พล.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณว่าจะปรับถึง 10 ตำแหน่งนั้น จะทำให้ประเทศชาติดีขึ้น หรือเป็นการปรับเพื่อเอาตัวรอด ว่า ก็น่าจะต้องดีขึ้น เราต้องมองภาพทางบวกมากๆ หน่อย ถ้าเรามองทางลบ พรรคเขาก็ทำอะไรต่อไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามทำงานอยู่บ้าง แต่รัฐสภา ค่อนข้างมีผลงานออกมาน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กมธ. หรือเรื่องอะไรต่างๆ จริงแล้วเมื่อรับเงินเดือนเมื่อไร แล้วก็ต้องทำงานให้มีผลผลิตออกมา
ผู้สื่อข่าวซักว่าหมายความว่า อยากเรียกร้องให้ ส.ส.ทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ทุกคนที่รับเงินเดือน แม้แต่ทหาร ก็ต้องเป็นเช่นนั้น
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึง การปรับ ครม. ที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะปรับหลังวันที่ 28 ก.ค. ว่า เรื่องนี้ เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่ง ครม.ยังไม่ได้หารืออะไรกัน แต่ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ได้มอบสิทธิให้นายกฯปรับเต็มที่ พรรคอื่นไม่เกี่ยว เป็นเรื่องที่เขาจะจัดสรรมา เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะคุยกันในวันที่ 26-27 ก.ค. นี้ นายสมชาย ตอบว่า วันดังกล่าวเป็นการสัมมนา ส.ส.พรรค ถ้าจะคุยน่าจะคุยกันในคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ ส.ส.ทั้งหมด แต่เป็นไปได้ว่า อาจจะใช้โอกาสนี้ประชุมกรรมการบริหารพรรค เพราะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
ปัญหาเรื่องกลุ่มต่างๆในพรรค ที่ต่างก็ไม่ยอมกันนั้น นายสมชาย กล่าวว่า นายกฯ เชี่ยวชาญทางนี้ คงจัดการได้ จริงๆแล้วตนไม่ได้ยินว่า มีเรื่องโควตา มีแต่เพียงการพูดกันว่า ครม. ต้องมาจากหลายฝ่าย แต่ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาใครมาก็ได้ มันไม่ได้เรียกว่าโควตา เป็นการหาคนที่เหมาะสม
ส่วนที่มองกันว่า อาจจะมีการปรับ ครม.โดยนำคนใกล้ชิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นรัฐมนตรี นายสมชาย กล่าวว่า อย่าไปมองว่าใกล้ชิด หรือไม่ ขอให้มองว่าคนๆ นั้น มาทำประโยชน์เพื่อส่วนตัวเขา หรือไม่ ถ้าไปดูเฉพาะในแง่คนใกล้ชิด แต่เข้าเก่งและเหมาะสม ก็คิดว่าอย่าไปรังเกียจ ถ้าคิดว่าเป็นญาติตนแล้วเข้ามาต้องไม่ดีเสมอไป ก็จะเป็นการไปตัดโอกาสของเขา ความใกล้ชิดมันห้ามกันไม่ได้ แต่ต้องดูการปฏิบัติตัว และความรู้ความสามารถของเขา
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามันก็เห็นเหมือนกันว่า คนใกล้ชิดบางคนที่เอาเข้ามา ไม่มีความรู้ความสามารถ นายสมชาย ตอบว่า คนๆนั้นอาจไม่ใกล้ชิดหรือ ถ้ายกตัวอย่าง นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ แล้ว ก็มีความสามารถ ที่ออกจากตำแหน่งไปเป็นเพราะเงื่อนไขภายหลังที่เห็นๆ กันอยู่ ก็อยากให้ดูความเป็นธรรมและความเหมาะสมของแต่ละคน อย่าไปคิดว่าคนนี้รู้จักใคร
เมื่อถามว่า จะมีคนนอกมาหรือไม่ นายสมชาย ตอบว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ดูตามข่าวแล้วว่าอาจจะมี โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็เลยไม่อยากรู้เท่าไร
ที่มีการประเมินว่าสถานการณ์ 3 เดือนข้างหน้าจะรุนแรงขึ้นนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ขอภาวนาว่าอย่าให้มีอะไรรุนแรงเลย รัฐบาลทำงานอย่างอดทน และระมัดระวัง ต้องการให้สงบเรียบร้อย หวังว่าการที่เราทำงานโดยไม่คิดใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม ก็อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย รัฐบาลไม่จำเป็นต้องอยู่ยงคงกระพันตลอดไป แต่การจะเข้าจะออก ก็อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีเลือดตกยางออก
