คนเชียงใหม่กว่า 2 พันร่วมเวที พธม.ท่ามกลาง “ม็อบถ่อย” ลิ่วล้อ“พลังแม้ว” บุกกดดันถึงหน้าโรงยิมฯ พร้อมขว้างปาไข่เน่า-แก้วน้ำ-หิน-ฉี่ ฯลฯ เข้าใส่เครือข่ายพันธมิตรฯ ประชาชนโดยไม่เว้นเด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ คนเฒ่า คนแก่ เหิมหนักปาไข่เน่าใส่ "พระฉายาลักษณ์พระพี่นางฯ"ที่หน้าเวทีด้วย ท่ามกลางความสงสัยในการทำงานของตำรวจที่ปล่อยให้ม็อบกดดันได้เกือบถึงเวที “ไชยวัฒน์” แฉ “พลังแม้ว” จัดม็อบถ่อยตามป่วนเวทีพันธมิตรฯอีสานทุกจังหวัด ส่วนเหตุการณ์ป่วนที่บุรีรัมย์เป็นฝีมือแก๊ง“ยี้ห้อย” พธม.บุรีรัมย์ลั่นไม่หวั่น พร้อมนัดชุมนุมใหญ่ตะเพิด “เป็ดเหลิม” อีก 15 ก.ค.นี้ “สมชาย”ตาขาวไม่กล้าเข้าเมืองชลฯกลัวโดนพันธมิตรฯกว่า 3,000 คนโห่ต้อนรับเปิดสาขา พปช.ชลบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น.วานนี้ (13 ก.ค.) กลุ่มสภาประชาชนภาคเหนือ นำโดยนายเพรชวัฒน์ พัฒนศิริกุล ประธานสภาประชาชนภาคเหนือ และนายอัครเดช สุขลักษณ์ แกนนำเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านที่เคลื่อนไหวสนับสนุนพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และเคยเป็นผู้นำกำลังคนบุกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมพินีมาแล้วได้นำคนประมาณ 200 คน มาชุมนุมที่บริเวณทางเข้าด้านตะวันออกสนามกีฬากลางเทศบาลนครเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นทางเข้าโรงยิมเนเชียม 3 ซึ่งเป็นสถานที่จัดเสวนาเรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร" ที่จะมีขึ้นในเวลา 11.00 น.ของวันเดียวกัน
โดยกลุ่มนายอัครเดช ซึ่งบางส่วนสวมเสื้อแดง โพกผ้าสีขาวได้ใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงปิดทางเข้า ติดป้ายโจมตีพันธมิตรฯว่า ก่อความวุ่นวายขึ้นในสังคม-ใช้การเมืองนอกสภา ฯลฯ พร้อมกับปราศรัยโจมตีพันธมิตรฯว่า เป็นตัวการทำลายเศรษฐกิจ เรียกร้องให้คนเชียงใหม่ออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ
นอกจากนี้ ยังออกแถลงการณ์ว่า กรณีเขาพระวิหารเป็นการปลุกปั่นบิดเบือนประเด็น โดยอ้างว่า ศาลโลกได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของเขมรมาตั้งแต่ปี 2505 แล้ว แต่มีการนำเอาประเด็นนี้มีสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนเพื่อหวังผลทางการเมืองแกนนำกลุ่มสภาประชาชนฯ ยังอ้างอีกว่า การจัดเวทีของพันธมิตรเชียงใหม่ ครั้งนี้ เป็นการนำคนจากต่างจังหวัดเข้ามาสร้างความวุ่นวายในเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ช้างเผือก เข้ามาดูสถานการณ์อยู่ทั้งใน-นอกเครื่องแบบ โดยกระจายอยู่นอกสนามกีฬาฯประมาณ 20-30 นาย และเตรียมพร้อมระงับเหตุอยู่ภายในสนามกีฬาฯ อีกประมาณ 100 นาย
นอกจากนี้ ประชาชนที่เดินทางมาร่วมฟังเสวนาและได้จอดรถทิ้งไว้ภายนอกได้ถูกกลุ่มก่อกวนปาไข่เน่าและตามทำร้ายถึงภายในยิมเนเซียม โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าระงับเหตุ
ถ่อยปาไข่เน่า"พระฉายาลักษณ์ฯ"
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า แม้กลุ่มต่อต้านจะระดมชาวบ้าน และชาวเขาจากชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มาปิดทางเข้าสนามกีฬาฯ ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น.ก็ตาม แต่ชาวเชียงใหม่ที่ต้องการเข้าร่วมฟังการเสวนาก็พยายามเล็ดรอดเข้าไปภายในโรงยิมฯได้กว่า 2,000 คน
จากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ เชียงใหม่ก็เริ่มเปิดเวทีเสวนาโดยเชิญวิทยากรทั้งนายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ อดีต ส.ว., นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี. ฯลฯ ขึ้นเวทีอภิปรายเกี่ยวกับการสูญเสียอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารให้กับเขมร
ขณะที่กลุ่มต่อต้านได้เคลื่อนขบวนจากประตูหน้าสนามกีฬาฯเข้าไปภายในบริเวณสนามมุ่งตรงไปหน้าโรงยิมเนเซี่ยม 3 สถานที่จัดเวทีของพันธมิตรฯและปักหลักอยู่ห่างจากประตูทางเข้าโรงยิมฯเพียงไม่ถึง 10 เมตร พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงที่ติดมากับรถเปิดปราศรัยโจมตี ด่าทอ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำหยาบคายทั้งก่อกวนการจัดเวทีของพันธมิตรฯอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ กลุ่มต่อต้านฯบางส่วนยังขว้างปาไข่เน่า ถุงผักดอง ขวดน้ำดื่ม เข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯตลอดเวลา โดยมีอยู่ส่วนหนึ่งที่จงใจข้างไข่เน่าเข้าใส่พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ตัดตั้งไว้บริเวณหน้าโรงยิมฯ 3 จนทำให้พระฉายาลักษณ์เปื้อนไข่เน่า โดยเฉพาะบริเวณพระพักต์
จากนั้นนายวิทยา ตันติภูวนาท หรือ "เป็ด" เจ้าของฟาร์มนกนกระจอกเทศจาก จ.เชียงราย แกนนำกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ได้ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงปลุกระดมกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯบุกเข้ายึดเต็นท์หน้าโรงยิมฯ 3 ซึ่งเป็นเต็นท์ที่แกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่ จัดไว้สำหรับให้ประชาชนที่เข้าร่วมการเสวนาลงทะเบียน เป็นระยะๆ โดยได้สั่งการให้ใช้กำลังฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป
มีรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงหลายหน่วยตรงกันว่า กลุ่มคนที่มาต่อต้านพันธมิตรฯเชียงใหม่ครั้งนี้ ส่วนใหญ่ได้รับค่าจ้างจากอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทยคนหนึ่ง ที่ส่งเลขาฯคนสนิทเข้ามากำกับกลุ่มฝ่ายต่อต้านจนถึงสนามกีฬาฯด้วย
สุดถ่อย!ปาฉี่-หินใส่เด็ก-คนก่
ต่อมาเวลา 16.00 น."หรั่ง ร็อคเคสตร้า" หรือนายชัชชัย สุขขาวดี ศิลปินนักร้องเพลงร็อคชื่อดังได้ขึ้นเวทีนำประชาชนร่วมร้องเพลง "We Love The King We love Thailand" จากนั้น "สุนทรี เวชชานนท์" ศิลปินล้านนาได้ร่วมขึ้นร้องเพลงบนเวทีปิดท้ายก่อนที่ผู้เข้าร่วมเสวนาจะเริ่มทยอยออกจากโรงยิมฯ โดยระหว่างที่ประชาชนทยอยออกจากโรงยิมฯนั้น กลุ่มต่อต้านได้ใช้เครื่องขยายเสียงปลุกเร้ากลุ่มม็อบเสื้อแดงให้ปิดล้อมทางเข้าออกประตูโรงยิม-สนามกีฬาฯไม่ให้ผู้เข้าร่วมเสวนาเดินทางกลับได้
