ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เลือก “2 รองประธานศาลฎีกา 5 ประธานแผนก และอีก 2 พ.อาวุโส” เป็นองค์คณะผู้พิพากษาคดีเอ็กซิมแบงก์ ที่ คตส.ฟ้องทักษิณ นัดฟังคำสั่ง 30 ก.ค.นี้ 10.00 น.ส่วนคดีหวยบนดิน องค์คณะนัดฟังคำสั่ง 28 ก.ค.นี้ บ่ายสอง
วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อเลือกตั้งองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่เห็นชอบให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า เพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ จากบริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร
โดยการเลือกองค์คณะใช้วิธีลงคะแนนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 13 ซึ่งผลการลงคะแนนโดยที่ประชุมใหญ่ ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกมีรายชื่อเรียงตามลำดับคะแนนดังนี้
1.นายปัญญา สุทธิบดี รองประธานศาลฎีกา 2.นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา 3.นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา 4.นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา 5.นายวีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ประธานแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลฎีกา 6.นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา 7.นายพลรัตน์ ประทุมทาน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา 8.นายเสริมศักดิ์ ผลัดธุระ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ 9.นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
โดยองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 จะประชุมเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและพิจารณาคำฟ้องของ คตส.เพื่อมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่รับฟ้องต่อไป ซึ่งศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่งในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.ณ ห้องพิจารณาคดีศาลฎีกาฯ ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกาฯจะปิดประกาศรายชื่อองค์คณะไว้ที่หน้าศาลฎีกาฯให้คู่ความทราบ เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้พิพากษาจำนวน 9 คนที่ได้รับเลือกเป็นองค์คณะในคดีเอ็กซิมแบงก์ดังกล่าวมีผู้พิพากษาจำนวน 6 คนที่มีรายชื่อเป็นองค์คณะคดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ด้วย คือ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกาฯ นายวีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ประธานแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลฎีกาฯ นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกาฯ นายพลรัตน์ ประทุมทาน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกาฯ และ นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาฯ
ขณะที่องค์คณะผู้พิพากษาคดีหวยบนดินซึ่งมี นายรุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์ รองประธานศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น.
วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อเลือกตั้งองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่เห็นชอบให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า เพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ จากบริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร
โดยการเลือกองค์คณะใช้วิธีลงคะแนนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 13 ซึ่งผลการลงคะแนนโดยที่ประชุมใหญ่ ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกมีรายชื่อเรียงตามลำดับคะแนนดังนี้
1.นายปัญญา สุทธิบดี รองประธานศาลฎีกา 2.นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา 3.นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา 4.นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา 5.นายวีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ประธานแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลฎีกา 6.นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา 7.นายพลรัตน์ ประทุมทาน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา 8.นายเสริมศักดิ์ ผลัดธุระ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ 9.นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
โดยองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 จะประชุมเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและพิจารณาคำฟ้องของ คตส.เพื่อมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่รับฟ้องต่อไป ซึ่งศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่งในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.ณ ห้องพิจารณาคดีศาลฎีกาฯ ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกาฯจะปิดประกาศรายชื่อองค์คณะไว้ที่หน้าศาลฎีกาฯให้คู่ความทราบ เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้พิพากษาจำนวน 9 คนที่ได้รับเลือกเป็นองค์คณะในคดีเอ็กซิมแบงก์ดังกล่าวมีผู้พิพากษาจำนวน 6 คนที่มีรายชื่อเป็นองค์คณะคดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ด้วย คือ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกาฯ นายวีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ประธานแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลฎีกาฯ นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกาฯ นายพลรัตน์ ประทุมทาน ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกาฯ และ นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาฯ
ขณะที่องค์คณะผู้พิพากษาคดีหวยบนดินซึ่งมี นายรุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์ รองประธานศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น.