"ตอนนี้ที่จำเป็นรัฐบาล เพราะอะไร เพราะเขาเลือกเข้ามาเยอะ จึงเป็นภาระที่จะต้องทำงาน ส่วนใครกระทำผิดอะไรก็ว่าไป ผมคิดอย่างนั้น ส่วนที่มีสมาชิกพรรคมีการวิวาทะ กับองค์กรอิสระ และฝ่ายตุลาการนั้น เป็นความคิดที่อาจจะเห็นต่าง ไม่อยากวิจารณ์ เพราะอยู่พรรคเดียวกัน ถ้าจะแก้ไขอะไร เราก็แก้ตามกติกา การที่นายกฯ ระบุว่า กติกาที่ใช้ ณ เวลานี้ เดินต่อไปไม่ได้แล้วนั้น ความเห็นอาจจะแตกต่างกันได้" นายสมชาย ระบุ
**"เลี้ยบ"ยัน ถ้าให้หยุดต้องตีความ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึง การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่จะมีการปรับหลายตำแหน่ง โดยให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนงานของรัฐบาล ว่า การปรับครั้งนี้จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น ส่วนปัญหาเรื่องโควต้า ไม่มี ให้เป็นอำนาจ และดุลพินิจของนายกฯ ในฐานนะหัวหน้าพรรค ที่สามารถที่จะดำเนินการได้เลย
ส่วนจะเป็นคนนอกเข้ามาหรือไม่ ยังไม่ทราบ เนื่องจากยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนายกฯ อย่างไรก็ตาม เรื่องคนนอกก็เป็นประเด็นตั้งแต่สรรหาคนจะมาเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่ชุดแรก เรื่องว่ามีข้อจำกัดในการที่คนนอกเองก็ไม่รู้สึกว่าการเข้ามาทำงานครั้งนี้จะทำงานได้ง่ายนัก เพราะมีกรอบ กติกา ที่เป็นปัญหาพอสมควร ฉะนั้นการที่จะให้มาทุ่มเททำงาน บางครั้งขอเป็นแค่ที่ปรึกษา ขอช่วยงานอยู่ภายนอกดีกว่า ส่วนเรื่องว่าใคร ยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีว่าติดต่อใครไปแล้ว ซึ่งชั้นนี้นายกฯ คงอยากจะเปิดให้กว้าง แล้วก็มีการคุยกันในเบื้องต้นก่อน
ส่วนเรื่องการหยุดปฎิบัติหน้าที่ คงต้องมีการตีความว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ หรือไม่ ในขณะที่มีการรับฟ้องในตำแหน่งเก่า เท่าที่สืบหาข้อกฎหมายมา ก็ไม่มีท่านใดให้ความมั่นใจได้ชัดเจน ว่า กรณีนี้จะมีแนวทางปฎิบัติอย่างไร เพราะฉะนั้นทั้ง 3 รัฐมนตรี มีการได้คุยกันเบิ้องต้นแล้ว ก็คิดว่าน่าจะทำให้เกิดบรรทัดฐาน อาจจะต้องมีการยื่นตีความ ส่วนเรื่องจะใช้ช่องทางไหนต้องรอความชัดเจนวันที่ 28 ก.ค. ก่อน
**ชาติไทยขอกระทรวงเดิม
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศปรับคณะรัฐมนตรีกว่า 10 ที่นั่งหลังวันที่ 28 ก.ค.นี้ ที่มีรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทย เกี่ยวข้องกับคดีหวยบนดินด้วยว่า การปรับของพรรคชาติไทยขึ้นอยู่กับ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ว่าจะปรับใคร หรือไม่อย่างไร และการที่นายกฯสินใจปรับหลังวันที่ 28 ก.ค. ก็ไม่คิดว่าช้าเกินไป แม้แต่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ขาดรัฐมนตรีว่าการ ก็ยังมีรองนายกรัฐมนตรีอีก 3 ท่าน ที่รับผิดชอบ หากมีภารกิจใดๆ รองนายกรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งก็สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม ไม่มีปัญหาเรื่องคดีหวย พรรคจะมีการปรับหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอนายบรรหาร ตัดสินใจ ถ้านายกฯบอกว่าจะปรับเมื่อไร ก็คงจะติดต่อไปยังนายบรรหาร โดยตรง อย่างไรก็ตาม เรื่องกระทรวงของพรรคชาติไทย คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเพิ่งจะทำงานไปได้ไม่กี่เดือน และกำลังเดินหน้าไปด้วยดี
เมื่อถามว่า การปรับใหญ่จะช่วยลดกระแสความขัดแย้งในสังคมได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าปรับแล้วสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น แต่ที่ปรับเนื่องจากโดนโน่น โดนนี่ ที่รัฐมนตรีต้องถูกออก ในส่วนของพรรคชาติไทย คิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกระทรวง แต่ตัวบุคคลอาจปรับเปลี่ยนได้ ในส่วนของพรรคพลังประชาชน นายกรัฐมนตรีจะดูของท่านเอง
