ผู้จัดการรายวัน – การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เฉกเช่นธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่นำระบบไอทีเข้ามาเสริม และทดแทนระบบเดิม หรือเรียกว่า ระบบงานหลักของธนาคาร (Core bank System) เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ธอส. เริ่มนำระบบดังกล่าวมาใช้ ส่วนระบบเดิมได้หมดสัญญาไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่การนำระบบใหม่มาใช้เกือบจะทันทีและเป็นระบบที่ไม่สอดคล้องกับระบบเก่าทำให้เกิดปัญหาตามมา
โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อสิ้นปี 2550 และต้นปี 2551 ปัญหาใหญ่เกิดกับลูกค้าสวัสดิการ ที่บริษัทต้นสังกัดจะทำการนำส่งเช็คเพื่อชำระหนี้แทนลูกจ้าง เพื่อจัดส่งให้แก่ ธอส. ในแต่ละเดือน แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารไม่สามารถบันทึกข้อมูลการชำระหนี้ของลูกหนี้เหล่านี้ได้ทันเวลา ต้องไปบันทึกข้อมูลในเดือนมกราคม 51 ไปแล้ว 3-4 วัน เหตุเพราะเป็นวันหยุดในช่วงปีใหม่ ขณะที่ระบบใหม่ก็เริ่มทำงานนับหนึ่งในทันทีแบบวันต่อวัน ไม่ใช่แบบเดือนอย่างเดิม ส่งผลให้ลูกหนี้ ธอส.ที่จ่ายเงินค่างวดตรงเวลา แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารยังไม่บันทึกข้อมูลลงไปในระบบต้องมีหนี้สินเพิ่มจากการถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
ที่ผ่านมา ธอส.ได้พยายามแก้ไขปัญหาทีเกิดขึ้นให้แก่ลูกค้าเหล่านั้น ในรายที่คิดดอกเบี้ยเกิน ธอส.ได้คืนเงินให้ และปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ข้อผิดพลาดดังกล่าวไม่ได้เกิดจากระบบ แต่เกิดจากตัวพนักงานทำงานไม่ทันเพราะช่วงสิ้นปีจะมีลูกค้าจำนวนมาก อีกทั้งพนักงาน ธอส. เองมีจำนวนน้อย และระบบเดิมสามารถบันทึกข้อมูลย้อนหลังได้ แต่ระบบใหม่ไม่สามารถทำได้จึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
สำหรับระบบซอฟท์แวร์ที่ ธอส. นำมาใช้เรียกว่า ฟินาเคิล (Finacle) ของบริษัท Infosys Technology จำกัด ของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ระดับแนวหน้าของโลก มีพนักงานกว่า 91,000 คน มีสำนักงานกว่า 40 แห่งทั่วโลก และตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้กว่า 4,180 ล้านเหรียญสหรัฐ
"ฟิเนเคิล" (Finacle) ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้าน banking ถือเป็นโซลูชั่น สำหรับธุรกิจธนาคารที่ครบวงจร ยืดหยุ่น และสามารถปรับขยายได้หลากหลาย ปัจจุบันบริษัท อินโฟร์ซิสได้ให้บริการระบบนี้กับธนาคาร และสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ กว่า 2,000 แห่ง ใน 60 ประเทศทั่วโลก เช่น ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร สถาบันการเงิน เครดิต สวิส อามิเรตส์ แบงก์ ธนาคาร ICIC ของอินเดีย เป็นต้น แต่ก็ไม่เคยมีลูกค้ารายใดที่มีปัญหาเหมือนกับกรณีของ ธอส. แม้ว่าจะให้บริการกับสถาบันการเงินที่ใหญ่ระดับใด และประสบผลสำเร็จมากแค่ไหน แต่อินโฟร์ซิสก็ต้องมาตกม้าตาย กับกรณีของ ธอส. ที่เป็นสถาบันการเงินทางด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยนั่นเอง
ผู้บริหารระดับสูงของ Infosys กล่าวว่า นับจากติดตั้งระบบซอฟแวร์ให้แก่สถาบันการเงินมาทั่วโลก มักจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อย และทำการแก้ไขก็เสร็จ แต่ ธอส. ถือเป็นแห่งเดียวที่มีปัญหามากที่สุด โดยผู้บริหารของ ธอส. คาดว่าน่าจะเกิดจากระบบเดิม ธอส. ได้ทำการปรับใช้งานในการให้บริการไปมาก ทำให้เมื่อนำระบบใหม่มาใช้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทาง infosys ได้ให้คำมั่นสัญญา ว่าจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้จบภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า และนำ ธอส. ก้าวขึ้นสู่ผู้นำในการให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และพร้อมที่จะเพิ่มระบบต่างๆให้ทันสมัยและให้บริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้นหาก ธอส. ต้องการ ส่วนการซื้อระบบใหม่เพิ่มเดิมนั้น ธอส. ต้องจ่ายเงินค่าระบบเพิ่ม จากระบบฟินาเคิลที่ซื้อมาในราคา 600 ล้านบาท
โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อสิ้นปี 2550 และต้นปี 2551 ปัญหาใหญ่เกิดกับลูกค้าสวัสดิการ ที่บริษัทต้นสังกัดจะทำการนำส่งเช็คเพื่อชำระหนี้แทนลูกจ้าง เพื่อจัดส่งให้แก่ ธอส. ในแต่ละเดือน แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารไม่สามารถบันทึกข้อมูลการชำระหนี้ของลูกหนี้เหล่านี้ได้ทันเวลา ต้องไปบันทึกข้อมูลในเดือนมกราคม 51 ไปแล้ว 3-4 วัน เหตุเพราะเป็นวันหยุดในช่วงปีใหม่ ขณะที่ระบบใหม่ก็เริ่มทำงานนับหนึ่งในทันทีแบบวันต่อวัน ไม่ใช่แบบเดือนอย่างเดิม ส่งผลให้ลูกหนี้ ธอส.ที่จ่ายเงินค่างวดตรงเวลา แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารยังไม่บันทึกข้อมูลลงไปในระบบต้องมีหนี้สินเพิ่มจากการถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
ที่ผ่านมา ธอส.ได้พยายามแก้ไขปัญหาทีเกิดขึ้นให้แก่ลูกค้าเหล่านั้น ในรายที่คิดดอกเบี้ยเกิน ธอส.ได้คืนเงินให้ และปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ข้อผิดพลาดดังกล่าวไม่ได้เกิดจากระบบ แต่เกิดจากตัวพนักงานทำงานไม่ทันเพราะช่วงสิ้นปีจะมีลูกค้าจำนวนมาก อีกทั้งพนักงาน ธอส. เองมีจำนวนน้อย และระบบเดิมสามารถบันทึกข้อมูลย้อนหลังได้ แต่ระบบใหม่ไม่สามารถทำได้จึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
สำหรับระบบซอฟท์แวร์ที่ ธอส. นำมาใช้เรียกว่า ฟินาเคิล (Finacle) ของบริษัท Infosys Technology จำกัด ของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ระดับแนวหน้าของโลก มีพนักงานกว่า 91,000 คน มีสำนักงานกว่า 40 แห่งทั่วโลก และตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้กว่า 4,180 ล้านเหรียญสหรัฐ
"ฟิเนเคิล" (Finacle) ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้าน banking ถือเป็นโซลูชั่น สำหรับธุรกิจธนาคารที่ครบวงจร ยืดหยุ่น และสามารถปรับขยายได้หลากหลาย ปัจจุบันบริษัท อินโฟร์ซิสได้ให้บริการระบบนี้กับธนาคาร และสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ กว่า 2,000 แห่ง ใน 60 ประเทศทั่วโลก เช่น ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร สถาบันการเงิน เครดิต สวิส อามิเรตส์ แบงก์ ธนาคาร ICIC ของอินเดีย เป็นต้น แต่ก็ไม่เคยมีลูกค้ารายใดที่มีปัญหาเหมือนกับกรณีของ ธอส. แม้ว่าจะให้บริการกับสถาบันการเงินที่ใหญ่ระดับใด และประสบผลสำเร็จมากแค่ไหน แต่อินโฟร์ซิสก็ต้องมาตกม้าตาย กับกรณีของ ธอส. ที่เป็นสถาบันการเงินทางด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยนั่นเอง
ผู้บริหารระดับสูงของ Infosys กล่าวว่า นับจากติดตั้งระบบซอฟแวร์ให้แก่สถาบันการเงินมาทั่วโลก มักจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อย และทำการแก้ไขก็เสร็จ แต่ ธอส. ถือเป็นแห่งเดียวที่มีปัญหามากที่สุด โดยผู้บริหารของ ธอส. คาดว่าน่าจะเกิดจากระบบเดิม ธอส. ได้ทำการปรับใช้งานในการให้บริการไปมาก ทำให้เมื่อนำระบบใหม่มาใช้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทาง infosys ได้ให้คำมั่นสัญญา ว่าจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้จบภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า และนำ ธอส. ก้าวขึ้นสู่ผู้นำในการให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และพร้อมที่จะเพิ่มระบบต่างๆให้ทันสมัยและให้บริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้นหาก ธอส. ต้องการ ส่วนการซื้อระบบใหม่เพิ่มเดิมนั้น ธอส. ต้องจ่ายเงินค่าระบบเพิ่ม จากระบบฟินาเคิลที่ซื้อมาในราคา 600 ล้านบาท
