อพท.เร่งพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นพื้นที่พิเศษ จ้างที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบสวล.อีกรอบ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (อพท.) เดินหน้าดันโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เตรียมจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอีกรอบ

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ภายหลังองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (อพท.) เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการผลักดันโครงการ ว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ซึ่งนายรัชทิน ศยามานนท์ อดีตอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ความคืบหน้าล่าสุดหลังจากที่อพท.ได้ลงมารับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆและประชาชนชาวภูเก็ตนั้น ขณะนี้ บอร์ดของอพท.ได้เห็นชอบว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตแล้ว ด้วยงบประมาณกว่า 9 ล้านบาท โดยจะเริ่มศึกษาในเร็วๆนี้

นายนิรันดร์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้เสนออพท.ถึงพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนให้ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่อ่าวภูเก็ตในบริเวณเทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลวิชิตและเทศบาลตำบลรัษฏา เพราะช่วงที่อพท.ลงมารับฟังความคิดเห็นมีหน่วยงานหลายหน่วยงานได้เสนอที่จะให้อพท.ทำให้ภูเก็ตเป็นพื้นที่พิเศษทั้งเกาะ

ตนเห็นว่าการทำทั้งเกาะนั้นเคยมีการพูดถึงในช่วงของการที่จะทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองนานาชาติ แต่ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ น่าที่จะเริ่มต้นจากโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตก่อน และได้เสนอคณะทำงานฯไปว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปแล้วบางส่วนเหมือนกัน รวมทั้งจังหวัดเองก็ว่าจ้างมหาวิทยาลัยในพื้นที่ทำการศึกษาความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ในบริเวณรอบๆ โครงการไปแล้วเช่นกัน

ส่วนรูปแบบการดำเนินโครงการ นายนิรันดร์ กล่าวว่า น่าจะเป็นรูปแบบเดิมตามที่กรมโยธาธิการฯเคยทำการศึกษาออกแบบไว้แล้ว ที่ประกอบด้วย เกาะสองเกาะ คือ เกาะMICE ที่เน้นกิจกรรมด้านการประชุมสัมมนา และเกาะ MARINA ที่เน้นส่งเสริมกิจกรรมเรือยอชต์ ที่ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 70,000-100,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้ให้แก่ภูเก็ต ด้วยการพัฒนาพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ซึ่งเป็นทะเลดินเลนที่เกิดจากการทำเหมืองแร่ และขาดความสวยงาม ให้เป็นเมืองใหม่ขึ้นมา โดยการสร้างเป็นเกาะขึ้นมา 2 เกาะ คือ เกาะ MICE และเกาะ MARINA

กรมโยธิการและผังเมืองได้เคยศึกษาไว้ ด้วยเงินลงทุนขณะนั้น 63,000 ล้านบาท ( แต่ปัจจุบันคาดว่าต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 70,000-100,000 ล้านบาท) บนพื้นที่ทั้งหมด 3,000 ไร่ แต่พื้นที่ออกแบบเป็นเกาะทั้ง 2 เกาะ 2,200 ไร่ และครม.ได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2548 และในรัฐบาลทักษิณ 2 ได้ให้ความสำคัญกับโครงการนี้มาก ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาผลักดันโครงการนี้ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธาน เพื่อศึกษารายละเอียดในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การได้มาของที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการฯ โครงการมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมื่อเดือนกันยายน 2549 โครงการได้ชะงักไป

โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตในช่วงรัฐบาลทักษิณ 2 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนหลายรายด้วยกันที่แสดงความสนใจลงทุนผ่านรัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และล่าสุดนักลงทุนจากประเทศเกาหลีก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้อีก

ล่าสุด อพท.ได้เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการโครงการ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งก่อนหน้านี้ได้ลงมาสำรวจพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งบอร์ดอพท.ได้มีมติเห็นชอบจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในโครงการแล้ว