**ชี้"ครม.หมัก"ต้องรอใบสั่ง"แม้ว"
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะเป็นการพิสูจน์ว่า นายสมัคร มีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการรัฐบาลจริงหรือไม่ ความจริงนายสมัคร สามารถปรับครม.ได้เลยทันที ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 28 ก.ค. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายสมัคร จะไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนเดิม เพราะต้องไปต่อรองกับนายใหญ่เจ้าของพรรคตัวจริงเสียก่อน นอมินีอย่างนายสมัคร จึงอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จะทำได้เพียงการซื้อเวลา เพื่อต่อรองกับเจ้าของรัฐบาลเท่านั้น
**"เหลิม"ไม่ทิ้งปราบยาเสพติด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.หาดไทย กล่าวถึงการปรับครม.ว่า การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ จะให้ไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่ขัดข้อง อย่างไรก็ตาม ถ้าตนถูกปรับออกจาก ครม.ก็ไม่กระทบกับผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามยาเสพติด เพราะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ ตำแหน่งนี้ไม่เกี่ยวกับ รมว.มหาดไทย
"ถึงผมจะเป็นสายล้อฟ้าของรัฐบาล ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าถามเรื่องการปรับ ครม. บ่อย จะถามซักกี่ครั้ง ผมก็ตอบอย่างนี้ เพราะผมกำหนดตัวเองไม่ได้ ถึงอยากจะอยู่ต่อ ก็น่าเกลียด ออกเลย ก็ไม่มีปัญหา แล้วแต่ลุงหมัก" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า หากถูกปรับไปเป็น รมว.ยุติธรรม จะเข้าไปดูแลคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกัน กระทรวงยุติธรรมไม่เกี่ยวข้องกับศาล เพราะศาลเป็นองค์กรอิสระ การพิจารณาคดี ก็มีคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) และสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการ ใครที่แสดงความเห็นแบบนี้คือพวกที่ พูดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามทำงานอยู่บ้าง แต่รัฐสภา ค่อนข้างมีผลงานออกมาน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กมธ. หรือเรื่องอะไรต่างๆ จริงแล้วเมื่อรับเงินเดือนเมื่อไร แล้วก็ต้องทำงานให้มีผลผลิตออกมา
ผู้สื่อข่าวซักว่าหมายความว่า อยากเรียกร้องให้ ส.ส.ทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ทุกคนที่รับเงินเดือน แม้แต่ทหาร ก็ต้องเป็นเช่นนั้น
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึง การปรับ ครม. ที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะปรับหลังวันที่ 28 ก.ค. ว่า เรื่องนี้ เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่ง ครม.ยังไม่ได้หารืออะไรกัน แต่ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ได้มอบสิทธิให้นายกฯปรับเต็มที่ พรรคอื่นไม่เกี่ยว เป็นเรื่องที่เขาจะจัดสรรมา เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะคุยกันในวันที่ 26-27 ก.ค. นี้ นายสมชาย ตอบว่า วันดังกล่าวเป็นการสัมมนา ส.ส.พรรค ถ้าจะคุยน่าจะคุยกันในคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ ส.ส.ทั้งหมด แต่เป็นไปได้ว่า อาจจะใช้โอกาสนี้ประชุมกรรมการบริหารพรรค เพราะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
ปัญหาเรื่องกลุ่มต่างๆในพรรค ที่ต่างก็ไม่ยอมกันนั้น นายสมชาย กล่าวว่า นายกฯ เชี่ยวชาญทางนี้ คงจัดการได้ จริงๆแล้วตนไม่ได้ยินว่า มีเรื่องโควตา มีแต่เพียงการพูดกันว่า ครม. ต้องมาจากหลายฝ่าย แต่ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาใครมาก็ได้ มันไม่ได้เรียกว่าโควตา เป็นการหาคนที่เหมาะสม
