xs
xsm
sm
md
lg

ห้ามแม้วออกนอกประเทศศาลฏีกาสั่งยกคำร้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประตูนรกเริ่มเปิดอ้า ศาลฎีกานักการเมืองสั่งยกคำร้อง “ทักษิณ” ที่ขอเดินทางออกนอกประเทศ เผยขอไปจีน-อังกฤษ-ญี่ปุ่น ตั้งแต่ 27 มิ.ย.แต่ศาลชี้ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ขณะที่เลือกองค์คณะคดีเอ็กซิมแบงก์แล้วเสร็จ นัดสั่งคดี 30 ก.ค.เวลา 10.00 น. ส่วนคดีหวยบนดินนัดคำสั่งคดี 28 ก.ค.เวลา 14.00 น. ตำรวจหน้าแหกศาลสั่งยกคำร้องขอหมายจับ 3 ทนายแม้วคดีสินบน 2 ล้าน ชี้ชัดสามารถประสานราชทัณฑ์ขอเข้าแจ้งข้อหาหรือสอบปากคำในคุกได้ไม่จำเป็นต้องออกหมายจับ

วานนี้ (3 ก.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.51 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มอบหมายทนายความ ยื่นคำร้องต่อองค์คณะคดีทุจริตซื้อขายที่ดินฯเพื่อขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศ โดยระบุที่จะเดินทางไปประเทศจีนและอังกฤษ ซึ่งหลังจากเดินทางกลับมาแล้วจะขอเดินทางไปประเทศจีนและญี่ปุ่นอีก และหลังจากกลับมาก็จะขอเดินทางไปประเทศจีนอีกครั้ง โดยจะเริ่มเดินทางไปในวันที่ 27 มิ.ย.แต่ทั้งนี้องค์คณะฯ พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า ช่วงเวลาที่จำเลยจะขอเดินทางไปต่างประเทศตามคำร้องนั้นคดีอยู่ระหว่างศาลไต่สวนพยานหลักฐานและคำร้องยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงสั่งยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสั่งยกคำร้องดังกล่าว มีผลเฉพาะคำร้องลงวันที่ 24 มิ.ย.เท่านั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกประเทศ ก็สามารถยื่นคำร้องใหม่ต่อศาลได้ ซึ่งศาลจะอนุญาตหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจขององค์คณะฯ

แปลกยื่นก่อนตัดสิน 2 ล้าน 1 วัน

อย่างไรก็ตาม มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า คำสั่งยกคำร้องของศาลในครั้งนี้อาจจะเป็นการปราม พ.ต.ท.ทักษิณ ให้หยุดการกระทำในลักษณะที่ท้าท้ายอำนาจศาล เนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลยและศาลได้อนุญาตตามคำร้อง อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตุว่า การยื่นขอเดินทางไปต่างประเทศ ในวันที่ 24 มิ.ย.51 เป็นการยื่นก่อนวันที่ศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนาย และนายธนา ตันศิริ กรณีอุกอาจนำถุงขนมสอดไส้เงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการ ซี 5 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพียง 1 วัน คือวันที่ 25 มิ.ย.51

นอกจากนั้น จากผลแห่งคำพิพากษาของ ศาลฎีกาที่ได้ลงโทษสถานหนักจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้ดำเนินคดีฐานติดสินบนศาลทั้ง 3 คน คำพิพากษาของศาล ระบุชัดว่า เกี่ยวเนื่องจากคดีความที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา อีกทั้ง มีความเป็นไปได้ที่พนักงานสอบสวนจะเรียกตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มาทำการสอบปากคำ หากพบว่า มีความเกี่ยวโยงกับเงิน 2 ล้านบาท ศาลจึงมีคำสั่งยกคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศดังกล่าวเสีย

เลือกองค์คณะเอ็กซิมแบงก์

วันเดียวกันเวลา 09.30 น.ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อเลือกตั้งองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามประมวลกฎหมาอาญา มาตรา 157 ที่เห็นชอบให้เอ็กซิมแบงค์อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า เพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ จากบริษัทชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร

โดยการเลือกองค์คณะใช้วิธีลงคะแนนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 13 ซึ่งผลการลงคะแนนโดยที่ประชุมใหญ่ ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกมีรายชื่อเรียงตามลำดับคะแนนดังนี้

1.นายปัญญา สุทธิบดี รองประธานศาลฎีกา 2.นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา 3.นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา 4.นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา 5.นายวีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ประธานแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลฎีกา 6.นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา 7.นายพลรัตน์ ประทุมทาน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา 8.นายเสริมศักดิ์ ผลัดธุระ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ9.นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา

โดยองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 จะประชุมเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและพิจารณาคำฟ้องของ คตส.เพื่อมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่รับฟ้องต่อไป ซึ่งศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดีศาลฎีกาฯทั้งนี้ประธานศาลฎีกาจะปิดประกาศรายชื่อองค์คณะไว้ที่หน้าศาลฎีกาให้คู่ความทราบเพื่อยื่นคำร้องคัดค้านตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 4

หวยบนดินสั่งฟ้อง 28 ก.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้พิพากษาจำนวน 9 คนที่ได้รับเลือกเป็นองค์คณะในคดีเอ็กซิมแบงก์ดังกล่าวมีผู้พิพากษาจำนวน 6 คนที่มีรายชื่อเป็นองค์คณะคดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ด้วย คือ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา นายวีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ประธานแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลฎีกา นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา นายพลรัตน์ ประทุมทาน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา และนายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา

ขณะที่องค์คณะผู้พิพากษาคดีหวยบนดินซึ่งมี นายรุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์ รองประธานศาลฎีกาเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น.

ยกคำขอหมายจับ 3 ทนายชั่ว

เวลา 14.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง คำร้องหมายเลขดำที่ 1366/2551 ที่ พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ผู้ร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายจับ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก, น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นหลานคุณหญิงพจมาน ผู้ต้องหาคดีให้สินบนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 หลังจากที่ทั้งสามถูกองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริงเงินถุงขนม 2 ล้าน พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล จากกรณีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2551 นายธนา นำถุงกระดาษที่ภายในบรรจุเงินสด 2 ล้านบาท มอบให้ ม.ล.ฐิติพงศ์ ชมพูนุท นิติกร 5 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ทั้งสามถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง

ตำรวจหน้าแหกหนีสื่อ

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จากการไต่สวนพนักงานสอบสวนผู้ร้องแล้วได้ความว่า ผู้ต้องหาทั้งสามถูกพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล โดยถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งหากครบกำหนดถูกจำคุกแล้วผู้ต้องหาทั้งสามอาจถูกปล่อยตัวไปโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบ ผู้ร้องจึงขอให้ศาลออกหมายจับเพื่ออายัดผู้ต้องหาทั้งสามไว้

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ หากผู้ร้องต้องการจะทำการสอบสวน หรือแจ้งข้อหาก็สามารถกระทำได้ภายในเรือนจำ แต่ผู้ร้องไม่ได้แสดงระเบียบที่มีการขออายัดตัวผู้ต้องหาที่ขอจากทางเรือนจำ จึงให้ผู้ร้องประสานกับทางเรือนจำเพื่อทำการสอบสวน หรือแจ้งข้อกล่าวหาก่อนแล้วหากพบว่ามีปัญหา หรือความจำเป็นก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับในภายหลังได้ ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่รองฟังคำสั่งศาล พ.ต.ท.บรรยง มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไม่ยอมพูดคุย และยังแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดใส่ผู้สื่อข่าวที่พยายามเข้าไปขอสัมภาษณ์ โดยหลังจากศาลมีคำสั่งยกคำร้อง พ.ต.ท.บรรยง ได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

สัปดาห์หน้าเข้าอายัดตัวในคุก

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 เปิดเผยว่าศาลมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เข้าอายัดตัว นายพิชิฏ นายธนา และ น.ส.ศุภศรี และแจ้งข้อหาโดยตรงที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ตามลำดับ แต่หากมีข้อติดขัดไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ขอให้แจ้งต่อศาลอีกครั้ง

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า สัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนจะเข้าเรือนจำสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาให้สินบนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 และสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งคดีนี้ยึดตามสำนวนสอบสวนของศาลฎีกา ไม่สามารถบิดพลิ้วได้ ต้องตรงอย่างเดียว หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ศาลไปแล้วหลายปาก คดีมีความคืบหน้าไปแล้ว 50% ถ้าผู้ต้องหาร้องขอให้สอบพยานเพิ่มก็ต้องทำ แต่คดีนี้มีรายละเอียดมากต้องสอบพยาน หามูลเหตุจูงใจ ที่มา-ที่ไปของเงิน 2 ล้านบาท และความเชื่อมโยง จึงขอเวลาให้ตำรวจทำงานบ้าง แต่จะพยายามสรุปให้ได้ภายใน 30 วัน
กำลังโหลดความคิดเห็น