ผู้จัดการรายวัน-กรมทางหลวง เผยวิกฤติราคาน้ำมันทำงบก่อสร้างถนนสูงขึ้น 30 % และต้นทุนก่อสร้างสะพานซึ่งมีเหล็กเป็นวัตถุดิบสูงขึ้น 50 % เตรียมปรับแผนรองรับการบริหารงบปี 2552 คาดมูลค่าโครงการสูงขึ้นอีก 38%
นายนิกร บุญศรี อธิบดี กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากราคานำมันและวัสดุที่ปรับสูงได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างโครงการถนนทั่วไป เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 % ซึ่ง งบประมาณปี 2552 ซึ่งกรมทางหลวงได้รับจัดสรร สำหรับงานก่อสร้างโครงการ กว่า 40,000. ล้านบาท นั้นจะไม่เพียงพอต่อการดำเนินโครงการ ตามแผนที่วางไว้ โดยกรมทางหลวงจะปรับแผนการดำเนินการ เช่น ชะลอโครงการที่มีความจำเป็นน้อยกว่าโครงการอื่นๆออกไปเพื่อแก้ปัญหา
โดยในปี 2552 มีโครงการใหม่ ที่จะได้รับผลกระทบ รวม 45 โครงการ วงเงิน 21,564 ล้านบาท และต้องของบประมาณเพิ่มเติม 8,264 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 38% มูลค่าโครงการสูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้งบประมาณเพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในงบประมาณปี2551 ที่ได้รับผลกระทบราคาน้ำมัน และราคาวัสดุ ทำให้ต้นทุนโครงการก่อสร้างต่างๆ สูงขึ้น 3,151 ล้านบาท หรือเพิ่ม 33 % โดยจากมติครม.ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ พบว่า มีผู้รับจ้าง ไม่ใช้สิทธิ์ ตามมติครม.ยินยอมดำเนินการก่อสร้างงานต่อรวม 7 รายวงเงิน 1,906 ล้านบาทส่วนผู้รับจ้างที่ประกวดราคาไปแล้ว ใช้สิทธิ์ ไม่เซ็นต์สัญญา รวม 7 ราย วงเงิน 2,299 ล้านบาท ซึ่งจะทำการประกวดราคาใหม่ รวมทั้งขออนุมัติเงินก่อสร้างเพิ่มอีก 1,251 ล้านบาทและโครงการที่ยังไม่ได้ทำการประกวดราคา ซึ่งต้องปรับราคากลาง มี 20 โครงวงเงิน 7,182 ล้านบาท
นายนิกร บุญศรี อธิบดี กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากราคานำมันและวัสดุที่ปรับสูงได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างโครงการถนนทั่วไป เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 % ซึ่ง งบประมาณปี 2552 ซึ่งกรมทางหลวงได้รับจัดสรร สำหรับงานก่อสร้างโครงการ กว่า 40,000. ล้านบาท นั้นจะไม่เพียงพอต่อการดำเนินโครงการ ตามแผนที่วางไว้ โดยกรมทางหลวงจะปรับแผนการดำเนินการ เช่น ชะลอโครงการที่มีความจำเป็นน้อยกว่าโครงการอื่นๆออกไปเพื่อแก้ปัญหา
โดยในปี 2552 มีโครงการใหม่ ที่จะได้รับผลกระทบ รวม 45 โครงการ วงเงิน 21,564 ล้านบาท และต้องของบประมาณเพิ่มเติม 8,264 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 38% มูลค่าโครงการสูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้งบประมาณเพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในงบประมาณปี2551 ที่ได้รับผลกระทบราคาน้ำมัน และราคาวัสดุ ทำให้ต้นทุนโครงการก่อสร้างต่างๆ สูงขึ้น 3,151 ล้านบาท หรือเพิ่ม 33 % โดยจากมติครม.ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ พบว่า มีผู้รับจ้าง ไม่ใช้สิทธิ์ ตามมติครม.ยินยอมดำเนินการก่อสร้างงานต่อรวม 7 รายวงเงิน 1,906 ล้านบาทส่วนผู้รับจ้างที่ประกวดราคาไปแล้ว ใช้สิทธิ์ ไม่เซ็นต์สัญญา รวม 7 ราย วงเงิน 2,299 ล้านบาท ซึ่งจะทำการประกวดราคาใหม่ รวมทั้งขออนุมัติเงินก่อสร้างเพิ่มอีก 1,251 ล้านบาทและโครงการที่ยังไม่ได้ทำการประกวดราคา ซึ่งต้องปรับราคากลาง มี 20 โครงวงเงิน 7,182 ล้านบาท