ส่วนที่มองกันว่า อาจจะมีการปรับ ครม.โดยนำคนใกล้ชิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นรัฐมนตรี นายสมชาย กล่าวว่า อย่าไปมองว่าใกล้ชิด หรือไม่ ขอให้มองว่าคนๆ นั้น มาทำประโยชน์เพื่อส่วนตัวเขา หรือไม่ ถ้าไปดูเฉพาะในแง่คนใกล้ชิด แต่เข้าเก่งและเหมาะสม ก็คิดว่าอย่าไปรังเกียจ ถ้าคิดว่าเป็นญาติตนแล้วเข้ามาต้องไม่ดีเสมอไป ก็จะเป็นการไปตัดโอกาสของเขา ความใกล้ชิดมันห้ามกันไม่ได้ แต่ต้องดูการปฏิบัติตัว และความรู้ความสามารถของเขา
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามันก็เห็นเหมือนกันว่า คนใกล้ชิดบางคนที่เอาเข้ามา ไม่มีความรู้ความสามารถ นายสมชาย ตอบว่า คนๆนั้นอาจไม่ใกล้ชิดหรือ ถ้ายกตัวอย่าง นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ แล้ว ก็มีความสามารถ ที่ออกจากตำแหน่งไปเป็นเพราะเงื่อนไขภายหลังที่เห็นๆ กันอยู่ ก็อยากให้ดูความเป็นธรรมและความเหมาะสมของแต่ละคน อย่าไปคิดว่าคนนี้รู้จักใคร
เมื่อถามว่า จะมีคนนอกมาหรือไม่ นายสมชาย ตอบว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ดูตามข่าวแล้วว่าอาจจะมี โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็เลยไม่อยากรู้เท่าไร
ที่มีการประเมินว่าสถานการณ์ 3 เดือนข้างหน้าจะรุนแรงขึ้นนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ขอภาวนาว่าอย่าให้มีอะไรรุนแรงเลย รัฐบาลทำงานอย่างอดทน และระมัดระวัง ต้องการให้สงบเรียบร้อย หวังว่าการที่เราทำงานโดยไม่คิดใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม ก็อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย รัฐบาลไม่จำเป็นต้องอยู่ยงคงกระพันตลอดไป แต่การจะเข้าจะออก ก็อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีเลือดตกยางออก
"ตอนนี้ที่จำเป็นรัฐบาล เพราะอะไร เพราะเขาเลือกเข้ามาเยอะ จึงเป็นภาระที่จะต้องทำงาน ส่วนใครกระทำผิดอะไรก็ว่าไป ผมคิดอย่างนั้น ส่วนที่มีสมาชิกพรรคมีการวิวาทะ กับองค์กรอิสระ และฝ่ายตุลาการนั้น เป็นความคิดที่อาจจะเห็นต่าง ไม่อยากวิจารณ์ เพราะอยู่พรรคเดียวกัน ถ้าจะแก้ไขอะไร เราก็แก้ตามกติกา การที่นายกฯ ระบุว่า กติกาที่ใช้ ณ เวลานี้ เดินต่อไปไม่ได้แล้วนั้น ความเห็นอาจจะแตกต่างกันได้" นายสมชาย ระบุ
**"เลี้ยบ"ยัน ถ้าให้หยุดต้องตีความ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึง การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่จะมีการปรับหลายตำแหน่ง โดยให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนงานของรัฐบาล ว่า การปรับครั้งนี้จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น ส่วนปัญหาเรื่องโควต้า ไม่มี ให้เป็นอำนาจ และดุลพินิจของนายกฯ ในฐานนะหัวหน้าพรรค ที่สามารถที่จะดำเนินการได้เลย
ส่วนจะเป็นคนนอกเข้ามาหรือไม่ ยังไม่ทราบ เนื่องจากยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนายกฯ อย่างไรก็ตาม เรื่องคนนอกก็เป็นประเด็นตั้งแต่สรรหาคนจะมาเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่ชุดแรก เรื่องว่ามีข้อจำกัดในการที่คนนอกเองก็ไม่รู้สึกว่าการเข้ามาทำงานครั้งนี้จะทำงานได้ง่ายนัก เพราะมีกรอบ กติกา ที่เป็นปัญหาพอสมควร ฉะนั้นการที่จะให้มาทุ่มเททำงาน บางครั้งขอเป็นแค่ที่ปรึกษา ขอช่วยงานอยู่ภายนอกดีกว่า ส่วนเรื่องว่าใคร ยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีว่าติดต่อใครไปแล้ว ซึ่งชั้นนี้นายกฯ คงอยากจะเปิดให้กว้าง แล้วก็มีการคุยกันในเบื้องต้นก่อน
ส่วนเรื่องการหยุดปฎิบัติหน้าที่ คงต้องมีการตีความว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ หรือไม่ ในขณะที่มีการรับฟ้องในตำแหน่งเก่า เท่าที่สืบหาข้อกฎหมายมา ก็ไม่มีท่านใดให้ความมั่นใจได้ชัดเจน ว่า กรณีนี้จะมีแนวทางปฎิบัติอย่างไร เพราะฉะนั้นทั้ง 3 รัฐมนตรี มีการได้คุยกันเบิ้องต้นแล้ว ก็คิดว่าน่าจะทำให้เกิดบรรทัดฐาน อาจจะต้องมีการยื่นตีความ ส่วนเรื่องจะใช้ช่องทางไหนต้องรอความชัดเจนวันที่ 28 ก.ค. ก่อน
