ผู้จัดการรายวัน – เปิดแผนเอ็ม บี เค รีสอร์ท โปรย 1 หมื่นล้านภายใน 10 ปี สร้างอาณาจักร์ The Tin Mine Country Club and Resort ภูเก็ต เตรียมผุดโรงแรม- บ้านหรู ริมสนามกอล์ฟ พร้อมปั้น The Red Mountain Course ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง ชี้ธุรกิจท่องเที่ยวสดใส ระบุในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 2 แสนรายใช้บริการสนามกอล์ฟที่ภูเก็ต
นายสารเดช สุทัศน์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด เปิดเผยแผนการดำเนินงานว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ The Red Mountain Course ให้เป็นสุดยอมสนามกอล์ฟในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันภูเก็ตมีสนามกอล์ฟอยู่ประมาณ 6 แห่ง นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากโดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 2 แสนคนที่เดินทางเข้ามาใช้บริการ เกี่ยวกับสนามกอล์ฟในภูเก็ตจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 5 ล้านคน ซึ่ง The Red Mountain Course ได้รับการโหวตให้เป็นสนามกอล์ฟที่ยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของเอเชีย ซึ่งมีทัศนียภาพของสนามที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสีแดงสด ท่ามกลางธรรมชาติ ขนาด 18 หลุม พาร์ 72 ทุกหลุมถูกออกแบบอย่างมีศิลปะ มีเอกลักษณ์โดดเด่น
สำหรับโครงการ The Red Mountain Course นี้เป็นหนึ่งในโครงการ The Tin Mine Country Club and Resort ซึ่งเป็นโครงการที่ประกอบด้วยสนามกอล์ฟ 2 สนาม , โครงการบ้าน โรงแรม บนพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ ตั้งอยู่ในอำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้วภายในสนาม ประกอบด้วย คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ห้องอาหารนานานชาติ พร้อมที่นั่งชมวิวและทัศนีย์ภาพของสนามที่สวยงามแบบ 190 องศา ร้านโปรช็อปและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน บริษัทมีรายได้ปีละกว่า 200 ล้านบาทซึ่งน่าจะเติบโตได้อีก
“โครงการสนามกอล์ฟพัฒนามากว่า 2 ปีแล้วและคาดว่าทั้งโครงการจะใช้เวลากว่า 10 ปีจึงแล้วเสร็จตามแผน ซึ่งขณะนี้สนามกอล์ฟเปิดให้บริการและมีรายได้เข้ามา ซึ่งจุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้ใจกลางเมืองเดินทางสะดวกเพียง 15 นาทีจากตัวเมืองก็ถึงโครงการแล้ว ซึ่งผู้บริหารย้ำว่าอยากจะให้สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นเสนามติดอันดับในจังหวัดภูเก็ต ”
นอกจากนี้ทางเอ็มบีเค รีสอร์ท ยังมีโครงการที่เตรียมไว้รองรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว คือโครงการก่อสร้างโรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาว และพูลวิลล่าจำนวน 50 หลัง ซึ่งออกแบบให้สามารถเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของสนามกอล์ฟ และโครงการ “Tropical Garden “ ที่พักอาศัยสไตล์ธรรมชาติ ซึ่งจะมีการสร้างสวนรักษาพันธุ์ไม้ และเพาะพันธุ์ไม้ที่เติบโตในพื้นทีภาคใต้ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ท่องเที่ยว รวมถึงโครงการ สร้าง Community Mall เพื่อความสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อสินค้าให้กับผู้พักอาศัย
นายสารเดช กล่าวถึงแผนการลงทุนว่า จะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยบริษัทจะใช้เงินทุนจากกลุ่มผู้ถือและธนาคารธนชาตินำมาพัฒนาโครงการ ซึ่งรายได้หลักจากโครงการนี้ส่วนใหญ่มาจากการขายโครงการบ้านในสนามกอล์ฟเป็นรายได้หลัก
นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เช่น มีการซื้อโครงการพรีเมียร์พระราม 9 เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่เช่น ศูนย์การค้า นอกจากนี้ยังมีแผนขยายโรงแรมในจังหวัดระนอง กระบี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนิน ส่วนโรงแรมปทมุวันปริ๊นเซส มีโครงการปรับปรุงพื้นที่ห้องพักใหม่
นายสารเดช สุทัศน์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด เปิดเผยแผนการดำเนินงานว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ The Red Mountain Course ให้เป็นสุดยอมสนามกอล์ฟในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันภูเก็ตมีสนามกอล์ฟอยู่ประมาณ 6 แห่ง นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากโดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 2 แสนคนที่เดินทางเข้ามาใช้บริการ เกี่ยวกับสนามกอล์ฟในภูเก็ตจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 5 ล้านคน ซึ่ง The Red Mountain Course ได้รับการโหวตให้เป็นสนามกอล์ฟที่ยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของเอเชีย ซึ่งมีทัศนียภาพของสนามที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสีแดงสด ท่ามกลางธรรมชาติ ขนาด 18 หลุม พาร์ 72 ทุกหลุมถูกออกแบบอย่างมีศิลปะ มีเอกลักษณ์โดดเด่น
สำหรับโครงการ The Red Mountain Course นี้เป็นหนึ่งในโครงการ The Tin Mine Country Club and Resort ซึ่งเป็นโครงการที่ประกอบด้วยสนามกอล์ฟ 2 สนาม , โครงการบ้าน โรงแรม บนพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ ตั้งอยู่ในอำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้วภายในสนาม ประกอบด้วย คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ห้องอาหารนานานชาติ พร้อมที่นั่งชมวิวและทัศนีย์ภาพของสนามที่สวยงามแบบ 190 องศา ร้านโปรช็อปและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน บริษัทมีรายได้ปีละกว่า 200 ล้านบาทซึ่งน่าจะเติบโตได้อีก
“โครงการสนามกอล์ฟพัฒนามากว่า 2 ปีแล้วและคาดว่าทั้งโครงการจะใช้เวลากว่า 10 ปีจึงแล้วเสร็จตามแผน ซึ่งขณะนี้สนามกอล์ฟเปิดให้บริการและมีรายได้เข้ามา ซึ่งจุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้ใจกลางเมืองเดินทางสะดวกเพียง 15 นาทีจากตัวเมืองก็ถึงโครงการแล้ว ซึ่งผู้บริหารย้ำว่าอยากจะให้สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นเสนามติดอันดับในจังหวัดภูเก็ต ”
นอกจากนี้ทางเอ็มบีเค รีสอร์ท ยังมีโครงการที่เตรียมไว้รองรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว คือโครงการก่อสร้างโรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาว และพูลวิลล่าจำนวน 50 หลัง ซึ่งออกแบบให้สามารถเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของสนามกอล์ฟ และโครงการ “Tropical Garden “ ที่พักอาศัยสไตล์ธรรมชาติ ซึ่งจะมีการสร้างสวนรักษาพันธุ์ไม้ และเพาะพันธุ์ไม้ที่เติบโตในพื้นทีภาคใต้ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ท่องเที่ยว รวมถึงโครงการ สร้าง Community Mall เพื่อความสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อสินค้าให้กับผู้พักอาศัย
นายสารเดช กล่าวถึงแผนการลงทุนว่า จะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยบริษัทจะใช้เงินทุนจากกลุ่มผู้ถือและธนาคารธนชาตินำมาพัฒนาโครงการ ซึ่งรายได้หลักจากโครงการนี้ส่วนใหญ่มาจากการขายโครงการบ้านในสนามกอล์ฟเป็นรายได้หลัก
นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เช่น มีการซื้อโครงการพรีเมียร์พระราม 9 เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่เช่น ศูนย์การค้า นอกจากนี้ยังมีแผนขยายโรงแรมในจังหวัดระนอง กระบี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนิน ส่วนโรงแรมปทมุวันปริ๊นเซส มีโครงการปรับปรุงพื้นที่ห้องพักใหม่
