ผู้จัดการรายวัน - “วีระศักดิ์” ยังฝัน ใช้วิกฤตเป็นโอกาสบูมท่องเที่ยวไทย วางนโยบายสร้างมูลค่าเพิ่มเสนอขายนักท่องเที่ยว พร้อมจับมือเซเว่นฯ เปิดจุดแจ้งเหตุร้าย เผยเตรียมของบกลางปี 400 ล้านบาท กระตุ้นตลาดครึ่งปีที่เหลือ ด้าน ททท.ชงแผน ปั้นรายได้ปี 2552 เฉียด 1.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศโต 5% ส่วนตลาดต่างประเทศโต 10%
วานนี้(30มิ.ย.51) ในการประชุมแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2552 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบนโยบายแก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ว่า ให้เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ และวางเป้าหมายที่รายได้เป็นหลัก โดยจะไม่เน้นเรื่องปริมาณของนักท่องเที่ยว ใช้วิกฤตปัญหาเศรษฐกิจโลก ,ราคาน้ำมันแพง ให้เป็นโอกาสทางการตลาด ด้วยการรักษาฐานตลาดเก่า มุ่งขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม ชูจุดขายคุณภาพและบริการที่คุ้มค่าเงินที่นักท่องเที่ยวต้องจ่ายไป เจาะตลาดระยะกลางและระยะใกล้ เพิ่มเติมในตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น โอเชเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ เพราะมั่นใจว่า จากวิกฤตราคาน้ำมันแพงนักท่องเที่ยวจะหันมาเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้เพิ่มขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย
เบื้องต้น ททท. ได้ตั้งเป้าหมาย ปี 2552 ประเทศไทยจะมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวราว 1.1 ล้านล้านบาทจากปีนี้ที่คาดว่าจะได้ราว 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 6 แสนล้านบาท และตลาดในประเทศ จะเพิ่มขึ้นอีก 5% จากเป้าหมายปีนี้ที่ตั้งไว้ 3.8 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปในการประชุมแผนการตลาด ททท.จะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค.51
“เป็นหน้าที่ของ ททท. ที่จะนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยในทุกรูปแบบที่เหมาะกับตลาดนั้นๆ แต่โจทย์ที่สำคัญ คือ ต้องให้นักท่องเที่ยวมีความสุขและความพอใจสูงสุด ซึ่งถือเป็นมิติของคุณค่าทางจิตใจ ความคุ้มค่าเงินและคุณภาพของสินค้า”
***จับมือเซเว่นฯเปิดจุดแจ้งเหตุ***
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางกระทรวงฯ ยังคงเดินหน้ามุ่ง 3 แนวทางหลักต่อเนื่องจากปี 2551 เพื่อตอกย้ำนโยบายปีแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุนไทย คือ สะอาด สะดวก และปลอดภัย และการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกตลาด
ล่าสุด ตำรวจท่องเที่ยวได้ร่วมกับร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ฝึกภาษาต่างประเทศให้แก่เจ้าหน้าที่ในร้านเซเว่นฯ เช่น ภาษา อังกฤษ รัสเซีย เกาหลี เป็นต้น โดยมุ่งหวังให้ร้านเซเว่นฯ เป็นจุดรับแจ้งเหตุของนักท่องเที่ยวเพื่อประสานไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่หรือ ตำรวจท่องเที่ยวให้เข้ามาช่วยเหลือ โครงการนี้ จะเริ่มได้ประมาณกลางเดือน กรกฎาคมศกนี้ นำร่องในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก เช่น กรุงเทพ พัทยา เป็นต้น และยังได้ประสานไปยังสมาคมเครื่องบินเล็ก และ เครื่องร่อน ขอความร่วมมือรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวยังมุ่งมั่นที่จะจัดหางบประมาณมาให้เพิ่มเติม โดยขณะนี้ได้ยื่นเสนอของงบกลางปี ต่อสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ราว 300-400 ล้านบาท เพื่อใช้กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมแปรญัตติงบประมาณการท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งเบื้องต้น ททท.จะได้รับจัดสรรมาประมาณ 4,478 ล้านบาท จากนั้นจะจัดทำแผนงานเสริมเพื่อของจัดสรรงบกลางปีอีกครั้งหนึ่ง
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต้องการให้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมมือกันทำงาน เพื่อความเป็นเจ้าบ้านที่ดี ส่วนการประชาสัมพันธ์จะเพิ่มช่องทางด้วยการขอความร่วมมือร้านอาหารไทยในต่างแดน และ สะใภ้ หรือ เขยคนไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติในต่างประเทศ ให้เชิญชวนญาติพี่น้อง เข้ามาเที่ยวประเทศไทย
