บุรีรัมย์ – แฉ! เบื้องหลังกลุ่มนักการเมืองชั่ว แก๊ง “ยี้ห้อย” เกณฑ์ชาวบ้าน 3 อำเภอ พร้อมอันธพาลเดินทางด้วยรถปิกอัพกว่า 1,000 คนเข้าปิดล้อมก่อกวนเวทีปราศรัยและจุดถ่ายทอดสดกลุ่มพันธมิตรฯ บุรีรัมย์ รุมทำร้ายร่างกายอย่างป่าเถื่อน จนเกิดเหตุการณ์ปะทะเดือด ต้องรื้อเวทียุติการปราศรัยและถ่ายทอดสด ASTV ด้านแกนนำเผย ไม่ทำให้พันธมิตรฯ บุรีรัมย์หวาดหวั่น เตรียมแจ้งจับวันนี้ (13 ก.ค.) ลั่นนัดระดมพลชุมนุมใหญ่ตะเพิด “เป็ดเหลิม” รมต.อันธพาลหุ่นเชิด “แม้ว” อย่างถึงที่สุดในการเดินทางมา จ.บุรีรัมย์ 15 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีการเกณฑ์ชาวบ้านที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มเครือข่ายชาวบุรีรัมย์ไม่เอาพันธมิตรฯ” กว่า 1,000 คัน เข้าปิดล้อมเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ บุรีรัมย์ ถึง 2 จุดและเกิดการปะทะเข้ารุมทำร้ายร่างกายประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ก.ค.)นั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 ก.ค.) นายศรีเมือง วัฒนาชีพ เครือข่ายพลังแผ่นดินจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ที่มาเคลื่อนไหวในครั้งนี่ล้วนแต่เป็นคนของนักการเมืองกลุ่มอำนาจเก่าที่เป็นที่รู้จักดีในนาม “ยี้ห้อย” โดย มี ส.ส. และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นคือ ส.อบจ. สังกัดค่าย “ยี้ห้อย” อยู่เบื้องหลัง ในการเกณฑ์ชาวบ้านจาก 3 อำเภอหลักๆ คือ อ.เมือง, อ.กระสัง และ อ.สตึก เดินทางด้วยรถปิกอัพประมาณ 43 คัน พร้อมรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งขยายเสียง เข้ามาตระเวนก่อกวนการจัดชุมนุมเปิดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อให้เกิดความวุ่นวายด้วยความป่าเถื่อนและรุนแรง
โดยกลุ่มนี้ได้ตระเวนก่อกวนทั้งเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ และจุดถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่พันธมิตรฯ จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ ที่บริเวณลานวัฒนธรรมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร และเป็นที่สังเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ถูกเกณฑ์มาหลายคนใช้ผ้า หรือถอดเสื้อโพกหัวบิดบังใบหน้าตัวเองอย่างมิดชิดด้วย
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ประชาชนชาวบุรีรัมย์ผู้รักความเป็นธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ บุรีรัมย์หวาดหวั่นหรือท้อแท้แต่อย่างใด ซึ่งประชาชนที่ถูกกลุ่มต่อต้านรุมทำร้ายร่างได้รับบาดเจ็บ จะเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มที่รุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อนในวันนี้ (13 ก.ค.)
นอกจากนี้ พวกเรายืนยันว่าในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาตรวจราชการที่ จ.บุรีรัมย์ นั้น กลุ่มพันธมิตรฯ บุรีรัมย์และองค์กรเครือข่ายในจังหวัดบุรีรัมย์ทุกองค์กรจะรวมตัวกันชุมนุมใหญ่แสดงพลังต่อต้านขับไหล่รัฐมนตรี ของรัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณอย่างถึงที่สุด
“จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดด้วย เพราะเกรงว่าฝ่ายรัฐบาลจะเกณฑ์ชาวบ้านมาก่อกวนจนเกิดการปะทะและเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีก” นายศรีเมือง กล่าว
ด้าน ดร.กฤษเทพ อุปจันท์แพงวงศ์ ประธานชมรมทหารผ่านศึกจังหวัดบุรีรัมย์ หนึ่งในแกนนำจัดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯบุรีรัมย์ บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ซึ่งถูกกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ปิดล้อมเวทีและเหิดเหตุปะทะกันจนต้องยุติเวทีการปราศรัยทั้งหมด กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเวทีดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้สร้างความวุ่นวายแตกแยกตามที่ถูกกล่าวหา ไม่น่าจะใช้กฎหมู่ป่าเถื่อนมาทำลายล้างฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองเช่นนี้ เนื่องจากหากการปราศรัยพาดพิงผู้ใดก็สามารถฟ้องร้อง หรือแจ้งความดำเนินคดี
“อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่รับผิดชอบให้เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากกว่านี้ เพราะประชาชนมีสิทธิ์แสดงความเห็นตามรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมกัน” ดร.ดร.กฤษเทพ กล่าว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.00 น.คืนที่ผ่านมา (12 ก.ค. ) หลังจากกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ โดยมีประชาชนชาวบุรีรัมย์เริ่มทยอยมารับฟังประมาณ 30 คน ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มเครือข่ายชาวบุรีรัมย์ไม่เอาพันธมิตรฯ กว่า 1,000 คน ที่ทราบข่าวการเปิดเวทีปราศรัยของเครือข่ายพันธมิตรฯ ได้เดินทางด้วยรถปิกอัพมาเปิดเวทีปราศรัยบนรถบรรทุก 6 ล้อ ใกล้กับเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมทั้งได้มีการตะโกนขับไล่ให้หยุดการปราศรัย ด้วยคำหยาบคายอยู่ตลอดเวลา
โดยระหว่างที่ นายพิลึก แสงใส ทนายความ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ เป็นคนแรก ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อ นายอับดุลเลาะห์ นพสุวรรณวงศ์ หนึ่งในเครือข่ายพันธมิตรฯ ไม่พอใจกลุ่มต่อต้านจึงเข้าไปทุบบริเวณลำโพงขยายเสียงของกลุ่มต่อต้านที่ได้เปิดเสียงดังรบกวนเวทีพันธมิตรฯ อย่างหนักตลอดเวลา ทำให้กลุ่มเครือข่ายชาวบุรีรัมย์ไม่เอาพันธมิตรฯ กว่า 50 คน ได้กรูกันเข้ามารุมทำร้ายร่างกายนายอับดุลเลาะห์จนได้รับบาดเจ็บ ทั้งสองฝ่ายจึงเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ทำให้เวทีปราศรัยของเครือข่ายพันธมิตรฯ ต้องหยุดการปราศรัยและรื้อเวทีทันที ส่งผลให้แกนนำเครือข่ายพันธมิตรฯ ต่างๆ รวมถึงนายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ และ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเดินทางมาปราศรัยในเวทีพันธมิตรฯ ในครั้งนี้ก็ต้องยกเลิกการขึ้นปราศรัยไปโดยปริยาย
จากนั้นกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ กว่า 1,000 คน ได้เคลื่อนขบวนไปที่ลานวัฒนธรรมเทศบาลเมือง ที่เครือข่ายพันธมิตรฯ บุรีรัมย์ นำโดยกลุ่มสมัชชาประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ จากกรุงเทพฯ ผ่านจอโปรเจ็กเตอร์ขนาดใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียวเอเอสทีวี (ASTV) ซึ่งห่างออกไปจากจุดเดิมประมาณ 500 เมตร พร้อมปิดล้อมตะโกนด่าทออย่างฮึกเหิม เพื่อให้หยุดการถ่ายทอดสดและรื้อสิ่งของออกจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งขู่ว่าหากไม่เช่นนั้นกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลต่อต้านพันธมิตรฯ จะเข้าไปรื้อเอง ทำให้เกิดการโต้เถียงกันวุ่นวาย
จากนั้น พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้เข้าไปไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่าย โดยกลุ่มม็อบต่อต้านพันธมิตรฯ ยุติ เพราะเกรงจะเกิดการปะทะกันจนเกิดความรุนแรงจนบานปลาย เหตุการณ์จึงได้ยุติลงในเวลาประมาณ 23.00 น.