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนขว้างปาสิ่งของทั้งไข่เน่า ถุงแกงบูด ถุงฉี่ ขวดน้ำ ก้อนหิน เข้าใส่ประชาชนที่กำลังทยอยเดินทางออกจากประตูด้านหน้าโรงยิมฯโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ หรือผู้สูงอายุใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องขอให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ที่ดูแลโรงยิมฯอยู่ เปิดประตูด้านข้างโรงยิมฯ ให้ผู้เข้าร่วมเวทีทยอยเดินทางกลับจนหมด แต่ก็ยังถูกกลุ่มผู้ต่อต้านตามไปโห่ไล่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ที่สัญจรไปมาผ่านหน้าสนามกีฬาฯบางส่วนก็ถูกขว้างปาและบางรายหลังจากเดินออกโรงยิมฯมาแล้วยังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านวิ่งตามไปทำร้ายร่างกายด้วย
ขณะเดียวกันแกนนำกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมต่อต้านพันธมิตรฯครั้งนี้ยังได้ประกาศว่า จะระดมพลต่อต้านพันธมิตรฯเชียงรายที่จะจัดเวทีวันที่ 19 ก.ค.51 ที่จะถึงนี้ด้วย พร้อมกับยืนยันว่า จะต่อต้านอย่างรุนแรงมากกว่าเชียงใหม่แน่นอน
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด แกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมตำรวจถึงปล่อยให้กลุ่มที่ต่อต้านพันธมิตรฯนำกำลังคนเข้ามาประชิดสถานที่จัดการเสวนาได้มากขนาดนี้ ทั้งที่มีกำลังพลกว่า 100 นาย ขณะที่ฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯเหลือกำลังคนเพียงไม่ไม่ถึง 100 คนเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ปิยบุตร อัจฉริยะมงคล ผกก.สภ.ช้างเผือก กล่าวถึงกรณีถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ทางตำรวจพยายามสกัดกั้นกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถสกัดได้" พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า "ไม่ใช่ความผิดของตำรวจที่ปล่อยให้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯบุกเข้ากดดันได้ถึงหน้าโรงยิม 3" พร้อมกับกล่าวตอบผู้สื่อข่าวอย่างมีอารมณ์ด้วยว่า "ห้ามถามผมอย่างนี้ เพราะไม่ใช่ความผิดของผม"
แฉแก๊ง"ยี้ห้อย"เกณฑ์คนป่วน
นายศรีเมือง วัฒนาชีพ เครือข่ายพลังแผ่นดินฯบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์ เปิดเผยกรณีที่กลุ่มเครือข่ายชาวบุรีรัมย์ไม่เอาพันธมิตรฯเข้าปิดล้อมเวทีปราศรัยพันธมิตรฯบุรีรัมย์จนเกิดการปะทะกันขึ้นเมื่อคืนที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า กลุ่มผู้ที่มาเคลื่อนไหวล้วนเป็นคนของนักการเมืองกลุ่มอำนาจเก่าที่เป็นที่รู้จักดีในนาม "ยี้ห้อย" โดยมี ส.ส.และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นคือ ส.อบจ.สังกัดค่าย "ยี้ห้อย" อยู่เบื้องหลังในการเกณฑ์ชาวบ้านจาก 3 อำเภอหลักคือ อ.เมือง, กระสัง และสตึก เดินทางด้วยรถปิกอัพประมาณ 43 คันพร้อมรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งขยายเสียงเข้ามาตระเวนก่อกวนการเปิดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย ด้วยความป่าเถื่อนและรุนแรง
โดยกลุ่มนี้ได้ตระเวนก่อกวนทั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ และจุดถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ที่บริเวณลานวัฒนธรรมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร และเป็นที่สังเกตกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ถูกเกณฑ์มาหลายคนใช้ผ้า หรือถอดเสื้อโพกหัวบิดบังใบหน้าตัวเองอย่างมิดชิดด้วย
