ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (20 ก.ค.) ร.ต.ต.ชลิต จันทะพันธ์ ร้อยเวร สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ห้างทองไท้เซ่งเฮง เลขที่ 459/14 ปาก ซ.เพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับซื้อขายทองรูปพรรณ มี นางจันทร์ฉาย ชัชวาลย์ดำรงค์เจน อายุ 39 ปี เป็นเจ้าของร้าน
นางจันทร์ฉายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.30 น.ตนพร้อมลูกจ้างหญิง 2 คนกำลังเปิดร้านตามปกติ โดยได้เปิดประตูหน้าร้าน ซึ่งเป็นกระจกเอาไว้ เพื่อเตรียมไหว้พระไหว้เจ้า ระหว่างนั้นก็มีแม่ค้าขายสับปะรดที่ตั้งแผงอยู่บริเวณหน้าร้านตนซึ่งรู้จักกันได้เดินเข้ามาดูทอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างบึกบึน ไว้ผมยาวย้อมสีทอง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าสีเขียว ใช้เสื้อยืดสีน้ำตาลคลุมใบหน้า เดินแกว่งอาวุธมีดหัวตัดยาวประมาณ 50 เซนติเมตร เข้ามาภายในร้าน แล้วผลักแม่ค้าขายสับปะรดจนล้ม ก่อนเดินตรงเข้ามาหาตนแล้วใช้มีดขู่ พร้อมออกคำสั่งว่าให้อยู่เฉยๆ ก่อนที่จะกระโดดข้ามตู้กระจกเข้าไปหยิบสร้อยทองรูปพรรณบนตู้โชว์ติดผนังยัดใส่กระเป๋าไปทั้งหมด 22 เส้น น้ำหนักรวม 25 บาท มูลค่าทั้งสิ้น 377,500 บาท ยัดใส่กระเป๋า แล้วรีบวิ่งออกจากร้านข้ามถนนหลบหนีไป
ซึ่งขณะนั้นลูกจ้างตนก็รีบวิ่งตามออกไปพบว่าคนร้ายได้โบกรถแท็กซี่สีขาว หลบหนีไปทางถนนเพชรเกษมขาเข้า ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจที่เบอร์ 191 จากนั้นประมาณ 30 นาทีก็ได้รับแจ้งจากทาง ผกก.สน.เพชรเกษม ว่าสามารถสกัดจับกุมคนร้ายได้แล้วพร้อมของกลางทั้งหมด ที่อู่ธนิตยนต์ เลขที่ 40/78 ซ.เพชรเกษม 92/9 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ได้ควบคุมตัวคนร้ายรายนี้ทราบชื่อต่อมา คือ นายณรงค์ หรือ ตั้ม เรืองฤทธิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/12 หมู่ 4 ต.กุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองดังกล่าว โดยนายณรงค์ยอมรับสารภาพว่า ปัจจุบันตนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมไฟฟ้า ของมหาวิทยาลัยธนบุรี และยังรับงานเดินโพยบอลให้โต๊ะบอลแถวมหาวิทยาลัยด้วย ก่อนหน้านี้ตนเก็บเงินค่าพนันฟุตบอลมาได้จำนวน 140,000 บาท จากนั้นก็มีเพื่อนมาชวนตนไปเล่นกำถั่วที่บ่อนย่านพุทธมณฑลสาย 4 จนเงินจำนวนดังกล่าวหมด ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้คืนโต๊ะบอลจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุจี้ร้านทอง
อีกรายเวลา 07.00 น.ของวันเดียวกัน ร.ต.อ.จุมพล กาญจนเสถียร ร้อยเวร สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายภายในบ้านเลขที่ 49/11 หมู่บ้านปรานสิริ ซอยบุญมี ถนนสุขาภิบาล 1 แขวงและเขตบางแค กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และ ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม
เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า มีกลุ่มชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ทราบชื่อต่อมา คือ นายเปรมชัย หรือ “ปุ๋ย” เพ็งแสวง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ถนนวุฒากาศ (ซอย 43) แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. พร้อมอาวุธมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต เงินสดจำนวน 1,600 บาท และยาบ้าอีก 5 เม็ดครึ่ง จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.เพชรเกษม พร้อมเชิญ น.ส.สิริมา สินเส้า อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านไปให้การในฐานะผู้เสียหายด้วย
จากการสอบสวน นายเปรมชัย ซึ่งอยู่ในอาการเมายาบ้าให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินคาดดำ ทะเบียน ลวบ 432 กทม.ผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวประตูด้านหลังเปิดอยู่ จึงได้วนรถไปจอดที่บริเวณด้านข้างแล้วปีนกำแพงเข้าไป ช่วงนั้นก็ได้เห็น น.ส.สิริมา เดินลงบันไดมาจากชั้น 2 แล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน ตนจึงรีบวิ่งสวนขึ้นไปรื้อค้นทรัพย์สินซึ่งอยู่ในกระเป๋าภายในห้องนอนได้เงินสดมาจำนวน 2,500 บาท เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ น.ส.สิริมา เดินย้อนขึ้นมาบนห้องแล้วพบตนพอดี เมื่อเห็นตนจึงรีบวิ่งร้องตะโกนให้คนช่วยเลยถูกชาวบ้านช่วยกันจับกุมไว้ได้ในที่สุด
