ศูนย์ข่าวขอนแก่น- อบจ.ขอนแก่นโอ่จัดงบปีละไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาทส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชน ดำเนินการ 3 โครงการหนัก ทั้งอบรมให้มีแก่นชีวิตมีจริยธรรม –ลดภาวะโลกร้อน และจัดติวเข้มเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยฟรี พร้อมกับขายแนวคิดเชิญชวนบรรดา ส.จ.ลงขันตั้งกองทุนช่วยเด็กนักเรียน นักศึกษาเรียนดีแต่ยากจน
นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)ขอนแก่น กล่าวว่า อบจ.ขอนแก่น ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก แต่ละปี จะจัดงบประมาณเพื่อให้การสนับสนุนประมาณ 7 – 10 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาทุกปี โดยโครงการที่ให้การสนับสนุนที่สำคัญในขณะนี้ มี 3 โครงการที่น่าสนใจ คือ โครงการเสริมสร้างชีวิตเด็กขอนแก่นให้มีแก่นชีวิต โครงการธนาคารขยะและการลดภาวะโลกร้อน และโครงการสานฝันสู่มหาวิทยาลัย
สำหรับโครงการเสริมสร้างชีวิตเด็กขอนแก่นให้มีแก่นชีวิต ได้เน้นการอบรมเด็กที่เป็นแกนนำและเด็กกลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาทางสังคม โดยมีเป้าหมายในเด็กทั้งหมด 4,000 คน ใน 26 อำเภอของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นลักษณะการจัดค่ายอบรมแบ่งเป็น 20 รุ่นๆละ 200 คน ซึ่งขณะนี้จัดอบรมไปแล้วทั้งหมด 17 รุ่น เด็กที่ผ่านการอบรมจำนวนมากมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น และหลายคนเป็นแกนนำในการพัฒนาชุมชน ทั้งมีหลายคนประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงาน
“ โครงการเสริมสร้างชีวิตเด็กขอนแก่นให้มีแก่นชีวิต ได้เน้นให้เด็กมีระเบียบแบบแผนของชีวิต เติมเต็มทัศนคติ ความรู้ เป็นคนดี มีจริยธรรมและคุณธรรมต่อสังคม รู้จักการประหยัด ตั้งใจเรียน และช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง โดยเรามีวิทยากรที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ รวมทั้งการกีฬาและนันทนาการ เป็นการเข้าค่าย 4 วัน 3 คืน หลังจากนั้นเรายังเข้าไปติดตามดูแลในพื้นที่ รวมทั้งเด็กมีการสร้างเครือข่ายติดต่อประสานงาน เพื่อช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันอีกด้วย ”นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวและว่า
ในส่วนของโครงการธนาคารขยะและการลดภาวะโลกร้อน เป็นโครงการที่มุ่งเข้าดำเนินการในโรงเรียนโดยตรง มีการตั้งเป้าหมายให้โรงเรียนเข้าร่วมโครงการปีละ 50 โรงเรียน จนถึงปัจจุบันนี้ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 500 โรงเรียน แต่ละโรงเรียนจะมีธนาคารขยะรีไซเคิล ซึ่งนอกจากช่วยปลูกฝังจิตสำนึกแล้ว ยังทำให้นักเรียนมีรายได้และลดรายจ่ายให้ผู้ปกครอง มีการจัดอบรมและจัดตั้งชมรมอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การจัดรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
การจัดรณรงค์ปลูกต้นไม้เป็นประจำทุกปี และรณรงค์ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ขณะเดียวกัน ก็มีการจัดรณรงค์ภายนอกโรงเรียน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจและเกิดความร่วมมือจากประชาชน ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนอีกทางหนึ่ง
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า อีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจ คือโครงการสานฝันสู่มหาวิทยาลัย ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปี โดยการจัดการเรียนการสอนพิเศษ หรือการติวเข้มให้แก่เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์ในแต่ละสาขาวิชามาช่วยสอนพิเศษให้ ซึ่งแต่ละปี จะมีนักเรียนใน จ.ขอนแก่น สนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 1,000 – 2,000 คน และมีนักเรียนที่สามารถเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในแต่ละปีมากกว่าร้อยละ 70 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
โครงการดังกล่าวเป็นที่พึงพอใจทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง เพราะจัดอบรมให้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินค่าติวเตอร์ และเด็กจำนวนไม่น้อยก็สามารถสอบเรียนต่อได้สำเร็จ โดยหลังจากนี้ จะมีการชักชวนสมาชิก อบจ.ขอนแก่น ทั้ง 42 คน ลงขันตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กในโครงการสานฝันสู่มหาวิทยาลัย เพราะมีเด็กหลายคนที่ยากจน ถึงจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ก็ไม่มีเงิน