วานนี้(30มิ.ย.51) ในการประชุมแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2552 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบนโยบายแก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ว่า ให้เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ และวางเป้าหมายที่รายได้เป็นหลัก โดยจะไม่เน้นเรื่องปริมาณของนักท่องเที่ยว ใช้วิกฤตปัญหาเศรษฐกิจโลก ,ราคาน้ำมันแพง ให้เป็นโอกาสทางการตลาด ด้วยการรักษาฐานตลาดเก่า มุ่งขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม ชูจุดขายคุณภาพและบริการที่คุ้มค่าเงินที่นักท่องเที่ยวต้องจ่ายไป เจาะตลาดระยะกลางและระยะใกล้ เพิ่มเติมในตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น โอเชเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ เพราะมั่นใจว่า จากวิกฤตราคาน้ำมันแพงนักท่องเที่ยวจะหันมาเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้เพิ่มขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย
เบื้องต้น ททท. ได้ตั้งเป้าหมาย ปี 2552 ประเทศไทยจะมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวราว 1.1 ล้านล้านบาทจากปีนี้ที่คาดว่าจะได้ราว 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 6 แสนล้านบาท และตลาดในประเทศ จะเพิ่มขึ้นอีก 5% จากเป้าหมายปีนี้ที่ตั้งไว้ 3.8 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปในการประชุมแผนการตลาด ททท.จะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค.51
“เป็นหน้าที่ของ ททท. ที่จะนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยในทุกรูปแบบที่เหมาะกับตลาดนั้นๆ แต่โจทย์ที่สำคัญ คือ ต้องให้นักท่องเที่ยวมีความสุขและความพอใจสูงสุด ซึ่งถือเป็นมิติของคุณค่าทางจิตใจ ความคุ้มค่าเงินและคุณภาพของสินค้า”
***จับมือเซเว่นฯเปิดจุดแจ้งเหตุ***
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางกระทรวงฯ ยังคงเดินหน้ามุ่ง 3 แนวทางหลักต่อเนื่องจากปี 2551 เพื่อตอกย้ำนโยบายปีแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุนไทย คือ สะอาด สะดวก และปลอดภัย และการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกตลาด
ล่าสุด ตำรวจท่องเที่ยวได้ร่วมกับร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ฝึกภาษาต่างประเทศให้แก่เจ้าหน้าที่ในร้านเซเว่นฯ เช่น ภาษา อังกฤษ รัสเซีย เกาหลี เป็นต้น โดยมุ่งหวังให้ร้านเซเว่นฯ เป็นจุดรับแจ้งเหตุของนักท่องเที่ยวเพื่อประสานไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่หรือ ตำรวจท่องเที่ยวให้เข้ามาช่วยเหลือ โครงการนี้ จะเริ่มได้ประมาณกลางเดือน กรกฎาคมศกนี้ นำร่องในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก เช่น กรุงเทพ พัทยา เป็นต้น และยังได้ประสานไปยังสมาคมเครื่องบินเล็ก และ เครื่องร่อน ขอความร่วมมือรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวยังมุ่งมั่นที่จะจัดหางบประมาณมาให้เพิ่มเติม โดยขณะนี้ได้ยื่นเสนอของงบกลางปี ต่อสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ราว 300-400 ล้านบาท เพื่อใช้กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมแปรญัตติงบประมาณการท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งเบื้องต้น ททท.จะได้รับจัดสรรมาประมาณ 4,478 ล้านบาท จากนั้นจะจัดทำแผนงานเสริมเพื่อของจัดสรรงบกลางปีอีกครั้งหนึ่ง
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต้องการให้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมมือกันทำงาน เพื่อความเป็นเจ้าบ้านที่ดี ส่วนการประชาสัมพันธ์จะเพิ่มช่องทางด้วยการขอความร่วมมือร้านอาหารไทยในต่างแดน และ สะใภ้ หรือ เขยคนไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติในต่างประเทศ ให้เชิญชวนญาติพี่น้อง เข้ามาเที่ยวประเทศไทย