รอยเตอร์ – วาโคเวีย คอร์ป ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐฯ ประกาศแต่งตั้ง โรเบิร์ต สตีล เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลัง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าจะประสบปัญหาขาดทุน 2,600 ถึง 2,800 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 จากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์และการถูกดำเนินคดี ซึ่งเป็นยอดการขาดทุนสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สตีล ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 56 ปี ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการการคลังในประเทศมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2006 เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วย เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แก้ไขวิกฤตการณ์ธุรกิจบ้านพักอาศัยและภาวะขาดสภาพคล่องของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ
วิกฤตการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อวาโคเวียอย่างรุนแรง การเข้าซื้อกิจการของ โกลเดน เวสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในแคลิฟอร์เนีย มูลค่า 24,200 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2006 เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วาโคเวียประสบปัญหาขาดทุนเป็นมูลค่ามหาศาลในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ เนื่องจากโกลเดน เวสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ป มีหนี้เสียจากการปล่อยสินเชื่อบ้านเป็นมูลค่าถึง 121,000 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานทั้งในภาครัฐและเอกชนของสตีล จะเป็นคุณูปการอย่างมหาศาลต่อวาโคเวีย โดยก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งในกระทรวงการคลัง สตีลเคยทำงานกับ โกลด์แมนแซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งมีพอลสันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เขาลาออกจากโกลด์แมนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ขณะดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ
วาโคเวียแถลงว่า ตัวเลขการขาดทุนในไตรมาสที่ 2 จะมีอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.23 ถึง 1.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น ไม่รวมการตัดหนี้เสียที่ไม่ส่งผลกระทบต่อทุนจดทะเบียนของบริษัท ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า วาโคเวียจะมีกำไรประมาณ 19 เซนต์ต่อหุ้น
แถลงการณ์ของวาโคเวียระบุว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 นี้ได้รวมตัวเลขการตั้งสำรองหนี้สูญก่อนหักภาษีมูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์ไว้ด้วยแล้ว โดยในจำนวนนี้มียอดหนี้เสีย 3,300 ล้านดอลลาร์จากพอร์ตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของ โกลเดน เวสต์รวมอยู่ด้วย
การประกาศแต่งตั้งสตีล มีขึ้นหลังจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวาโคเวียว่างเว้นไปเป็นเวลา 5 สัปดาห์ เมื่อ เคน ธอมป์สัน ถูกปลดออกจากตำแหน่งในวันที่ 2 มิถุนายน ขณะที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อีกหลายรายก็มีเปลี่ยนตัวซีอีโอกันไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้เช่นกัน อาทิ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์, เมอร์ริลลินช์ แอนด์ โค, และ ยูบีเอส เอจี
“เป็นที่ชัดเจนว่า มีปัญหาท้าทายหลายอย่างรออยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน แต่ผมก็ยังมีความมั่นใจว่าองคาพยพส่วนใหญ่ของบริษัทยังคงทำงานได้เป็นอย่างดี” สตีลกล่าวในตอนหนึ่งของแถลงการณ์เข้ารับตำแหน่งใหม่
การแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ของวาโคเวียครั้งนี้ อาจทำให้ข่าวลือเรื่องการขายกิจการธนาคารซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองชาร์ลอตต์ มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา แห่งนี้ เบาบางลง ขณะที่ แลนตี สมิธ ซึ่งเป็นผู้นำในการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่แทนธอมป์สัน จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของวาโคเวียต่อไป แถลงการณ์ของเขาซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวันพุธ(9)นี้แสดงความเชื่อมั่นว่า สตีลจะสามารถนำพาวาโคเวียผ่านภาวะวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดีในที่สุด
“อย่างน้อยที่สุดขณะนี้ตลาดก็ได้รับทราบแล้วว่าวาโคเวียจะมียอดขาดทุนมากน้อยเพียงใด และการได้รับรู้ตัวเลขดังกล่าว จะดีกว่าไม่รู้อะไรเลยเป็นอย่างมากทีเดียว” เจมส์ เอลล์แมน ประธานเฮดจ์ ฟันด์ ชื่อ ซีคลิฟฟ์ แคปปิตอล ในซานฟรานซิสโกกล่าว และว่า “ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อราคาหุ้นก็เป็นได้ เพราะโดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีการแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ คณะกรรมการบริษัทก็อาจต้องถูกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย”