“ บางคนก็ส่งจดหมายหรือโทรศัพท์มาขอให้ผมช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าหอพัก และค่าหน่วยกิต แต่ อบจ.ขอนแก่น ไม่มีงบประมาณ ถ้าจัดตั้งกองทุนขึ้นได้ จะดีมาก คิดว่าสมาชิก อบจ.ขอนแก่น คงเต็มใจช่วยเหลือ”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)ขอนแก่น กล่าวว่า อบจ.ขอนแก่น ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก แต่ละปี จะจัดงบประมาณเพื่อให้การสนับสนุนประมาณ 7 – 10 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาทุกปี โดยโครงการที่ให้การสนับสนุนที่สำคัญในขณะนี้ มี 3 โครงการที่น่าสนใจ คือ โครงการเสริมสร้างชีวิตเด็กขอนแก่นให้มีแก่นชีวิต โครงการธนาคารขยะและการลดภาวะโลกร้อน และโครงการสานฝันสู่มหาวิทยาลัย
สำหรับโครงการเสริมสร้างชีวิตเด็กขอนแก่นให้มีแก่นชีวิต ได้เน้นการอบรมเด็กที่เป็นแกนนำและเด็กกลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาทางสังคม โดยมีเป้าหมายในเด็กทั้งหมด 4,000 คน ใน 26 อำเภอของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นลักษณะการจัดค่ายอบรมแบ่งเป็น 20 รุ่นๆละ 200 คน ซึ่งขณะนี้จัดอบรมไปแล้วทั้งหมด 17 รุ่น เด็กที่ผ่านการอบรมจำนวนมากมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น และหลายคนเป็นแกนนำในการพัฒนาชุมชน ทั้งมีหลายคนประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงาน
“ โครงการเสริมสร้างชีวิตเด็กขอนแก่นให้มีแก่นชีวิต ได้เน้นให้เด็กมีระเบียบแบบแผนของชีวิต เติมเต็มทัศนคติ ความรู้ เป็นคนดี มีจริยธรรมและคุณธรรมต่อสังคม รู้จักการประหยัด ตั้งใจเรียน และช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง โดยเรามีวิทยากรที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ รวมทั้งการกีฬาและนันทนาการ เป็นการเข้าค่าย 4 วัน 3 คืน หลังจากนั้นเรายังเข้าไปติดตามดูแลในพื้นที่ รวมทั้งเด็กมีการสร้างเครือข่ายติดต่อประสานงาน เพื่อช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันอีกด้วย ”นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวและว่า
ในส่วนของโครงการธนาคารขยะและการลดภาวะโลกร้อน เป็นโครงการที่มุ่งเข้าดำเนินการในโรงเรียนโดยตรง มีการตั้งเป้าหมายให้โรงเรียนเข้าร่วมโครงการปีละ 50 โรงเรียน จนถึงปัจจุบันนี้ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 500 โรงเรียน แต่ละโรงเรียนจะมีธนาคารขยะรีไซเคิล ซึ่งนอกจากช่วยปลูกฝังจิตสำนึกแล้ว ยังทำให้นักเรียนมีรายได้และลดรายจ่ายให้ผู้ปกครอง มีการจัดอบรมและจัดตั้งชมรมอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การจัดรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
การจัดรณรงค์ปลูกต้นไม้เป็นประจำทุกปี และรณรงค์ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ขณะเดียวกัน ก็มีการจัดรณรงค์ภายนอกโรงเรียน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจและเกิดความร่วมมือจากประชาชน ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนอีกทางหนึ่ง
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า อีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจ คือโครงการสานฝันสู่มหาวิทยาลัย ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปี โดยการจัดการเรียนการสอนพิเศษ หรือการติวเข้มให้แก่เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์ในแต่ละสาขาวิชามาช่วยสอนพิเศษให้ ซึ่งแต่ละปี จะมีนักเรียนใน จ.ขอนแก่น สนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 1,000 – 2,000 คน และมีนักเรียนที่สามารถเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในแต่ละปีมากกว่าร้อยละ 70 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
โครงการดังกล่าวเป็นที่พึงพอใจทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง เพราะจัดอบรมให้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินค่าติวเตอร์ และเด็กจำนวนไม่น้อยก็สามารถสอบเรียนต่อได้สำเร็จ โดยหลังจากนี้ จะมีการชักชวนสมาชิก อบจ.ขอนแก่น ทั้ง 42 คน ลงขันตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กในโครงการสานฝันสู่มหาวิทยาลัย เพราะมีเด็กหลายคนที่ยากจน ถึงจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ก็ไม่มีเงิน
“ บางคนก็ส่งจดหมายหรือโทรศัพท์มาขอให้ผมช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าหอพัก และค่าหน่วยกิต แต่ อบจ.ขอนแก่น ไม่มีงบประมาณ ถ้าจัดตั้งกองทุนขึ้นได้ จะดีมาก คิดว่าสมาชิก อบจ.ขอนแก่น คงเต็มใจช่วยเหลือ”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว