นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวถึง ความคืบหน้าในการหาสถานที่สร้างรัฐสภาใหม่ว่า พื้นที่ที่ตั้งอยู่ปัจจุบันเป็นเขตพระราชฐานสมัยที่นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานรัฐสภา ได้กราบบังคมทูลถวายคืนแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องหาที่อยู่ใหม่ จึงถือว่า ส.ส.ไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว ดังนั้นจึงต้องหาที่ใหม่ ซึ่งในการประชุมร่วมกันวันที่ 24 ก.ค.นี้คงยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเหตุการณ์บ้านเมืองแบบนี้ไม่รู้จะได้ประชุมหรือเปล่า แต่ไม่ได้ห่วงเรื่องการยุบสภา
ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสภาฯไปดูที่ก่อสร้างที่ไหนก็ถูกต้านจนตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ส่วนตัวอยากให้สภาฯมีเอกลักษณ์เป็นศักดิ์ศรี แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
นายชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ศึกษาไว้ที่คลังแสง กรมสรรพาวุธ จังหวัดนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว โดยทางสภาฯได้เสนอไปยังรัฐบาลแล้ว แต่ยังไม่มีการนำเข้า ครม. แต่ปัญหาคือ สถานที่ราชการควรอยู่ในเมืองหลวง จึงต้องดูว่าจะอยู่ตรงไหน ซึ่งเดิมทางสถาบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ศึกษาพื้นที่ ย่านเกียกกาย โดยวิจัยว่าจะเป็นทัศนียภาพที่เหมาะสม แต่ปัญหาคือผู้ที่อยู่เดิม ไม่ต้องการย้ายออก จะใช้กฎหมายก็ไม่ได้ เพราะประชาธิปไตยเบ่งบานเต็มที่ ถ้าประชาชนอยากให้สภาฯอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีก็ควรจะลดทิฐิและเสียสละที่ของหลวงควรให้ หลวงสร้างสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะรัฐสภาเกือบทุกประเทศอยู่ในเมืองหลวงทั้งนั้น
ไม่มีประชาธิปไตยประเทศไหนเบ่งบานเท่าประเทศไทย อยากจะด่าใครก็ได้ อย่างที่มีการเอาตัวเหี้ยมาใส่ในเว็บไซด์เขาก็ยังมีสิทธ์ เราเป็นผู้แทนฯ ทำได้อย่างเดียวคือเชิญตามสบาย ผมไม่ได้ขัดข้อง จะเอารูปผมไปเขียนอย่างไร ผ่าไส้พุงก็ทำได้ตามอัธยาศัย ผมก็ไมได้ให้หน่วยงานตรวจสอบหาผู้ทำในเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ได้มาด่าเราต่อหน้า คงจะกลัวกำปั้นผม แต่ที่พูดไม่ใช่เพราะโกรธเพียงแต่ว่า ถ้าเขาโกรธอะไรก็ว่าผมได้ แต่เขาอยากจะทำลาย คนเราเกิดมาในโลกนี้ไม่อยากให้ใคร ได้ดีกว่าใคร เป็นเรื่องธรรมดา แต่สภาฯ 283 คนเขาให้ผมมานั่งตรงนี้ผมจะระลึกบุญคุณเขาไว้
ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสภาฯไปดูที่ก่อสร้างที่ไหนก็ถูกต้านจนตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ส่วนตัวอยากให้สภาฯมีเอกลักษณ์เป็นศักดิ์ศรี แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
นายชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ศึกษาไว้ที่คลังแสง กรมสรรพาวุธ จังหวัดนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว โดยทางสภาฯได้เสนอไปยังรัฐบาลแล้ว แต่ยังไม่มีการนำเข้า ครม. แต่ปัญหาคือ สถานที่ราชการควรอยู่ในเมืองหลวง จึงต้องดูว่าจะอยู่ตรงไหน ซึ่งเดิมทางสถาบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ศึกษาพื้นที่ ย่านเกียกกาย โดยวิจัยว่าจะเป็นทัศนียภาพที่เหมาะสม แต่ปัญหาคือผู้ที่อยู่เดิม ไม่ต้องการย้ายออก จะใช้กฎหมายก็ไม่ได้ เพราะประชาธิปไตยเบ่งบานเต็มที่ ถ้าประชาชนอยากให้สภาฯอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีก็ควรจะลดทิฐิและเสียสละที่ของหลวงควรให้ หลวงสร้างสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะรัฐสภาเกือบทุกประเทศอยู่ในเมืองหลวงทั้งนั้น
ไม่มีประชาธิปไตยประเทศไหนเบ่งบานเท่าประเทศไทย อยากจะด่าใครก็ได้ อย่างที่มีการเอาตัวเหี้ยมาใส่ในเว็บไซด์เขาก็ยังมีสิทธ์ เราเป็นผู้แทนฯ ทำได้อย่างเดียวคือเชิญตามสบาย ผมไม่ได้ขัดข้อง จะเอารูปผมไปเขียนอย่างไร ผ่าไส้พุงก็ทำได้ตามอัธยาศัย ผมก็ไมได้ให้หน่วยงานตรวจสอบหาผู้ทำในเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ได้มาด่าเราต่อหน้า คงจะกลัวกำปั้นผม แต่ที่พูดไม่ใช่เพราะโกรธเพียงแต่ว่า ถ้าเขาโกรธอะไรก็ว่าผมได้ แต่เขาอยากจะทำลาย คนเราเกิดมาในโลกนี้ไม่อยากให้ใคร ได้ดีกว่าใคร เป็นเรื่องธรรมดา แต่สภาฯ 283 คนเขาให้ผมมานั่งตรงนี้ผมจะระลึกบุญคุณเขาไว้