมื่อทำอาหารไฟท่วมออกมานอกภาชนะที่ใช้ปรุงอาหาร และมีเขม่าดำติดก้น แม่ค้าให้ช่วยหาวิธีว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ไฟมันออกมาท่วมภาชนะ ด้วยความที่ผมเป็นคนช่างสังเกตในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากแค่นำแผงเหล็กมาล้อมหัวเตากันไม่ให้เปลวไฟออกมา ซึ่งปรากฎว่านอกจากไฟไม่ล้นออกมาทำให้แม่ค้าต้องร้อน และไม่เกิดเขม่าดำก้นภาชนะแล้ว ยังช่วยประหยัดแก๊ส และความแรงของไฟก็ยังเท่าเดิม”
ในตอนนั้นผมทำให้กับแม่ค้าหลายรายในบริเวณนั้นทุกคนก็บอกเหมือนกันว่าช่วยประหยัดแก๊สได้ จากเดิมแก๊สหนึ่งถังใช้ได้ 2 วัน แต่พอแผงเหล็กล้อมหัวเตาสามารถใช้แก๊สได้เพิ่มอีก 1 วัน ในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าแม่ค้าคงจะอุปทานไปเอง แต่พอหลายคนพูดก็เริ่มคิดได้ว่าไม่ได้อุปทานไปเอง ตั้งแต่วันนั้น เริ่มคิดว่าน่าจะได้ออกแบบและผลิตเตาประหยัดแก๊สออกขายได้ โดยใช้หลักการเดียวกัน ก่อนจะออกแบบเตาแฮปปี้แก๊สออกมาจำหน่าย ได้มีการศึกษาเรื่องของการเผาไหม้ ของดร.สำเริง จักรใจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เตาที่ประหยัดได้จริง โดยหัวใจหลักอยู่ที่วงแหวนเหล็กมาครอบหัวเตา และได้ทำการจดสิทธิบัตรวงแหวนนี้ไว้เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ
โดยรูปแบบของเตาประหยัดแก๊สแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เตาแก๊สสำหรับร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม และเตาประหยัดแก๊สที่ใช้ตามบ้านทั่วไป ขนาดของเตามี 5 ขนาด รุ่นs-5 , s-7,s-8,s-8one,s-10 ราคา 1,750 บาทถึง 3400 บาท ส่วนเตาแก๊สบ้านมี 2 ขนาด ขนาดหัวเดียวและขนาด 2 หัว ราคา 1,900 บาท และ 2,600 บาท ราคาจะสูงกว่าเตาแก๊สทั่วไปอยู่ประมาณ 500 บาทถึง 600 บาท ราคาที่เพิ่มขึ้นมาจากวัสดุที่เลือกใช้เน้นคุณภาพ และไม่มีโรงงานผลิตใช้การว่าจ้างโรงงานหล่อเหล็กผลิตให้ และเรานำกลับมาทำสีและกลึงอีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันยอดขายส่วนใหญ่ของแฮปปี้แก๊สจะอยู่ที่เตาแก๊สที่ใช้ตามร้านอาหารเพราะเห็นผลการประหยัดแก๊สได้ชัดกว่าเตาแก๊สบ้าน และประกอบกับเตาแก๊สที่ใช้ตามบ้านใช้แก๊สจำนวนไม่มากส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือถ้าจะให้ต้องลงทุนซื้อเตาใหม่ในราคาหลักพันกว่าจะคุ้มทุนก็คงจะอีกนาน ไม่เหมือนเตาตามร้านอาหารถ้าลงทุนเปลี่ยนมาใช้เตาประหยัดแก๊สจะเห็นผลการคุ้มทุนในเวลาไม่นาน
สำหรับยอดขายต่อเดือนประมาณ 200 เตา ถึง 300 เตา โดยใช้ช่องทางการขายแบบปากต่อปาก และมีตัวแทนมารับไปจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง กลุ่มลูกค้าเป็นร้านอาหาร ภัตตาคาร สำนักงาน โรงเรียน โรงแรม ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาแก๊สหุงต้มมีการปรับราคาขึ้นในช่วงนี้ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะหลายคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการหาแนวทางประหยัดเพื่อลดต้นทุนให้มากที่สุด
นายธนาธิป เล่าว่า ที่ผ่านมาได้มีการส่งเตาแก๊สไปวิเคราะห์ทดสอบกับหลาย โรงพยาบาลพระมงกุฎ โรงงานกลั่นยาฉัตรชัยการแพทย์ หมอเส็ง ร้านอาหารเดอะปาร์ค น้องเนย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นสถาบันเดียวที่ได้ออกใบรับรองตรงนี้ให้ แต่ละแห่งได้ผลทดสอบการประหยัดแก๊สออกมาแตกต่างกัน สาเหตุมาจากแต่ละแห่งอยู่ในสถานที่ตั้งที่แตกต่างกัน แต่อัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ถึง 30%
สนใจโทร. 0-2879-5231-2
สำหรับนักประดิษฐ์ต่างให้ความสนใจและหันมาประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ที่จะออกมารองรับการใช้พลังงานอย่างประหยัด และหนึ่งในนั้น คือ ผลงานการประดิษฐ์ เตาแก๊สประหยัดพลังงาน ของ นายธนาธิป ปั้นประสม ซึ่งได้ผลิตเตาแก๊สภายใต้แบรนด์ แฮปปี้แก๊ส (HAPPY GAS) มานานกว่า 5 ปี โดยความพิเศษของแฮปปี้แก๊สอยู่ที่สามารถประหยัดแก๊สในการหุงต้มได้ 20% ถึง 33%
นายธนาธิป เล่าว่า สำหรับคุณสมบัติเตาแฮปปี้แก๊สต่างจากเตาแก๊สทั่วไป เพราะ สามารถประหยัดแก๊สได้ถึง 30% เหตุที่สามารถประหยัดแก๊สได้มาจากการออกแบบหัวเตาขึ้นมาใหม่ โดยใช้วงแหวนป้องกันความร้อนสูญเสียด้านข้าง และวงแหวนยังบังคับเปลวไฟขึ้นสู่ภาชนะ และผลพ่วงที่ได้นอกเหนือจากการประหยัดแก๊สแล้ว ยังทำให้ไม่เกิดเขม่าควันไฟซึ่งเป็นที่มาของเขม่าดำที่จับอยู่บนก้นภาชนะด้วย
“ผมได้ออกแบบเตาประหยัดแก๊สขึ้นมา โดยความบังเอิญที่ครั้งหนึ่งผมได้เห็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เมื่อทำอาหารไฟท่วมออกมานอกภาชนะที่ใช้ปรุงอาหาร และมีเขม่าดำติดก้น แม่ค้าให้ช่วยหาวิธีว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ไฟมันออกมาท่วมภาชนะ ด้วยความที่ผมเป็นคนช่างสังเกตในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากแค่นำแผงเหล็กมาล้อมหัวเตากันไม่ให้เปลวไฟออกมา ซึ่งปรากฎว่านอกจากไฟไม่ล้นออกมาทำให้แม่ค้าต้องร้อน และไม่เกิดเขม่าดำก้นภาชนะแล้ว ยังช่วยประหยัดแก๊ส และความแรงของไฟก็ยังเท่าเดิม”
ในตอนนั้นผมทำให้กับแม่ค้าหลายรายในบริเวณนั้นทุกคนก็บอกเหมือนกันว่าช่วยประหยัดแก๊สได้ จากเดิมแก๊สหนึ่งถังใช้ได้ 2 วัน แต่พอแผงเหล็กล้อมหัวเตาสามารถใช้แก๊สได้เพิ่มอีก 1 วัน ในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าแม่ค้าคงจะอุปทานไปเอง แต่พอหลายคนพูดก็เริ่มคิดได้ว่าไม่ได้อุปทานไปเอง ตั้งแต่วันนั้น เริ่มคิดว่าน่าจะได้ออกแบบและผลิตเตาประหยัดแก๊สออกขายได้ โดยใช้หลักการเดียวกัน ก่อนจะออกแบบเตาแฮปปี้แก๊สออกมาจำหน่าย ได้มีการศึกษาเรื่องของการเผาไหม้ ของดร.สำเริง จักรใจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เตาที่ประหยัดได้จริง โดยหัวใจหลักอยู่ที่วงแหวนเหล็กมาครอบหัวเตา และได้ทำการจดสิทธิบัตรวงแหวนนี้ไว้เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ
โดยรูปแบบของเตาประหยัดแก๊สแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เตาแก๊สสำหรับร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม และเตาประหยัดแก๊สที่ใช้ตามบ้านทั่วไป ขนาดของเตามี 5 ขนาด รุ่นs-5 , s-7,s-8,s-8one,s-10 ราคา 1,750 บาทถึง 3400 บาท ส่วนเตาแก๊สบ้านมี 2 ขนาด ขนาดหัวเดียวและขนาด 2 หัว ราคา 1,900 บาท และ 2,600 บาท ราคาจะสูงกว่าเตาแก๊สทั่วไปอยู่ประมาณ 500 บาทถึง 600 บาท ราคาที่เพิ่มขึ้นมาจากวัสดุที่เลือกใช้เน้นคุณภาพ และไม่มีโรงงานผลิตใช้การว่าจ้างโรงงานหล่อเหล็กผลิตให้ และเรานำกลับมาทำสีและกลึงอีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันยอดขายส่วนใหญ่ของแฮปปี้แก๊สจะอยู่ที่เตาแก๊สที่ใช้ตามร้านอาหารเพราะเห็นผลการประหยัดแก๊สได้ชัดกว่าเตาแก๊สบ้าน และประกอบกับเตาแก๊สที่ใช้ตามบ้านใช้แก๊สจำนวนไม่มากส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือถ้าจะให้ต้องลงทุนซื้อเตาใหม่ในราคาหลักพันกว่าจะคุ้มทุนก็คงจะอีกนาน ไม่เหมือนเตาตามร้านอาหารถ้าลงทุนเปลี่ยนมาใช้เตาประหยัดแก๊สจะเห็นผลการคุ้มทุนในเวลาไม่นาน
สำหรับยอดขายต่อเดือนประมาณ 200 เตา ถึง 300 เตา โดยใช้ช่องทางการขายแบบปากต่อปาก และมีตัวแทนมารับไปจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง กลุ่มลูกค้าเป็นร้านอาหาร ภัตตาคาร สำนักงาน โรงเรียน โรงแรม ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาแก๊สหุงต้มมีการปรับราคาขึ้นในช่วงนี้ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะหลายคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการหาแนวทางประหยัดเพื่อลดต้นทุนให้มากที่สุด
นายธนาธิป เล่าว่า ที่ผ่านมาได้มีการส่งเตาแก๊สไปวิเคราะห์ทดสอบกับหลาย โรงพยาบาลพระมงกุฎ โรงงานกลั่นยาฉัตรชัยการแพทย์ หมอเส็ง ร้านอาหารเดอะปาร์ค น้องเนย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นสถาบันเดียวที่ได้ออกใบรับรองตรงนี้ให้ แต่ละแห่งได้ผลทดสอบการประหยัดแก๊สออกมาแตกต่างกัน สาเหตุมาจากแต่ละแห่งอยู่ในสถานที่ตั้งที่แตกต่างกัน แต่อัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ถึง 30%
สนใจโทร. 0-2879-5231-2