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ชาวบุรีรัมย์ผู้รักความเป็นธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์หวาดหวั่นหรือท้อแท้ พวกเรายังยืนยันว่าวันที่ 15 ก.ค.นี้ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย มีกำหนดจะเดินทางมาตรวจราชการที่บุรีรัมย์พวกเราจะรวมตัวกันชุมนุมใหญ่แสดงพลังขับไล่รัฐมนตรีของรัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณอย่างถึงที่สุด"
แฉพลังแม้วจัดม็อบป่วน พธม.อีสาน
ด้านนายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า คณะพวกเราไปเปิดเวทีปราศรัยในเขตภาคอีสานหลายจังหวัด ปรากฏว่าในแต่ละจังหวัดจะมีกลุ่ม นปก.และกลุ่มนักการเมืองพรรคพลังประชาชน เกณฑ์คนเข้ามาก่อกวนสร้างความวุ่นวายให้เวทีพันธมิตรฯอยู่ตลอดเวลา และมีการจ้างเหมารถยนต์ติดตามไปก่อกวนในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนือง แต่ทุกแห่งที่เกิดความวุ่นวายขึ้นมาไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนของกลุ่มพันธมิตรฯที่เปิดเวทีจัดชุมนุมกันอย่างสงบ สันติภายใต้รัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
"สมชาย"ยกเลิกเปิด สนง.พลังแม้ว
วันเดียวกันที่บริเวณเมืองใหม่ จ.ชลบุรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ มีกำหนดจะเดินทางมาเปิดสำนักงานประสานงานพรรคพลังประชาชนที่ จ.ชลบุรี ในเวลา 11.00 น.กลุ่มพันธมิตรฯชลบุรีจากพื้นที่ต่างๆ ที่ทราบข่าวได้มาคอยต้อนรับกว่า 3,000 คน ตั้งแต่เช้าเพื่อขับไล่และไม่ต้องการให้ลงมาเหยียบพื้นที่ จ.ชลบุรี เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ แต่เมื่อถึงเวลาเปิดสำนักงานปรากฎว่า นายสมชาย ได้ยกเลิกที่จะเดินทางมาเปิดงานแต่มอบหมายให้นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม ที่เดินทางมาร่วมงานล่วงหน้าแล้วเป็นประธานในการเปิดงานแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น.วานนี้ (13 ก.ค.) กลุ่มสภาประชาชนภาคเหนือ นำโดยนายเพรชวัฒน์ พัฒนศิริกุล ประธานสภาประชาชนภาคเหนือ และนายอัครเดช สุขลักษณ์ แกนนำเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านที่เคลื่อนไหวสนับสนุนพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และเคยเป็นผู้นำกำลังคนบุกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมพินีมาแล้วได้นำคนประมาณ 200 คน มาชุมนุมที่บริเวณทางเข้าด้านตะวันออกสนามกีฬากลางเทศบาลนครเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นทางเข้าโรงยิมเนเชียม 3 ซึ่งเป็นสถานที่จัดเสวนาเรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร" ที่จะมีขึ้นในเวลา 11.00 น.ของวันเดียวกัน
โดยกลุ่มนายอัครเดช ซึ่งบางส่วนสวมเสื้อแดง โพกผ้าสีขาวได้ใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงปิดทางเข้า ติดป้ายโจมตีพันธมิตรฯว่า ก่อความวุ่นวายขึ้นในสังคม-ใช้การเมืองนอกสภา ฯลฯ พร้อมกับปราศรัยโจมตีพันธมิตรฯว่า เป็นตัวการทำลายเศรษฐกิจ เรียกร้องให้คนเชียงใหม่ออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ
นอกจากนี้ ยังออกแถลงการณ์ว่า กรณีเขาพระวิหารเป็นการปลุกปั่นบิดเบือนประเด็น โดยอ้างว่า ศาลโลกได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของเขมรมาตั้งแต่ปี 2505 แล้ว แต่มีการนำเอาประเด็นนี้มีสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนเพื่อหวังผลทางการเมืองแกนนำกลุ่มสภาประชาชนฯ ยังอ้างอีกว่า การจัดเวทีของพันธมิตรเชียงใหม่ ครั้งนี้ เป็นการนำคนจากต่างจังหวัดเข้ามาสร้างความวุ่นวายในเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ช้างเผือก เข้ามาดูสถานการณ์อยู่ทั้งใน-นอกเครื่องแบบ โดยกระจายอยู่นอกสนามกีฬาฯประมาณ 20-30 นาย และเตรียมพร้อมระงับเหตุอยู่ภายในสนามกีฬาฯ อีกประมาณ 100 นาย
นอกจากนี้ ประชาชนที่เดินทางมาร่วมฟังเสวนาและได้จอดรถทิ้งไว้ภายนอกได้ถูกกลุ่มก่อกวนปาไข่เน่าและตามทำร้ายถึงภายในยิมเนเซียม โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าระงับเหตุ
ถ่อยปาไข่เน่า"พระฉายาลักษณ์ฯ"
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า แม้กลุ่มต่อต้านจะระดมชาวบ้าน และชาวเขาจากชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มาปิดทางเข้าสนามกีฬาฯ ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น.ก็ตาม แต่ชาวเชียงใหม่ที่ต้องการเข้าร่วมฟังการเสวนาก็พยายามเล็ดรอดเข้าไปภายในโรงยิมฯได้กว่า 2,000 คน
จากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ เชียงใหม่ก็เริ่มเปิดเวทีเสวนาโดยเชิญวิทยากรทั้งนายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ อดีต ส.ว., นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี. ฯลฯ ขึ้นเวทีอภิปรายเกี่ยวกับการสูญเสียอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารให้กับเขมร
ขณะที่กลุ่มต่อต้านได้เคลื่อนขบวนจากประตูหน้าสนามกีฬาฯเข้าไปภายในบริเวณสนามมุ่งตรงไปหน้าโรงยิมเนเซี่ยม 3 สถานที่จัดเวทีของพันธมิตรฯและปักหลักอยู่ห่างจากประตูทางเข้าโรงยิมฯเพียงไม่ถึง 10 เมตร พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงที่ติดมากับรถเปิดปราศรัยโจมตี ด่าทอ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำหยาบคายทั้งก่อกวนการจัดเวทีของพันธมิตรฯอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ กลุ่มต่อต้านฯบางส่วนยังขว้างปาไข่เน่า ถุงผักดอง ขวดน้ำดื่ม เข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯตลอดเวลา โดยมีอยู่ส่วนหนึ่งที่จงใจข้างไข่เน่าเข้าใส่พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ตัดตั้งไว้บริเวณหน้าโรงยิมฯ 3 จนทำให้พระฉายาลักษณ์เปื้อนไข่เน่า โดยเฉพาะบริเวณพระพักต์
จากนั้นนายวิทยา ตันติภูวนาท หรือ "เป็ด" เจ้าของฟาร์มนกนกระจอกเทศจาก จ.เชียงราย แกนนำกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ได้ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงปลุกระดมกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯบุกเข้ายึดเต็นท์หน้าโรงยิมฯ 3 ซึ่งเป็นเต็นท์ที่แกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่ จัดไว้สำหรับให้ประชาชนที่เข้าร่วมการเสวนาลงทะเบียน เป็นระยะๆ โดยได้สั่งการให้ใช้กำลังฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป
มีรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงหลายหน่วยตรงกันว่า กลุ่มคนที่มาต่อต้านพันธมิตรฯเชียงใหม่ครั้งนี้ ส่วนใหญ่ได้รับค่าจ้างจากอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทยคนหนึ่ง ที่ส่งเลขาฯคนสนิทเข้ามากำกับกลุ่มฝ่ายต่อต้านจนถึงสนามกีฬาฯด้วย
สุดถ่อย!ปาฉี่-หินใส่เด็ก-คนก่
ต่อมาเวลา 16.00 น."หรั่ง ร็อคเคสตร้า" หรือนายชัชชัย สุขขาวดี ศิลปินนักร้องเพลงร็อคชื่อดังได้ขึ้นเวทีนำประชาชนร่วมร้องเพลง "We Love The King We love Thailand" จากนั้น "สุนทรี เวชชานนท์" ศิลปินล้านนาได้ร่วมขึ้นร้องเพลงบนเวทีปิดท้ายก่อนที่ผู้เข้าร่วมเสวนาจะเริ่มทยอยออกจากโรงยิมฯ โดยระหว่างที่ประชาชนทยอยออกจากโรงยิมฯนั้น กลุ่มต่อต้านได้ใช้เครื่องขยายเสียงปลุกเร้ากลุ่มม็อบเสื้อแดงให้ปิดล้อมทางเข้าออกประตูโรงยิม-สนามกีฬาฯไม่ให้ผู้เข้าร่วมเสวนาเดินทางกลับได้
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนขว้างปาสิ่งของทั้งไข่เน่า ถุงแกงบูด ถุงฉี่ ขวดน้ำ ก้อนหิน เข้าใส่ประชาชนที่กำลังทยอยเดินทางออกจากประตูด้านหน้าโรงยิมฯโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ หรือผู้สูงอายุใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องขอให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ที่ดูแลโรงยิมฯอยู่ เปิดประตูด้านข้างโรงยิมฯ ให้ผู้เข้าร่วมเวทีทยอยเดินทางกลับจนหมด แต่ก็ยังถูกกลุ่มผู้ต่อต้านตามไปโห่ไล่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ที่สัญจรไปมาผ่านหน้าสนามกีฬาฯบางส่วนก็ถูกขว้างปาและบางรายหลังจากเดินออกโรงยิมฯมาแล้วยังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านวิ่งตามไปทำร้ายร่างกายด้วย
ขณะเดียวกันแกนนำกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมต่อต้านพันธมิตรฯครั้งนี้ยังได้ประกาศว่า จะระดมพลต่อต้านพันธมิตรฯเชียงรายที่จะจัดเวทีวันที่ 19 ก.ค.51 ที่จะถึงนี้ด้วย พร้อมกับยืนยันว่า จะต่อต้านอย่างรุนแรงมากกว่าเชียงใหม่แน่นอน
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด แกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมตำรวจถึงปล่อยให้กลุ่มที่ต่อต้านพันธมิตรฯนำกำลังคนเข้ามาประชิดสถานที่จัดการเสวนาได้มากขนาดนี้ ทั้งที่มีกำลังพลกว่า 100 นาย ขณะที่ฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯเหลือกำลังคนเพียงไม่ไม่ถึง 100 คนเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ปิยบุตร อัจฉริยะมงคล ผกก.สภ.ช้างเผือก กล่าวถึงกรณีถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ทางตำรวจพยายามสกัดกั้นกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถสกัดได้" พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า "ไม่ใช่ความผิดของตำรวจที่ปล่อยให้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯบุกเข้ากดดันได้ถึงหน้าโรงยิม 3" พร้อมกับกล่าวตอบผู้สื่อข่าวอย่างมีอารมณ์ด้วยว่า "ห้ามถามผมอย่างนี้ เพราะไม่ใช่ความผิดของผม"
แฉแก๊ง"ยี้ห้อย"เกณฑ์คนป่วน
นายศรีเมือง วัฒนาชีพ เครือข่ายพลังแผ่นดินฯบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์ เปิดเผยกรณีที่กลุ่มเครือข่ายชาวบุรีรัมย์ไม่เอาพันธมิตรฯเข้าปิดล้อมเวทีปราศรัยพันธมิตรฯบุรีรัมย์จนเกิดการปะทะกันขึ้นเมื่อคืนที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า กลุ่มผู้ที่มาเคลื่อนไหวล้วนเป็นคนของนักการเมืองกลุ่มอำนาจเก่าที่เป็นที่รู้จักดีในนาม "ยี้ห้อย" โดยมี ส.ส.และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นคือ ส.อบจ.สังกัดค่าย "ยี้ห้อย" อยู่เบื้องหลังในการเกณฑ์ชาวบ้านจาก 3 อำเภอหลักคือ อ.เมือง, กระสัง และสตึก เดินทางด้วยรถปิกอัพประมาณ 43 คันพร้อมรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งขยายเสียงเข้ามาตระเวนก่อกวนการเปิดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย ด้วยความป่าเถื่อนและรุนแรง
โดยกลุ่มนี้ได้ตระเวนก่อกวนทั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ และจุดถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ที่บริเวณลานวัฒนธรรมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร และเป็นที่สังเกตกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ถูกเกณฑ์มาหลายคนใช้ผ้า หรือถอดเสื้อโพกหัวบิดบังใบหน้าตัวเองอย่างมิดชิดด้วย
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ชาวบุรีรัมย์ผู้รักความเป็นธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์หวาดหวั่นหรือท้อแท้ พวกเรายังยืนยันว่าวันที่ 15 ก.ค.นี้ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย มีกำหนดจะเดินทางมาตรวจราชการที่บุรีรัมย์พวกเราจะรวมตัวกันชุมนุมใหญ่แสดงพลังขับไล่รัฐมนตรีของรัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณอย่างถึงที่สุด"
แฉพลังแม้วจัดม็อบป่วน พธม.อีสาน
ด้านนายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า คณะพวกเราไปเปิดเวทีปราศรัยในเขตภาคอีสานหลายจังหวัด ปรากฏว่าในแต่ละจังหวัดจะมีกลุ่ม นปก.และกลุ่มนักการเมืองพรรคพลังประชาชน เกณฑ์คนเข้ามาก่อกวนสร้างความวุ่นวายให้เวทีพันธมิตรฯอยู่ตลอดเวลา และมีการจ้างเหมารถยนต์ติดตามไปก่อกวนในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนือง แต่ทุกแห่งที่เกิดความวุ่นวายขึ้นมาไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนของกลุ่มพันธมิตรฯที่เปิดเวทีจัดชุมนุมกันอย่างสงบ สันติภายใต้รัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
"สมชาย"ยกเลิกเปิด สนง.พลังแม้ว
วันเดียวกันที่บริเวณเมืองใหม่ จ.ชลบุรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ มีกำหนดจะเดินทางมาเปิดสำนักงานประสานงานพรรคพลังประชาชนที่ จ.ชลบุรี ในเวลา 11.00 น.กลุ่มพันธมิตรฯชลบุรีจากพื้นที่ต่างๆ ที่ทราบข่าวได้มาคอยต้อนรับกว่า 3,000 คน ตั้งแต่เช้าเพื่อขับไล่และไม่ต้องการให้ลงมาเหยียบพื้นที่ จ.ชลบุรี เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ แต่เมื่อถึงเวลาเปิดสำนักงานปรากฎว่า นายสมชาย ได้ยกเลิกที่จะเดินทางมาเปิดงานแต่มอบหมายให้นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม ที่เดินทางมาร่วมงานล่วงหน้าแล้วเป็นประธานในการเปิดงานแทน