**ชาติไทยขอกระทรวงเดิม
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศปรับคณะรัฐมนตรีกว่า 10 ที่นั่งหลังวันที่ 28 ก.ค.นี้ ที่มีรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทย เกี่ยวข้องกับคดีหวยบนดินด้วยว่า การปรับของพรรคชาติไทยขึ้นอยู่กับ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ว่าจะปรับใคร หรือไม่อย่างไร และการที่นายกฯสินใจปรับหลังวันที่ 28 ก.ค. ก็ไม่คิดว่าช้าเกินไป แม้แต่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ขาดรัฐมนตรีว่าการ ก็ยังมีรองนายกรัฐมนตรีอีก 3 ท่าน ที่รับผิดชอบ หากมีภารกิจใดๆ รองนายกรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งก็สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม ไม่มีปัญหาเรื่องคดีหวย พรรคจะมีการปรับหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอนายบรรหาร ตัดสินใจ ถ้านายกฯบอกว่าจะปรับเมื่อไร ก็คงจะติดต่อไปยังนายบรรหาร โดยตรง อย่างไรก็ตาม เรื่องกระทรวงของพรรคชาติไทย คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเพิ่งจะทำงานไปได้ไม่กี่เดือน และกำลังเดินหน้าไปด้วยดี
เมื่อถามว่า การปรับใหญ่จะช่วยลดกระแสความขัดแย้งในสังคมได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าปรับแล้วสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น แต่ที่ปรับเนื่องจากโดนโน่น โดนนี่ ที่รัฐมนตรีต้องถูกออก ในส่วนของพรรคชาติไทย คิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกระทรวง แต่ตัวบุคคลอาจปรับเปลี่ยนได้ ในส่วนของพรรคพลังประชาชน นายกรัฐมนตรีจะดูของท่านเอง
**ชี้"ครม.หมัก"ต้องรอใบสั่ง"แม้ว"
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะเป็นการพิสูจน์ว่า นายสมัคร มีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการรัฐบาลจริงหรือไม่ ความจริงนายสมัคร สามารถปรับครม.ได้เลยทันที ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 28 ก.ค. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายสมัคร จะไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนเดิม เพราะต้องไปต่อรองกับนายใหญ่เจ้าของพรรคตัวจริงเสียก่อน นอมินีอย่างนายสมัคร จึงอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จะทำได้เพียงการซื้อเวลา เพื่อต่อรองกับเจ้าของรัฐบาลเท่านั้น
**"เหลิม"ไม่ทิ้งปราบยาเสพติด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.หาดไทย กล่าวถึงการปรับครม.ว่า การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ จะให้ไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่ขัดข้อง อย่างไรก็ตาม ถ้าตนถูกปรับออกจาก ครม.ก็ไม่กระทบกับผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามยาเสพติด เพราะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ ตำแหน่งนี้ไม่เกี่ยวกับ รมว.มหาดไทย
"ถึงผมจะเป็นสายล้อฟ้าของรัฐบาล ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าถามเรื่องการปรับ ครม. บ่อย จะถามซักกี่ครั้ง ผมก็ตอบอย่างนี้ เพราะผมกำหนดตัวเองไม่ได้ ถึงอยากจะอยู่ต่อ ก็น่าเกลียด ออกเลย ก็ไม่มีปัญหา แล้วแต่ลุงหมัก" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า หากถูกปรับไปเป็น รมว.ยุติธรรม จะเข้าไปดูแลคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกัน กระทรวงยุติธรรมไม่เกี่ยวข้องกับศาล เพราะศาลเป็นองค์กรอิสระ การพิจารณาคดี ก็มีคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) และสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการ ใครที่แสดงความเห็นแบบนี้คือพวกที่ พูดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง