ผู้จัดการรายวัน-กรมส่งเสริมการส่งออกจัดงาน Thailand Expo 2008 ที่จีน 1-3 ส.ค.นี้ หวังเปิดตลาดการค้า การลงทุน และบริการไทยเข้าสู่ตลาดจีน ด้าน ซี.พี. เตรียมขนธุรกิจในเครือไปร่วมงาน เกษตรแจกผลไม้ไทยให้ชิมฟรี พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษ ครัวไทยสู่บ้านจีน เปิดตัวสินค้าอาหารและเครื่องปรุงรสไทย จัดตกแต่งบ้านสไตล์ไทยโดยใช้สินค้าโอทอป สมาคมอัญมณีขน 30 ชุดประดับจัดโชว์ ขณะที่ท่องเที่ยวเปิดขายแพกเกจท่องเที่ยวไทยราคาพิเศษ
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกจะจัดงาน Thailand Outlet 2008 ภายใต้ชื่องาน “Thailand Expo 2008” ระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค. ณ International Convention Hall ชั้น 9 ซุปเปอร์แบรนด์ มอลล์ เขตผู่ตง ในกลางนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขยายการส่งออกและการลงทุนในสินค้าและธุรกิจบริการของไทยในจีนผ่านกิจกรรมการเจรจาธุรกิจและการค้าปลีก และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของไทยในนครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียง รวมทั้งใช้โอกาสนี้ในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในเชิงลึกสู่ตลาดจีน
โดยไฮไลต์สำคัญในงาน จะนำสินค้าและบริการไทยที่หลากหลายไปจัดแสดง ซึ่งเบื้องต้นได้รับการตอบรับจากธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่จะนำธุรกิจหลักมาร่วมงาน ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย จะนำผลไม้สดและแห้งประเภทต่างๆ มาแจกให้ชิมฟรี เพื่อให้ชาวจีนรู้จักและนิยมมากขึ้น รวมไปถึงการนำเสนอสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น กล้วยไม้และสินค้าประมง
นายไพจิตรกล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานฯ จะมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย โดยจะมีโครงการย่อย “ครัวไทยสู่บ้านจีน” เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชาวจีนเพิ่มโอกาสในการรับประทานอาหารไทยในทุกโอกาส และส่งเสริมให้มีการซื้อหาสินค้าปรุงอาหารของไทย เช่น เครื่องปรุงรส ขนมขบเคี้ยว และอาหารกระป๋อง ซึ่งในงานนี้ เฮอร์ริเทจ จะมีการนำสินค้าภายใต้แบรนด์ Nut Walker มาจำหน่ายในราคาพิเศษในงานด้วย
ส่วนสินค้าของใช้ของตกแต่งบ้านและสินค้าโอทอประดับห้าดาว จะมีการจัดกิจกรรมโดยความร่วมมือของสมาคมที่เกี่ยวข้อง ในการลงทุนตกแต่งที่อยู่อาศัยขนาดย่อม เพื่อให้เห็นภาพในมุมต่างๆ ของสินค้าตกแต่งบ้านของไทยในบ้านชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายให้มากขึ้น สำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ในการจัดงาน “ราตรีเครื่องประดับไทย” ภาค 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจัดงานเดียวกันนี้เมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยจะนำเครื่องประดับชุดพิเศษกว่า 30 ชุดมาจัดแสดง พร้อมมีคณะผู้ส่งออกนำสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจำนวนมากมาจำหน่าย
นายไพจิตรกล่าวว่า ในด้านธุรกิจบริการ นอกจากจะระดมร้านอาหารไทยในนครเซี่ยงไฮ้นับสิบแห่งมาร่วมงานกันแล้ว จะมีธุรกิจสปาและนวดแผนไทย โรงพยาบาล และการศึกษา มาร่วมงานด้วย ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็จะโปรโมท “เอเย่นต์ทัวร์คุณภาพ” พร้อมแพ็คเก็จท่องเที่ยวไทยราคาพิเศษ โดยจะแนะนำ “หัวหิน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยาและภูเก็ตมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเปิดตัวแคมเปญ “เที่ยวไป ช๊อปไป … ในไทย” สำหรับชาวจีน
ในด้านกิจกรรมสันทนาการ จะมีไฮไลท์มากมาย ตั้งแต่การนำเสนอชิ้นงานพิเศษ (Master Pieces) จากองค์กรของรัฐและเอกชนมากมาย อาทิ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เพาะช่าง และสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ขณะที่กิจกรรมบันเทิง จะมีการจัดแสดงโขนและรำไทยของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปะแม่ไม้มวยไทย นอกจากนี้ จะมีการสาธิตการปรุงอาหารไทย การแกะสลักผักและผลไม้ การเดินแฟชั่นเครื่องประดับไทย
สำหรับเป้าหมายการจัดงาน คาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมและเจรจาการค้าในงานนี้ประมาณ 20,000-30,000 คนต่อวัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ คนทำงาน และครอบครัวชาวจีนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียงที่มีรายได้ระดับปานกลาง-บน
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกจะจัดงาน Thailand Outlet 2008 ภายใต้ชื่องาน “Thailand Expo 2008” ระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค. ณ International Convention Hall ชั้น 9 ซุปเปอร์แบรนด์ มอลล์ เขตผู่ตง ในกลางนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขยายการส่งออกและการลงทุนในสินค้าและธุรกิจบริการของไทยในจีนผ่านกิจกรรมการเจรจาธุรกิจและการค้าปลีก และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของไทยในนครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียง รวมทั้งใช้โอกาสนี้ในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในเชิงลึกสู่ตลาดจีน
โดยไฮไลต์สำคัญในงาน จะนำสินค้าและบริการไทยที่หลากหลายไปจัดแสดง ซึ่งเบื้องต้นได้รับการตอบรับจากธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่จะนำธุรกิจหลักมาร่วมงาน ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย จะนำผลไม้สดและแห้งประเภทต่างๆ มาแจกให้ชิมฟรี เพื่อให้ชาวจีนรู้จักและนิยมมากขึ้น รวมไปถึงการนำเสนอสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น กล้วยไม้และสินค้าประมง
นายไพจิตรกล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานฯ จะมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย โดยจะมีโครงการย่อย “ครัวไทยสู่บ้านจีน” เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชาวจีนเพิ่มโอกาสในการรับประทานอาหารไทยในทุกโอกาส และส่งเสริมให้มีการซื้อหาสินค้าปรุงอาหารของไทย เช่น เครื่องปรุงรส ขนมขบเคี้ยว และอาหารกระป๋อง ซึ่งในงานนี้ เฮอร์ริเทจ จะมีการนำสินค้าภายใต้แบรนด์ Nut Walker มาจำหน่ายในราคาพิเศษในงานด้วย
ส่วนสินค้าของใช้ของตกแต่งบ้านและสินค้าโอทอประดับห้าดาว จะมีการจัดกิจกรรมโดยความร่วมมือของสมาคมที่เกี่ยวข้อง ในการลงทุนตกแต่งที่อยู่อาศัยขนาดย่อม เพื่อให้เห็นภาพในมุมต่างๆ ของสินค้าตกแต่งบ้านของไทยในบ้านชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายให้มากขึ้น สำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ในการจัดงาน “ราตรีเครื่องประดับไทย” ภาค 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจัดงานเดียวกันนี้เมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยจะนำเครื่องประดับชุดพิเศษกว่า 30 ชุดมาจัดแสดง พร้อมมีคณะผู้ส่งออกนำสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจำนวนมากมาจำหน่าย
นายไพจิตรกล่าวว่า ในด้านธุรกิจบริการ นอกจากจะระดมร้านอาหารไทยในนครเซี่ยงไฮ้นับสิบแห่งมาร่วมงานกันแล้ว จะมีธุรกิจสปาและนวดแผนไทย โรงพยาบาล และการศึกษา มาร่วมงานด้วย ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็จะโปรโมท “เอเย่นต์ทัวร์คุณภาพ” พร้อมแพ็คเก็จท่องเที่ยวไทยราคาพิเศษ โดยจะแนะนำ “หัวหิน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยาและภูเก็ตมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเปิดตัวแคมเปญ “เที่ยวไป ช๊อปไป … ในไทย” สำหรับชาวจีน
ในด้านกิจกรรมสันทนาการ จะมีไฮไลท์มากมาย ตั้งแต่การนำเสนอชิ้นงานพิเศษ (Master Pieces) จากองค์กรของรัฐและเอกชนมากมาย อาทิ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เพาะช่าง และสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ขณะที่กิจกรรมบันเทิง จะมีการจัดแสดงโขนและรำไทยของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปะแม่ไม้มวยไทย นอกจากนี้ จะมีการสาธิตการปรุงอาหารไทย การแกะสลักผักและผลไม้ การเดินแฟชั่นเครื่องประดับไทย
สำหรับเป้าหมายการจัดงาน คาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมและเจรจาการค้าในงานนี้ประมาณ 20,000-30,000 คนต่อวัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ คนทำงาน และครอบครัวชาวจีนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียงที่มีรายได้ระดับปานกลาง-บน