สตีล ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 56 ปี ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการการคลังในประเทศมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2006 เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วย เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แก้ไขวิกฤตการณ์ธุรกิจบ้านพักอาศัยและภาวะขาดสภาพคล่องของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ
วิกฤตการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อวาโคเวียอย่างรุนแรง การเข้าซื้อกิจการของ โกลเดน เวสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในแคลิฟอร์เนีย มูลค่า 24,200 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2006 เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วาโคเวียประสบปัญหาขาดทุนเป็นมูลค่ามหาศาลในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ เนื่องจากโกลเดน เวสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ป มีหนี้เสียจากการปล่อยสินเชื่อบ้านเป็นมูลค่าถึง 121,000 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานทั้งในภาครัฐและเอกชนของสตีล จะเป็นคุณูปการอย่างมหาศาลต่อวาโคเวีย โดยก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งในกระทรวงการคลัง สตีลเคยทำงานกับ โกลด์แมนแซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งมีพอลสันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เขาลาออกจากโกลด์แมนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ขณะดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ
วาโคเวียแถลงว่า ตัวเลขการขาดทุนในไตรมาสที่ 2 จะมีอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.23 ถึง 1.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น ไม่รวมการตัดหนี้เสียที่ไม่ส่งผลกระทบต่อทุนจดทะเบียนของบริษัท ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า วาโคเวียจะมีกำไรประมาณ 19 เซนต์ต่อหุ้น
แถลงการณ์ของวาโคเวียระบุว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 นี้ได้รวมตัวเลขการตั้งสำรองหนี้สูญก่อนหักภาษีมูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์ไว้ด้วยแล้ว โดยในจำนวนนี้มียอดหนี้เสีย 3,300 ล้านดอลลาร์จากพอร์ตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของ โกลเดน เวสต์รวมอยู่ด้วย
การประกาศแต่งตั้งสตีล มีขึ้นหลังจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวาโคเวียว่างเว้นไปเป็นเวลา 5 สัปดาห์ เมื่อ เคน ธอมป์สัน ถูกปลดออกจากตำแหน่งในวันที่ 2 มิถุนายน ขณะที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อีกหลายรายก็มีเปลี่ยนตัวซีอีโอกันไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้เช่นกัน อาทิ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์, เมอร์ริลลินช์ แอนด์ โค, และ ยูบีเอส เอจี
“เป็นที่ชัดเจนว่า มีปัญหาท้าทายหลายอย่างรออยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน แต่ผมก็ยังมีความมั่นใจว่าองคาพยพส่วนใหญ่ของบริษัทยังคงทำงานได้เป็นอย่างดี” สตีลกล่าวในตอนหนึ่งของแถลงการณ์เข้ารับตำแหน่งใหม่
การแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ของวาโคเวียครั้งนี้ อาจทำให้ข่าวลือเรื่องการขายกิจการธนาคารซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองชาร์ลอตต์ มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา แห่งนี้ เบาบางลง ขณะที่ แลนตี สมิธ ซึ่งเป็นผู้นำในการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่แทนธอมป์สัน จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของวาโคเวียต่อไป แถลงการณ์ของเขาซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวันพุธ(9)นี้แสดงความเชื่อมั่นว่า สตีลจะสามารถนำพาวาโคเวียผ่านภาวะวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดีในที่สุด
“อย่างน้อยที่สุดขณะนี้ตลาดก็ได้รับทราบแล้วว่าวาโคเวียจะมียอดขาดทุนมากน้อยเพียงใด และการได้รับรู้ตัวเลขดังกล่าว จะดีกว่าไม่รู้อะไรเลยเป็นอย่างมากทีเดียว” เจมส์ เอลล์แมน ประธานเฮดจ์ ฟันด์ ชื่อ ซีคลิฟฟ์ แคปปิตอล ในซานฟรานซิสโกกล่าว และว่า “ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อราคาหุ้นก็เป็นได้ เพราะโดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีการแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ คณะกรรมการบริษัทก็อาจต้องถูกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย”