นางจันทร์ฉายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.30 น.ตนพร้อมลูกจ้างหญิง 2 คนกำลังเปิดร้านตามปกติ โดยได้เปิดประตูหน้าร้าน ซึ่งเป็นกระจกเอาไว้ เพื่อเตรียมไหว้พระไหว้เจ้า ระหว่างนั้นก็มีแม่ค้าขายสับปะรดที่ตั้งแผงอยู่บริเวณหน้าร้านตนซึ่งรู้จักกันได้เดินเข้ามาดูทอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างบึกบึน ไว้ผมยาวย้อมสีทอง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าสีเขียว ใช้เสื้อยืดสีน้ำตาลคลุมใบหน้า เดินแกว่งอาวุธมีดหัวตัดยาวประมาณ 50 เซนติเมตร เข้ามาภายในร้าน แล้วผลักแม่ค้าขายสับปะรดจนล้ม ก่อนเดินตรงเข้ามาหาตนแล้วใช้มีดขู่ พร้อมออกคำสั่งว่าให้อยู่เฉยๆ ก่อนที่จะกระโดดข้ามตู้กระจกเข้าไปหยิบสร้อยทองรูปพรรณบนตู้โชว์ติดผนังยัดใส่กระเป๋าไปทั้งหมด 22 เส้น น้ำหนักรวม 25 บาท มูลค่าทั้งสิ้น 377,500 บาท ยัดใส่กระเป๋า แล้วรีบวิ่งออกจากร้านข้ามถนนหลบหนีไป
ซึ่งขณะนั้นลูกจ้างตนก็รีบวิ่งตามออกไปพบว่าคนร้ายได้โบกรถแท็กซี่สีขาว หลบหนีไปทางถนนเพชรเกษมขาเข้า ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจที่เบอร์ 191 จากนั้นประมาณ 30 นาทีก็ได้รับแจ้งจากทาง ผกก.สน.เพชรเกษม ว่าสามารถสกัดจับกุมคนร้ายได้แล้วพร้อมของกลางทั้งหมด ที่อู่ธนิตยนต์ เลขที่ 40/78 ซ.เพชรเกษม 92/9 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ได้ควบคุมตัวคนร้ายรายนี้ทราบชื่อต่อมา คือ นายณรงค์ หรือ ตั้ม เรืองฤทธิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/12 หมู่ 4 ต.กุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองดังกล่าว โดยนายณรงค์ยอมรับสารภาพว่า ปัจจุบันตนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมไฟฟ้า ของมหาวิทยาลัยธนบุรี และยังรับงานเดินโพยบอลให้โต๊ะบอลแถวมหาวิทยาลัยด้วย ก่อนหน้านี้ตนเก็บเงินค่าพนันฟุตบอลมาได้จำนวน 140,000 บาท จากนั้นก็มีเพื่อนมาชวนตนไปเล่นกำถั่วที่บ่อนย่านพุทธมณฑลสาย 4 จนเงินจำนวนดังกล่าวหมด ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้คืนโต๊ะบอลจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุจี้ร้านทอง
อีกรายเวลา 07.00 น.ของวันเดียวกัน ร.ต.อ.จุมพล กาญจนเสถียร ร้อยเวร สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายภายในบ้านเลขที่ 49/11 หมู่บ้านปรานสิริ ซอยบุญมี ถนนสุขาภิบาล 1 แขวงและเขตบางแค กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และ ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม
เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า มีกลุ่มชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ทราบชื่อต่อมา คือ นายเปรมชัย หรือ “ปุ๋ย” เพ็งแสวง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ถนนวุฒากาศ (ซอย 43) แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. พร้อมอาวุธมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต เงินสดจำนวน 1,600 บาท และยาบ้าอีก 5 เม็ดครึ่ง จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.เพชรเกษม พร้อมเชิญ น.ส.สิริมา สินเส้า อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านไปให้การในฐานะผู้เสียหายด้วย
จากการสอบสวน นายเปรมชัย ซึ่งอยู่ในอาการเมายาบ้าให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินคาดดำ ทะเบียน ลวบ 432 กทม.ผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวประตูด้านหลังเปิดอยู่ จึงได้วนรถไปจอดที่บริเวณด้านข้างแล้วปีนกำแพงเข้าไป ช่วงนั้นก็ได้เห็น น.ส.สิริมา เดินลงบันไดมาจากชั้น 2 แล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน ตนจึงรีบวิ่งสวนขึ้นไปรื้อค้นทรัพย์สินซึ่งอยู่ในกระเป๋าภายในห้องนอนได้เงินสดมาจำนวน 2,500 บาท เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ น.ส.สิริมา เดินย้อนขึ้นมาบนห้องแล้วพบตนพอดี เมื่อเห็นตนจึงรีบวิ่งร้องตะโกนให้คนช่วยเลยถูกชาวบ้านช่วยกันจับกุมไว้ได้ในที่สุด